บทที่ 236 ศิลาทดสอบเต๋าของจักรพรรดิสิ่งประดิษฐ์
บทที่ 236 ศิลาทดสอบเต๋าของจักรพรรดิสิ่งประดิษฐ์
ไม่อาจทำร้ายคนอื่นหรือ?
หวงฝู่ฉงหมิงและหลิวเฟิ่งฉือต่างก็ตกตะลึงเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของเจิ้นหลิวชิง และใบหน้าที่ไม่น่าดูของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความสงสัยและประหลาดใจในทันที
พวกเขาทั้งสองดูเหมือนจะไม่เชื่อในคำพูดของนาง จึงลอบส่งญาณสัมผัสของพวกเขาไปตรวจสอบ จึงพบว่ามีม่านป้องกันที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าอยู่รอบ ๆ ร่างกายของพวกเขา ม่านป้องกันนี้ไม่เพียงแต่จำกัดเสรีภาพของพวกเขา แต่มันยังมีผลยับยั้งพลังงานต่าง ๆ มากมายและไม่อาจต้านทานได้เลยสักนิด ทำให้ต้องทำลายม่านป้องกันนี้จึงจะสามารถโจมตีได้อีกครั้งหนึ่ง
แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถแตะต้องม่านป้องกันนี้ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันได้อย่างเต็มที่ แล้วนับประสาอะไรกับการทำลายมัน
แสดงว่าเจ้าเด็กคนนี้พบการมีอยู่ของม่านป้องกันนี้ ดังนั้นจึงกล้าหยิ่งผยอง!
ทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นมองไปที่เฉินซี พวกเขาต่างก็รู้สึกโกรธแค้นในใจ ทำให้สีหน้าของพวกเขาดูอำมหิตยิ่งนัก พวกเขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเหตุใดเจ้าเด็กคนนี้ถึงโชคดีทุกครั้ง เสมือนกับว่าเขาได้รับการจัดเตรียมจากสวรรค์โดยไม่รู้ตัว ทำให้โชคของเขาดีเยี่ยมจนแม้แต่พวกเขายังต้องอิจฉาเป็นอย่างมาก
“องค์ชายน้อย ท่านไม่จำเป็นต้องโกรธเคือง เราแค่อดทนไปก่อน แม้ว่าเราจะไม่สามารถฆ่ากันเองได้ในระหว่างบททดสอบทั้งสาม แต่ก็มีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ซวนหนีคอยปกป้องสมบัติในการทดสอบครั้งที่สามอยู่ ด้วยฐานการบ่มเพาะของเจ้าเด็กคนนี้ มันจะต้องถูกซวนหนีฆ่าเพียงชั่วพริบตา เมื่อถึงเวลานั้น เราเพียงต้องปล้นทรัพย์สมบัติที่เขาครอบครอง” หลิวเฟิ่งฉือหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่เขาส่งเสียงด้วยเสียงที่เศร้าหมอง
“เราทำได้เพียงเท่านี้!” หวงฝู่ฉงหมิงกัดฟันขณะที่เขากล่าว และน้ำเสียงของเขาก็เผยให้เห็นความเกลียดชังที่ไม่อาจปกปิดได้ “เจ้าเด็กคนนี้โชคดีเกินไป หากเราปล่อยให้มันเติบโตมากกว่านี้ มันจะต้องสร้างหายนะให้แก่เราอย่างแน่นอน ดังนั้นคราวนี้เราจะต้องทำลายล้างมันให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!”
