บทที่ 246 วิชากระจกเงาดารา
บทที่ 246 วิชากระจกเงาดารา
ฟิ้ว!
ในท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ประดับประดาไปด้วยหมู่ดาว ร่างเลือนรางปรากฏขึ้นและหายไปด้วยความเร็วที่เร็วกว่าความเร็วเสียง ทุกที่ที่เงานั้นเคลื่อนผ่านไป เหลือทิ้งไว้เพียงชั้นอากาศที่ถูกฉีกออก จนกลายเป็นโพรงสุญญากาศขึ้น สร้างคลื่นกระเพื่อมเป็นวงกลมไปรอบข้างราวกับผิวน้ำที่กระจายตัวออก ส่งผลให้อากาศโดยรอบเริ่มเปลี่ยนเป็นสุญญากาศตามไปด้วย
ริ้วแสงพร่างพราวและงดงามกว่าสิบสายตามไล่หลังร่างเลือนรางนี้มาติด ๆ สมบัติเหินบินหลากสีสันเหล่านั้นทิ้งรอยยาวดุจหางลากยาวของดาวตกที่ลุกเป็นไฟออกมามากมาย ในท้องฟ้าสีดำสนิทพวกมันจึงสว่างไสวอย่างยิ่ง
เฉินซีพบว่าพละกำลังของเขายังคงถูกเผาผลาญอย่างต่อเนื่อง ปราณแท้ที่เหลืออยู่ในจุดตันเถียนของเขาเองก็เริ่มค่อย ๆ เหือดแห้งไปทีละนิด ทว่าชายหนุ่มก็ยังคงสงบขณะที่เขานับเวลาอย่างเงียบ ๆ แล้วจึงเรียกโอสถวิญญาณขึ้นมาบนมือของเขา โอสถวิญญาณนี้มีลักษณะโปร่งแสงและใสราวผลึกแก้วทั้งเม็ด เส้นแสงศักดิ์สิทธิ์พร่างพรายม้วนขดตัวอยู่ภายใน ส่งเสียงคำรามที่เด่นชัดราวกับเสียงคำรามของมังกร
โอสถเหลวหยกนภา!!
โอสถระดับปฐพีชั้นยอดที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก โอสถเหลวหยกนภาหนึ่งเม็ดเทียบได้กับวารีวิญญาณมูลค่ากว่าแสนจิน และนั่นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหาซื้อได้ในตลาดอย่างแน่นอน!
โอสถระดับปฐพีนี้เป็นยาที่แรงจนมีเพียงผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางเท่านั้นที่สามารถกินได้ เมื่อได้บรรลุสู่ขอบเขตแกนทองคำหยินหยางแล้ว รากฐานของสวรรค์และปฐพีจะหยั่งรากลงไปในร่างกายของผู้บ่มเพาะ ทำให้สามารถรองรับพลังจากตัวโอสถระดับปฐพีเอาไว้ในร่างกายได้ และหากเป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลหรือขอบเขตเคหาทองคำฝืนใจใช้โอสถระดับปฐพีนี้ จุดตันเถียนจะถูกระเบิดจนพังทลายจากปริมาณพลังงานที่ทรงพลังจำนวนมากของโอสถ ทั้งยังส่งผลให้รากฐานแห่งเต๋าของพวกเขาเสียหายอย่างหนัก
เมื่อปราณแท้ในจุดตันเถียนของเฉินซีเหือดแห้งลง เขาก็กลืนโอสถเหลวหยกนภาลงไปโดยไม่ลังเลเลย เพื่อหลบหนีการไล่ล่านี้ ชายหนุ่มจึงไม่คิดสนใจสิ่งอื่นแม้แต่น้อย
ปัง!
ทันใดนั้น เฉินซีก็รู้สึกราวกับว่ามีมังกรไฟขนาดมหึมามุดเข้ามาในร่างของเขา ความแข็งแกร่งของยาที่ราวไม่มีที่สิ้นสุดและทรงพลังพุ่งตรงไปที่จุดตันเถียนของเขาและก่อปัญหาขึ้น มันกวาดตัวออกไปทุกทิศทางทำให้เส้นลมปราณในร่างกายของเขาแทบไม่อาจทนต่อพลังงานนี้ได้ พวกมันบิดเบี้ยวและพองตัวขึ้นราวกับจะระเบิดออกมา จนถึงจุดที่พวกมันใกล้ค่อย ๆ ปริออกทีละน้อย หากไม่ใช่เพราะดวงจิตแห่งเต๋าของขายหนุ่มมั่นคงและแข็งแกร่งอย่างมาก ความเจ็บปวดรุนแรงซึ่งเกิดในช่วงเวลานี้ก็มากเกินพอที่จะทำให้เขาหมดสติไปในทันทีแล้ว
แปลบ!
ร่างกายของเขาราวกับถูกค้อนขนาดใหญ่นับพันทุบอย่างรุนแรง ความเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้กลิ่นอายของเฉินซีผันผวนและเผยให้เห็นร่องรอยความผิดปกติ แต่ปราณแท้ปริมาณนับไม่ถ้วนก็หวนกลับมาสู่ในจุดตันเถียนของเขาพร้อมกับความเจ็บปวดนี้ ทว่าปราณแท้สายนี้เกรี้ยวกราดและรุนแรงยิ่ง มันพุ่งออกไปทุกทิศทุกทางราวกับมันต้องการที่จะแหวกจุดตันเถียนออกและพุ่งออกจากร่างของเขา
ความรู้สึกนี้เหมือนกับมีภูเขาไฟปะทุอยู่ภายในร่างกาย แต่ก็ไม่สามารถหาทางระบายความอัดอั้นนี้ออกไปได้ ความรู้สึกหายใจไม่ออกและจุกแน่นนี้จวนเจียนจะทำให้ร่างกายของเฉินซีระเบิดอยู่ร่อมร่อ!
