บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 237

บทที่ 237 ประชันเต๋ารู้แจ้ง

บทที่ 237 ประชันเต๋ารู้แจ้ง

โอม!

ในทันทีที่หวงฝู่ฉงหมิงนั่งขัดสมาธิบนพื้น ศิลาทดสอบเต๋าก็กลายเป็นสีดำดั่งรัตติกาลก่อนกำเนิดใต้หล้า ไร้ตะวัน ไร้จันทร์ ไร้ดารา ไม่เห็นแสงหรือเปลวเพลิง

มันเป็นสีดำสนิท ประหนึ่งเป็นที่สุดแห่งความมืดมิด เมื่อมองจากระยะไกล ความมืดมิดนี้ดูคล้ายจะดูดวิญญาณคนเข้าไปได้ ดูลึกลับและลึกล้ำนัก

บรรยากาศในห้องโถงเงียบลงทันทีเมื่อทุกคนเห็นภาพฉากนี้ เงียบสนิทจนได้ยินเสียงเข็มหล่น

ทุกคนกลั้นหายใจและจ้องมองไปยังศิลาทดสอบเต๋า เหมือนกลัวว่าจะพลาดสิ่งใดไป

ฟึ่บ!

หวงฝู่ฉงหมิงที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นถูกรัศมีแสงสีดำโอบล้อมไว้ ในขณะที่เหนือศีรษะเกิดแสงพร่างพราวขึ้นอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นศิลาทดสอบเต๋า กลายเป็นแสงสว่างเดียวในความมืดไร้ขอบเขต

“ในจักรวาลไร้แดน ยามที่ความโกลาหลเพิ่งบังเกิด สวรรค์เคยเผยให้เห็นถึงสัญญาณเต๋ารู้แจ้งมาแล้ว ซึ่งก็คือแสงศักดิ์สิทธิ์สุกสกาวเช่นนี้ ข่าวลือนั่นเป็นความจริง แสงศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏออกมาจากศิลาทดสอบเต๋าคือเต๋ารู้แจ้งที่ผู้บ่มเพาะเข้าใจ แสงศักดิ์สิทธิ์แต่ละสายก็คือตัวแทนเต๋ารู้แจ้งแต่ละประเภท!” มีคนร้องออกมาด้วยความตกใจ เป็นเสียงที่ชัดเจนมากเมื่อดังขึ้นในบรรยากาศที่เงียบสงบเช่นนี้

เฉินซีที่ยืนอยู่ห่างออกไปด้านหลังฝูงชนเข้าใจว่าแสงที่เปล่งออกมาจากศิลาทดสอบเต๋าเป็นสิ่งแทนเต๋ารู้แจ้งที่หวงฝู่ฉงหมิงเข้าใจ ส่วนจะเป็นเต๋ารู้แจ้งอะไรบ้างนั้น เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อาจรู้ได้

ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!

จากนั้นแสงศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากก็พุ่งออกมาจากจุดเหนือศีรษะของหวงฝู่ฉงหมิง มันปรากฏอยู่บนศิลาทดสอบเต๋า ไม่กี่อึดใจก็ทดสอบเต๋ารู้แจ้งออกมาได้ถึงสิบห้าประเภท!

“พระเจ้า! เป็นเต๋ารู้แจ้งสิบห้าประเภท องค์ชายหวงฝู่สมกับเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากของตำหนักจ้าวปัญญาจริง ๆ เขาจะต้องได้หนึ่งในเก้าโอสถทิพย์กำเนิดเต๋าแน่!”