ดวงตาของหลิวเฟิ่งฉือหรี่ลงเล็กน้อยขณะที่เขาเห็นด้วยในใจ เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่มีศักยภาพไร้ขอบเขต อีกทั้งยังมีโชคดีมหาศาล หากต้องฆ่าศัตรูตัวนี้ก่อนที่จะเติบโต ก็ต้องฆ่าในขณะที่ยังไม่ปีกกล้าขาแข็งเท่านั้น หลิวเฟิ่งฉือจะสามารถสบายใจได้อย่างเต็มที่
‘สองคนนี้กำลังเผยเจตนาฆ่าต่อข้า ข้าต้องกำจัดพวกมันให้เร็วที่สุด!’ เฉินซีที่อยู่ใกล้ ๆ สังเกตเห็นเจตนาฆ่าที่ทั้งสองคนมีต่อเขาอย่างรุนแรง และเขาวางแผนไว้ในใจ
‘น่าสนใจ น่าสนใจ ทั้งสามคนนี้มีแผนการในใจของตัวเองและไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการฆ่าอีกฝ่าย ข้าสงสัยนักว่าเหตุใดพวกเขาถึงมีความเกลียดชังระหว่างกัน ข้าควรหาโอกาสสืบทราบภูมิหลังของชายหนุ่มผู้นี้แล้ว’ ในอีกด้านหนึ่ง เจิ้นหลิวชิงซึ่งเป็นผู้ชมอยู่นั้นมีความคิดมากมายอยู่ในใจ และดูเหมือนว่านางจะตกอยู่ในห้วงความคิด
ฟิ้ว!
ทันใดนั้น ก็มีแสงสีขาวสว่างวาบ ในขณะที่ผู้บ่มเพาะคนอื่นผ่านบททดสอบแรกและกลายเป็นผู้โชคดีคนที่ห้าที่ได้รับกระบวนยุทธ์ระดับเต๋า และเมื่อเฉินซีเงยหน้าขึ้นมอง คนผู้นั้นคือหลินโม่เซวียนแห่งนิกายสวรรค์ปฐพี
หลังจากที่หลินโม่เซวียนปรากฏตัว เขาก็กวาดสายตาไปยังคนรอบข้าง และเมื่อเขาเห็นเฉินซีปรากฏกายอยู่เบื้องหน้าเขา ใบหน้าที่หยิ่งยโสและอวดดีของเขาก็ฉายแววเศร้าหมองทันที เห็นได้ชัดว่าเขาแพ้เฉินซีในอันดับการผ่านบททดสอบแรก ทำให้เขารู้สึกอับอายอย่างมาก
‘ข้าต้องหาโอกาสฆ่าเจ้าเด็กบัดซบคนนี้ให้ได้!’ หลินโม่เซวียนไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการฆ่าเฉินซีทันทีที่สบโอกาสเช่นกัน อีกทั้งเหตุผลเบื้องหลังนี้ก็เหมือนกับหวงฝู่ฉงหมิงและหลิวเฟิ่งฉือ
ไม่นานหลังจากที่หลินโม่เซวียนปรากฏตัว หม่านหง อันเชี่ยนอวี้ เผยจง เซียวหลิงเอ๋อร์ หวังเต้าซวี่ เซวี่ยเฉิน ถันไถหง และคนอื่น ๆ รวมถึงผู้บ่มเพาะรุ่นเยาว์คนอื่น ๆ ที่ผ่านบททดสอบแรก ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นในห้องโถง
ตามลำดับการปรากฏตัวของพวกเขา สามารถสังเกตได้ว่า หม่านหงอยู่ในอันดับที่หก อันเชี่ยนอวี้อยู่ที่เจ็ด เผยจงอยู่ที่แปด เซียวหลิงเอ๋อร์อยู่ที่เก้า หวังเต้าซวี่อยู่ที่สิบ และเซวี่ยเฉินอยู่ที่สิบเอ็ด…
แต่อันดับที่สิบสองกลับไม่ใช่ถันไถหง แต่เป็นเยว่ฉี ผู้บ่มเพาะหนุ่มจากนิกายจันทราบรรพกาลของแดนเถื่อนทางตอนเหนือ เขาสวมเสื้อผ้าสีเทาและมีรูปลักษณ์ธรรมดาที่มองข้ามได้ง่ายมาก แต่เนื่องจากเยว่ฉีสามารถเป็นผู้บ่มเพาะคนที่สิบสองที่ผ่านบททดสอบแรก ไม่ว่าเขาจะดูธรรมดาแค่ไหน เขาก็ยังคงดึงดูดความสนใจของทุกคน
‘นี่คือม้ามืด!’
