บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 227

บทที่ 227 สุสานอสูรร้าย

บทที่ 227 สุสานอสูรร้าย

“เฉินซี ความแข็งแกร่งของเจ้าไปถึงระดับใดแล้ว? กำยานสวรรค์นั้นคือแก่นโลหิตของสัตว์เทวะ กลิ่นสวรรค์แห่งดินแดนอสูรสวรรค์ มันเป็นสมบัติล้ำค่าที่จะพานพบได้โดยพึ่งโชคชะตาเท่านั้น และแม้แต่เซียนสวรรค์เองก็ปรารถนาอยากได้มาครอบครอง”

“อืม มันอัศจรรย์จริง ๆ ข้ารู้สึกว่าสิ่งสกปรกที่อยู่ภายในปราณแท้และร่างกายของข้าดูเหมือนว่าได้รับการชำระล้างออกไปแล้ว ร่างกายของข้าจึงรู้สึกปลอดโปร่งขึ้น เส้นเอ็นและกระดูกของข้าได้รับการขัดเกลาราวกับหยก และความแข็งแกร่งของข้าก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ข้าแค่ต้องทะลวงประตูบานนั้นออกไป แล้วข้าจะสามารถบรรลุไปสู่ขอบเขตแกนทองคำหยินหยางได้!”

“ถ้าอย่างนั้น เจ้าคิดว่าจะสามารถฆ่าชิงซิ่วอี้ด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ได้หรือไม่”

“ยังไม่ใช่ตอนนี้ ผู้หญิงคนนั้นได้รับประโยชน์จากกำยานสวรรค์อย่างมาก และนางสามารถบรรลุไปสู่ขอบเขตจุติได้ทุกเมื่อ เว้นแต่ข้าจะบรรลุเข้าสู่ขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง บางทีข้าอาจจะต่อสู้กับนางได้ แต่ถ้าข้าต่อสู้กับหวงฝู่ฉงหมิง หลินโม่เซวียน และคนอื่น ๆ ความมั่นใจที่จะเอาชนะพวกมันย่อมมีมากกว่าครึ่ง”

ในห้วงทะเลทรายมรณะ เฉินซีและหลิงไป๋พุ่งทะยานผ่านท้องฟ้า พวกเขาออกจากป่าประหลาดในแหล่งน้ำธรรมชาติเมื่อเจ็ดวันก่อน และในช่วงเจ็ดวันมานี้ ทั้งคู่ได้บินมาตลอดทางและไม่พบกับอันตรายใด ๆ

แต่เมื่อพวกเขาล่วงลึกเข้าไปยิ่งขึ้น อุณหภูมิในห้วงทะเลทรายมรณะก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ และอุณหภูมิที่ร้อนแรงก็ทำให้อากาศบิดเบี้ยวจนผิดรูป แม้แต่เปลวเพลิงวิญญาณต่าง ๆ ก็มักพวยพุ่งออกมาจากท้องฟ้า อันได้แก่ เปลวเพลิงสุริยันสีแดงเข้ม เปลวเพลิงยมโลกสีน้ำเงิน เปลวเพลิงหยกสีเขียวเข้ม เปลวเพลิงอเวจีอัสนีไร้สี…

เปลวเพลิงวิญญาณทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่หาได้ยากในสวรรค์และโลกซึ่งมีคุณภาพสูงมาก พวกมันสามารถขายได้ในราคาที่สูงเทียมฟ้าในโลกภายนอก และการใช้มันเพื่อขัดเกลาอุปกรณ์ กลั่นเม็ดยา และปรับปรุงเคล็ดวิชาการบ่มเพาะก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ตาม เปลวเพลิงวิญญาณเหล่านี้ในห้วงทะเลทรายมรณะไม่ได้ถูกทำให้เชื่องและไม่อาจขัดเกลาได้ง่ายนัก พวกมันจึงรุนแรงและดื้อรั้นเป็นอย่างยิ่ง ผู้บ่มเพาะที่มีฐานการบ่มเพาะที่ด้อยกว่าจะถูกเผาโดยเปลวเพลิงวิญญาณเหล่านี้ทันที

ครั้งหนึ่ง เฉินซีเคยเห็นกลุ่มผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำขั้นต้นสามคนถูกโจมตีโดยเปลวเพลิงสุริยันนับพันลูก และก่อนที่พวกเขาจะส่งเสียงกรีดร้อง ร่างกายของพวกเขาก็ถูกแผดเผาจนไม่เหลือซาก ไม่เหลือแม้แต่เถ้ากระดูก เสมือนกับระเหยหายไปในอากาศ และเป็นภาพที่น่าสยดสยองเป็นอย่างยิ่ง