เสียงประหลาดใจดังออกมาจากบริเวณโดยรอบเป็นระลอกใหญ่ เห็นได้ชัดว่าจำนวนเต๋ารู้แจ้งที่หวงฝู่ฉงหมิงเข้าใจนั้น มากเกินจินตนาการของหลาย ๆ คนไปแล้ว

ในโลกแห่งการบ่มเพาะพลังของราชวงศ์ซ่ง อัจฉริยะนั้นถูกแบ่งออกเป็นหลายระดับ การที่ผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางรุ่นเยาว์จะสามารถเข้าใจเต๋ารู้แจ้งห้าประเภทได้ก็นับว่ามีฝีมือโดดเด่นแล้ว ส่วนพวกที่เข้าใจเต๋ารู้แจ้งหกถึงเก้าประเภทนับว่ามีพรสวรรค์ไม่ธรรมดา ส่วนที่เข้าใจสิบถึงสิบสามประเภทนับเป็นอัจฉริยะจนน่าตะลึง หากมากกว่าสิบสามประเภทก็จะยืนอยู่บนจุดสูงสุดแห่งยอดอัจฉริยะทีเดียว!

เห็นได้ชัดว่าทุกคนในที่นี้มองหวงฝู่ฉงหมิงว่าเป็นยอดอัจฉริยะเหนืออัจฉริยะเช่นนั้น

เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว หลิวเฟิ่งฉือ หลินโม่เซวียน หม่านหง เซียวหลิงเอ๋อร์ อันเชี่ยนอวี้ และหวังเต้าซวี่ก็ตกใจ เพราะตามที่พวกเขารู้มา จำนวนเต๋ารู้แจ้งที่หวงฝู่ฉงหมิงมีนั้นควรอยู่ที่สิบสามประเภทเท่านั้น

แต่จากนั้นไม่นานพวกเขาก็เข้าใจว่า หวงฝู่ฉงหมิงจะต้องมีเต๋ารู้แจ้งที่ซ่อนเร้นอยู่อีกสองประเภท ทว่าศิลาทดสอบเต๋าสามารถวัดออกมาได้เป็นแน่ ดังนั้นจึงมีจำนวนแสงศักดิ์สิทธิ์ถึงสิบห้าสาย

ผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางรุ่นเยาว์เช่นพวกเขามักมีเต๋ารู้แจ้งเท่า ๆ กัน ฝีมือทัดเทียมกันได้ ยากนักที่จะมีฝีมือห่างชั้นกับคนอื่น

ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาก็อยู่ในอันดับต้น ๆ ของผู้บ่มเพาะรุ่นเดียวกัน จะก้าวหน้าไปอีกสักก้าวน้อย ๆ ก็นับว่ายากมากทีเดียว เว้นแต่จะเป็นเซียนสวรรค์อวตารอย่างชิงซิ่วอี้ หากเช่นนั้นก็อาจจะสามารถเหนือกว่าคนอื่นได้

‘เต๋ารู้แจ้งสิบห้าประเภทหรือ? ไม่คิดเลยว่าสหายผู้นี้จะแกร่งเช่นนี้ ข้ามีเต๋ารู้แจ้งห้าธาตุเพียงสิบสามประเภท คือหยิน หยาง สายฟ้า สายลม ดารา นภา ปารมิตา และลืมเลือน ไม่รู้ว่าจะได้รับการจัดอันดับไว้ที่เก้าอันดับสูงสุดของโอสถทิพย์กำเนิดเต๋าได้หรือไม่…’ หลังจากได้เห็นฝีมือน่าทึ่งของหวงฝู่ฉงหมิงแล้ว หากเฉินซีบอกว่าไม่กังวลก็คงโกหก โอสถทิพย์กำเนิดเต๋าเป็นสมบัติล้ำค่า สามารถทำให้ผู้บ่มเพาะเชี่ยวชาญเต๋ารู้แจ้งได้ทันที ไม่มีใครอยากนั่งมองคนอื่นได้มันไปเฉย ๆ หรอก

“หลิวเฟิ่งฉือแห่งเกาะฉลามมังกรก็กำลังจะไปวัดประเภทเต๋ารู้แจ้งเช่นกัน…” ทันทีที่ทุกคนส่งเสียงตกใจเพราะหวงฝู่ฉงหมิง หลิวเฟิ่งฉือในชุดสีน้ำเงินก็ค่อย ๆ ก้าวขึ้นมาและนั่งขัดสมาธิใต้ศิลาทดสอบเต๋าอย่างสง่าผ่าเผย