เฉินซีไม่เคยคิดมาก่อนว่าร่างกายของเขาจะไม่สามารถทนต่อโอสถเหลวหยกนภาเพียงเม็ดเดียวได้จนเกือบจะระเบิดเช่นนี้
นี่ทำให้เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงพลังของโอสถวิญญาณระดับปฐพี มันเป็นไปตามที่ข่าวลือกล่าวไว้ ว่าหากไม่ได้อยู่ในขอบเขตแกนทองคำหยินหยางแล้วไซร้ก็ไม่อาจกลืนมันได้
‘ระบาย! หากข้าไม่หาทางระบายพลังพวกนี้ออกไป ร่างของข้าได้ระเบิดในพริบตาเป็นแน่…’ ภายใต้การกระตุ้นจากสถานการณ์เบื้องหน้าประตูแห่งความตาย ดวงตาของเฉินซีได้แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ใบหน้าที่เย็นชาและไม่แยแสต่อสิ่งใดของเขาดูบิดเบี้ยวอย่างยิ่ง ขณะที่เส้นเลือดทั่วร่างกายปูดโปน รัศมีที่รุนแรงและน่าสะพรึงก็พวยพุ่งออกมาจากร่างกายของเขาและกวาดไปทั่วบริเวณในทันที
ยามนี้ ชายหนุ่มดูราวกับปีศาจจากขุมนรกโบราณ ที่ปรารถนาจะกินวิญญาณและเลือดสด ๆ ก็ไม่ปาน
เขาหันกลับไป และเริ่มเก็บกวาดทุกอย่างที่อยู่เบื้องหลังของเขา
…
ฉับพลันในใจของหวงฝู่ฉงหมิงและคนอื่น ๆ ที่ไล่ตามเฉินซีมาอย่างใกล้ชิด ก็ได้ปรากฏความสยดสยองที่อธิบายไม่ได้ขึ้นมา ร่างของพวกเขาที่บินด้วยความเร็วสูงกลับชะงักงันและชะลอตัวลงในทันที
เมื่อพวกเขามองไปรอบ ๆ ก็บังเอิญได้สบเข้ากับสายตาที่เฉินซีกวาดมองมาอย่างพอดิบพอดี
สายตาแบบนั้นมันอะไรกัน!
แววตาที่จับจ้องมานั้นไม่ได้เก็บอารมณ์ความรู้สึกเลยแม้แต่น้อย มันเย็นเยียบยิ่งกว่าน้ำแข็งในขุมนรกทั้งเก้า ระยิบระยับยิ่งกว่าเลือดสีแดงฉานที่เดือดพล่าน จิตสังหารที่โหดเหี้ยมไร้สิ้นสุดนั้นดูราวกับภูเขาไฟที่กำลังจะปะทุและแฝงด้วยกลิ่นอายแห่งการทำลายล้างโดยสมบูรณ์
อึก!
พวกเขามองหน้ากันและกัน พร้อมกับความรู้สึกหวาดกลัวที่ก่อตัวขึ้นในใจ
ปัง!
เสียงระเบิดจากการสั่นสะเทือนที่ดังกึกก้องราวกับเสียงฟ้าร้องดังขึ้น สายตาของทุกคนในตอนนี้ถูกดึงไปทางเฉินซีผู้มีกลิ่นอายเหมือนภูเขาไฟที่กำลังปะทุ เพียงกะพริบตาลง เขาก็หายไปจากระยะการมองเห็นของพวกเขาในทันใด
ความเร็วของเขาเร็วเพิ่มขึ้นอย่างมาก อย่างน้อยก็มากกว่าเดิมถึงสามเท่า!
“ชายผู้นี้เลือกกลืนโอสถได้ทรงพลังยิ่ง แม้ว่ารัศมีของเขาจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมากแต่ก็ผิดปกติไปมาก ในเมื่อเขาไม่สามารถควบคุมพลังนี้ได้ จุดตันเถียนย่อมต้องถึงคราพังทลาย รากฐานแห่งเต๋าของเขาก็ย่อมถูกทำลายเช่นกัน ถึงเวลานั้นแม้แต่ทวยเทพก็ไม่อาจช่วยเขาได้!” สายตาของหลิวเฟิ่งฉือสั่นไหวขณะที่เขากล่าวขึ้น ด้วยความเฉลียวฉลาดของเขาจึงสังเกตเห็นถึงบางสิ่งได้ในทันที
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนั้น ดูเหมือนเจ้าตัวบัดซบนี่ ไม่อยากแม้แต่จะหนีเอาชีวิตรอดด้วยซ้ำ…” ดวงตาของหวงฝู่ฉงหมิงหรี่ลงเล็กน้อยในขณะที่เขาหัวเราะอย่างเย็นชา “ทว่าหากคิดว่าเขาจะสามารถหลบหนีการไล่ล่าของเราได้โดยอาศัยสิ่งนี้ละก็ นับว่าคิดผิดมหันต์! ทุกคนรีบตามไป บางทีเราอาจไม่ต้องลงมือลงแรงเพื่อรับผลประโยชน์มากมายเลยก็เป็นได้!”
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
เมื่อพวกเขาเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเฉินซี ทุกคนก็ฮึกเหิมยิ่งขึ้น และพวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ก่อนจะเร่งให้สมบัติเหินบินใต้เท้าของพวกเขา แล้วไล่ตามด้วยแรงทั้งหมดของพวกเขาทันที
…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...