สิ่งนี้ได้ปัดเป่าความคิดที่จะรวบรวมเปลวเพลิงวิญญาณเหล่านี้ของเฉินซี เช่นเดียวกับความแข็งแกร่งของเขาในปัจจุบัน ชายหนุ่มเองก็ไม่แน่ใจว่าตัวเขาเองจะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างปลอดภัยในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิง โดยอาศัยอักขระจ้าววิญญาณแห่งดาราอัคคีที่สามบนหลังของเขา ยิ่งไปกว่านั้น เขาต้องคอยระแวดระวังเปลวไฟที่จะพวยพุ่งออกมาจากท้องฟ้าตลอดเวลาเหล่านี้ ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้เขาไม่มีพลังงานสำรองที่จะรวบรวมเปลวเพลิงวิญญาณเหล่านี้

สามวันต่อมา หลังจากที่เขาผ่านบริเวณที่เปลวเพลิงวิญญาณโหมกระหน่ำ ทิวทัศน์ตรงหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที

สุสานที่สูงถึงสิบสองจั้งจำนวนมากกระจายทั่วทะเลทรายอย่างหนาแน่น พวกมันมีสีดำสนิทและมีรูปร่างเหมือนยอดแหลม กระจายอยู่ทุกซอกทุกมุมที่สายตามองเห็น อาณาบริเวณโดยรอบที่นี่ดูเหมือนจะถูกปกคลุมด้วยหมอกสีดำ เมื่อมองออกไปไกล ๆ สุสานจำนวนมากเหล่านั้นถูกห้อมล้อมด้วยหมอกสีดำสนิทที่เหมือนกับวิญญาณพเนจรที่ล่องลอยไปทั่วทั้งท้องฟ้า อีกทั้งยังมีเสียงกรีดร้องโหยหวนและเสียงร้องคร่ำครวญอันน่าสลดใจที่เปล่งออกมาจากพวกมัน จึงทำให้รู้สึกหนาวสะท้านไปถึงสันหลัง

สุสานอสูรร้าย!

สายตาของเฉินซีกวาดไปโดยรอบ ทำให้เขารับรู้ได้ทันทีว่าเขาอยู่ที่ใดและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสุสานอสูรร้ายก็แวบเข้ามาในใจของเขา

ตามที่มีข่าวลือ สถานที่แห่งนี้เคยเป็นฐานทัพของเหล่าอสูรสวรรค์ในระหว่างการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างเทพและอสูรเมื่อไม่กี่หมื่นปีก่อน และมีนักรบอสูรสวรรค์นับร้อยล้านตนประจำการอยู่ที่นี่ นักรบอสูรสวรรค์ทุกตนที่เสียชีวิตจะถูกฝังไว้ที่นี่ และเมื่อเวลาผ่านไป มันก็กลายเป็นพื้นที่ฝังศพขนาดมหึมาที่ครอบคลุมระยะทางนับหมื่นลี้ หลังจากประสบกับการเปลี่ยนแปลงมานับไม่ถ้วนจนถึงตอนนี้ กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวของอสูรนั้นได้ทะยานขึ้นสู่สวรรค์ทั้งเก้าแล้วและไม่เคยจางหายไปอีกเลย

แต่สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดก็คือ หากผู้บ่มเพาะธรรมดาเข้ามายังที่แห่งนี้ จิตใจของพวกเขาจะถูกวิญญาณชั่วร้ายกลืนกินเข้าไป และวิญญาณร้ายเหล่านั้นจะสิงสู่ร่างกายของพวกเขา ก่อนจะเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ดุร้าย โหดเหี้ยม และกระหายเลือด ซึ่งไม่ใช่ทั้งมนุษย์หรือสัตว์ร้าย และวิญญาณของพวกเขาจะไม่อาจได้รับการปลดปล่อยได้ชั่วนิรันดร์!

“กรร!” ในขณะที่เฉินซีกำลังกะขนาดสุสานอสูรร้าย จู่ ๆ สัตว์ประหลาดก็พุ่งออกมาจากเงามืดของสุสานที่อยู่ใกล้ ๆ และมันก็กระโจนขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนจะข่วนกรงเล็บไปที่เขา

สัตว์ประหลาดตัวนี้ถูกปกคลุมด้วยหมอกสีดำ มันมีดวงตาสีแดงเข้ม มุมปากเปรอะไปด้วยสีม่วง และมีเขี้ยวแหลมคู่หนึ่งที่ยาวถึงสองฉื่อ รูปร่างของมันเหมือนคมกระบี่ ยิ่งไปกว่านั้น เล็บที่มือของมันก็ยาวถึงหนึ่งฉื่อ แต่ละเล็บเหมือนกับหนามที่อาบไปด้วยเลือดเป็นมันเงา

อสูรร้าย!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]