“พี่หลิวอย่ากดดันเล่า ขอให้โชคดี! ฮ่า ๆ!” หวงฝู่ฉงหมิงที่กำลังออกมาตบไหล่หลิวเฟิ่งฉือแล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง แววตาเผยความพึงพอใจ แม้เขากับหลิวเฟิ่งฉือจะร่วมมือกันอยู่ แต่ก็ไม่คิดว่าหลิวเฟิ่งฉือจะเหนือชั้นกว่าเขาในเรื่องการรู้แจ้งถึงเต๋า

หลิวเฟิ่งฉือยิ้มก่อนหายใจเข้าลึก ๆ และเงียบไป

โอม!

ภายใต้ความสนใจของทุกคน ทั่วร่างหลิวเฟิ่งฉือถูกรัศมีสีดำของศิลาทดสอบเต๋าโอบล้อม ทว่ากลับมีแสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งออกมาจากเหนือร่างเขาอย่างรวดเร็วและปรากฏขึ้นบนศิลาทดสอบเต๋า

เต๋ารู้แจ้งสิบสี่ประเภท! ด้อยกว่าหวงฝู่ฉงหมิงเพียงประเภทเดียวเท่านั้น

การทดสอบเต๋าของหลิวเฟิ่งฉือเรียกเสียงร้องชื่นชมจากทุกคนได้อีกครั้ง ผลลัพธ์เช่นนี้นับว่าค่อนข้างแข็งแกร่งทีเดียว อย่างน้อยเขาก็นับว่าอยู่บนจุดสูงสุดของเหล่าอัจฉริยะราชวงศ์ซ่งแล้ว

“ขอข้าลองบ้าง!” ทันทีที่หลิวเฟิ่งฉือเดินออกมา หม่านหงที่มีร่างกำยำก็ก้าวยาว ๆ ขึ้นมาทันที เขาผลักหลินโม่เซวียนที่กำลังเดินออกมาไปด้านข้าง ก่อนจะนั่งขัดสมาธิอยู่ใต้ศิลาทดสอบเต๋า

‘เป็นคนกักขฬะเสียจริง ดูซิว่าจะมีเต๋ารู้แจ้งมากแค่ไหน!’ แววตาของหลินโม่เซวียนฉายแววโกรธเกรี้ยว แต่เขาก็ยังเม้มริมฝีปากและเงียบไว้

ไม่นานผลลัพธ์ก็ปรากฏชัดเจน หม่านหงเองก็ทัดเทียมกัน เขาครอบครองเต๋ารู้แจ้งสิบสี่ประเภทเท่ากับหลิวเฟิ่งฉือ และต่างกับหวงฝู่ฉงหมิงเพียงเต๋าเดียวเท่านั้น

เมื่อเห็นภาพและร้องเสียงชื่นชมออกมาแล้ว คนอื่น ๆ ก็อดรู้สึกกังวลไม่ได้ สามคนที่ขึ้นมาทดสอบเต๋าล้วนฝีมือหาได้ยากทั้งสิ้น แต่มีโอสถทิพย์กำเนิดเต๋าเพียงเก้าเม็ดเท่านั้น เช่นนี้พวกเขาจะมีโอกาสได้โอสถหรือ?

อย่างไรก็ดี เมื่อหลินโม่เซวียน เซียวหลิงเอ๋อร์ เผยจง เซวี่ยเฉิน และคนอื่นๆ ปรากฏตัวขึ้นอีก อารมณ์ของคนเหล่านั้นจึงวูบดิ่งลงไปในเวลาไม่นาน

คงไม่อาจทำอะไรได้ ศิษย์สายหลักรุ่นเยาว์ของนิกายทั้งหลายช่างโหดร้ายกันเกินไปจริง ๆ หลินโม่เซวียน เซียวหลิงเอ๋อร์ และเผยจงล้วนมีเต๋ารู้แจ้งสิบสามประเภท นับเป็นอันดับสามเมื่อเทียบกับหวงฝู่ฉงหมิง หลิวเฟิ่งฉือ และหม่านหง มีเพียงเซวี่ยเฉินเท่านั้นที่มีสิบสองประเภท แต่ผลเช่นนี้คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่อาจเอื้อมถึงอยู่ดี