ทุกคนล้วนคิดเช่นนั้น แต่เมื่อเทียบกับเยว่ฉีแล้ว จำนวนความสนใจที่เฉินซีได้รับนั้นกลับสูงกว่า ท้ายที่สุด เขาก็เป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตเคหาทองคำขั้นสมบูรณ์ แต่กลับได้อันดับที่สี่และได้รับกระบวนยุทธ์ระดับเต๋า สิ่งนี้จะไม่ทำให้ผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางคนอื่นประหลาดใจที่ไม่ได้รับอันดับได้อย่างไร?
และมีแม้กระทั่งบางคนที่ส่อแววเจตนาร้าย และพวกเขาตั้งใจที่จะฆ่าเฉินซีเพื่อยึดสมบัติหลังจากที่พวกเขาออกจากขุมสมบัติ
เมื่อได้รับความสนใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากเหล่าผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง เฉินซีดูเหมือนจะไม่ได้มีความสนใจต่อสิ่งใดและเป็นเหมือนนกกระเรียนป่าที่บินอยู่ท่ามกลางก้อนเมฆ สีหน้าของเขาสงบนิ่งยามที่เขายังคงไม่ขยับเขยื้อน แต่เขากลับหัวเราะอย่างเย็นชาโดยไม่มีที่สิ้นสุดอยู่ในใจของเขา
‘ความแข็งแกร่งของคนเหล่านี้เห็นได้ชัดว่าอ่อนแอกว่าหวงฝู่ฉงหมิง และคนอื่น ๆ ดังนั้นหากพวกมันกล้าล่วงเกินข้า ข้าเองก็ไม่รังเกียจที่จะมอบบทเรียนอันเจ็บปวดที่พวกมันไม่สามารถลืมได้ไปตลอดชีวิต!’
ครืนนนน!
เมื่อผู้บ่มเพาะคนสุดท้ายที่ผ่านบททดสอบแรกปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน พื้นดินตรงกลางห้องโถงก็แตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ กลายเป็นแผ่นศิลาโบราณที่ค้ำยันท้องฟ้าที่โผล่ขึ้นมาจากด้านล่าง แผ่นศิลาเปล่งรัศมีออกมามากมาย เช่น สายลม วารี ปฐพี อัคคี ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว… ท่ามกลางรัศมีที่ไร้ขอบเขตเหล่านี้ มีรัศมีของเต๋ารู้แจ้งปรากฏอยู่!
“แท้จริงแล้วมันคือศิลาทดสอบเต๋าของจักรพรรดิสิ่งประดิษฐ์ ตามตำนาน ในช่วงยุคบรรพกาล เพื่อวัดระดับขอบเขตเต๋าแห่งการรู้แจ้งของผู้บ่มเพาะในโลก จักรพรรดิสิ่งประดิษฐ์นั้นเป็นผู้มีความรู้เกี่ยวกับจักรวาลอย่างถ่องแท้ เขาได้รวบรวมศิลาเทวะโกลาหลมาจากเมื่อครั้งที่โลกก่อตัวขึ้น และใช้เวลาหลายพันปีในการขัดเกลาศิลาทดสอบเต๋าทั้ง 99,999 ก้อน จากนั้นเขาก็แจกจ่ายมันไปทั่วโลกเพื่อให้กลายเป็นสมบัติเทวะที่วัดการใช้เต๋ารู้แจ้งในทั้งสามภพ ข้าโชคดีโดยไม่คาดคิดที่ได้เห็นพวกมันที่นี่ ไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่ามันจะเป็นเรื่องจริง”
“ถูกต้องแล้ว ในดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลของราชวงศ์ซ่ง มีเพียงราชสำนักในนครหลวงธารสายไหมเท่านั้นที่มีสมบัติเทวะเช่นนี้ และเห็นได้ชัดว่ามันมีค่ามากเพียงใด ตามตำนาน หินก้อนนี้ไม่เพียงแต่สามารถวัดเต๋ารู้แจ้งที่ผู้บ่มเพาะหยั่งถึงได้เท่านั้น แต่ยังสามารถวัดเต๋ารู้แจ้งที่ซ่อนอยู่ ซึ่งผู้บ่มเพาะไม่ได้สังเกตเห็น มันเป็นการสร้างจากสวรรค์ที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...