หลังจากหวงฝู่ฉงหมิงและคนอื่น ๆ ก้าวลงมา พวกเขาจึงเข้าไปบ้าง พวกเขาไม่ได้หวังอะไรมากแล้ว แต่หวังว่าจะมีเต๋าแห่งการรู้แจ้งซ่อนเร้นอยู่บ้าง เพื่อให้ไต่อันดับไปถึงเก้าอันดับแรกได้

แต่น่าเสียดาย หลังจากวัดพลังผ่านไปหลายร้อยคน ก็ยังไม่มีใครมีเต๋ารู้แจ้งมากกว่าสิบประเภท มากสุดเพียงเก้าเท่านั้น หากไม่มีเรื่องเหนือความคาดหมายเกิดขึ้น เช่นนั้นก็นับว่าไม่อาจได้โอสถทิพย์กำเนิดเต๋าแล้ว

ในตอนนี้เหลือเพียงเฉินซี อันเชี่ยนอวี้ หวังเต้าซวี่ เจิ้นหลิวชิง และเยว่ฉีที่ยังไม่ได้วัดพลัง สายตาของทุกคนจึงมองมาทางพวกเขาอย่างพร้อมเพรียงกัน

ทุกคนล้วนมองอันเชี่ยนอวี้ หวังเต้าซวี่ และเจิ้นหลิวชิง ซึ่งนับว่ามีชื่อในรุ่นเยาว์อยู่บ้าง ส่วนเฉินซีและเยว่ฉี สหายน้อยที่อยู่ขอบเขตเคหาทองคำขั้นสมบูรณ์ และคนอื่น ๆ นับเป็นพวกธรรมดา ดังนั้นย่อมไม่อาจเทียบกับกลุ่มของอันเชี่ยนอวี้ได้

แต่เพราะเฉินซีและเยว่ฉีสามารถฟันฝ่าบททดสอบเข้ามาเป็นอันดับสี่และสิบสองได้ ดังนั้นถึงทั้งคู่จะเก็บตัวเงียบ แต่ก็ยังมีคนสนใจอยู่บ้าง

“แม่นางเจิ้น ข้าได้ยินมาตลอดว่าความแข็งแกร่งของเจ้านั่นเกินจะหยั่ง ทั้งจักรพรรดิฉู่ยังชื่นชมเจ้าอีกด้วย ทั้งยังยกย่องเจ้าเป็นอัจฉริยะเทียบเท่ากับชิงซิ่วอี้และหวงฝู่ฉิงอิง ข้ากล้าสรุปว่าเจ้าต้องได้โอสถทิพย์กำเนิดเต๋ามาแน่” หวงฝู่ฉงหมิงกวาดตามอง จงใจข้ามเฉินซีและคนอื่น ๆ ไปหยุดอยู่ที่เจิ้นหลิวชิง ก่อนเอ่ยขึ้นด้วยสายตาดั่งเปลวเพลิง “มีโอกาสเช่นนี้ พวกข้าขอยลเต๋ารู้แจ้งของแม่นางเจิ้นสักหน่อยเป็นไร?”

ในมุมมองของเขา เนื่องจากเจิ้นหลิวชิงผ่านการทดสอบแรกมาอย่างเหนือชั้นจนได้รับอันดับที่หนึ่ง ก็แน่ชัดแล้วว่านางมีความแข็งแกร่งเกินหยั่ง ดังนั้นในบรรดาคนที่อยู่ที่นี่ เขาจึงไม่กล้ามองข้ามเพียงเจิ้นหลิวชิง และยังรู้สึกว่าอันดับที่หนึ่งในการทดสอบที่สอง หากไม่ใช่เขาก็คงต้องเป็นเจิ้นหลิวชิงเท่านั้น

หวงฝู่ฉงหมิงเองก็ไม่ได้ประมาทอันเชี่ยนอวี้และหวังเต้าซวี่เช่นกัน แต่ในใจก็ยังมองสองคนด้อยกว่าตนอยู่ดี ส่วนเฉินซีและม้ามืดที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัว เขาก็ไม่สนอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าไม่ได้ใส่ใจเลย แต่เท่าที่มอง คนไร้ชื่อเช่นพวกนั้นไม่อาจมีเต๋ารู้แจ้งได้มากเท่าเขาหรอก เช่นนั้นจะใส่ใจไปทำไมกัน?

ถ้อยคำของหวงฝู่ฉงหมิงทำเอาทุกคนสนใจในพลัน เจิ้นหลิวชิงกลายเป็นจุดรวมสายตา ทำให้อันเชี่ยนอวี้และหวังเต้าซวี่ดูด้อยลงไปเมื่อเทียบกัน

เฉินซีเห็นชัดเจนว่าด้วยคำพูดหวงฝู่ฉงหมิง บนใบหน้าอันเชี่ยนอวี้และหวังเต้าซวี่ที่ถูกมองข้ามก็ฉายแววโกรธขึ้นมา ส่วนเยว่ฉีกลับดูเหมือนไม้ท่อนหนึ่ง ดูนิ่งสงบไม่สนใจสิ่งใด

‘น่าสนใจนี่ เจิ้นหลิวชิงย่อมแกร่งแน่นอน ส่วนอันเชี่ยนอวี้และหวังเต้าซวี่ก็เหนือกว่าเล็กน้อย แต่หากให้เทียบกัน ไม่แน่ว่าเยว่ฉีอาจเป็นคนที่น่าสนใจที่สุด…’ เฉินซีตกยู่ในภวังค์ และรู้สึกน้อย ๆ ว่าเยว่ฉีไม่ได้เรียบง่ายอย่างเปลือกนอก

“ในเมื่อองค์ชายน้อยพูดแบบนี้แล้วข้าจะกล้าฝ่าฝืนคำท่านได้อย่างไร?” เมื่อถูกจ้องด้วยสายตามากมายเช่นนี้ เจิ้นหลิวชิงก็ยังดูนิ่งสงบ นางยิ้มบางออกมาแล้วเดินไปนั่งขัดสมาธิใต้ศิลาทดสอบเต๋า

โอม!

ภายใต้สายตาจดจ่อจากทุกฝ่าย แสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งออกมาจากเจิ้นหลิวชิงนั้นคล้ายดอกไม้ไฟที่เบ่งบานในรัตติกาลแห่งศิลาทดสอบเต๋า ดูสุกสว่างนัก

“ห้า”

“เก้า”

“สิบสาม! นางเหนือกว่าเซวี่ยเฉินแห่งนิกายกระเรียนพิสุทธิ์ ทัดเทียมกับหลินโม่เซวียนและคนอื่น ๆ ทีเดียว!”

“เดี๋ยวก่อน มันยังไม่จบ พระเจ้า! สิบสี่! นางไล่หลิวเฟิ่งฉือกับหม่านหงมาเลย!”

ขณะที่สายตาล้วนจับจ้องแสงศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งออกมาจากศิลาทดสอบเต๋า ทั่วทั้งโถงก็เกิดเสียงอื้ออึง ทุกคนร้องเสียงตื่นตกใจออกมา

เมื่อเห็นว่าแสงของเจิ้นหลิวชิงหยุดอยู่ที่จำนวนสิบหกเส้น ก็ไร้เสียงตื่นตกใจใดอีก เพราะทุกคนอึ้งไปกันหมดแล้ว

เต๋ารู้แจ้งสิบหกประเภท!

ไม่เพียงแต่จะแซงหน้าเซวี่ยเฉินเท่านั้น แต่ยังแซงหน้าหลินโม่เซวียนและคนอื่น ๆ รวมถึงหลิวเฟิ่งฉือกับหม่านหงด้วย แม้แต่หวงฝู่ฉงหมิงที่อยู่อันดับแรกยังถูกเบียดลงมา ใครจะไม่ตกใจกับผลลัพธ์เช่นนี้กัน?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]