บทส่งท้าย 3.2 บุตรชายตระกูลเฉิน
………………..
บทส่งท้าย 3.2 บุตรชายตระกูลเฉิน
ที่ด้านนอกสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า
จ้าวอวิ๋นซงพินิจสตรีผู้งดงามที่ยืนอยู่ไกลออกไป
ดูเหมือนว่าถังเป่าเอ๋อร์จะกำลังรอคอยใครบางคนอยู่
จ้าวอวิ๋นซงไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องนั้น เขาทำเพียงหยิบเทียบเชิญที่เหวินเหรินเลี่ยมอบให้เข้าออกมา ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และสาวเท้าไปเบื้องหน้า
“แม่นางถัง คุณชายเหวินเหรินขอให้ข้ามอบสิ่งนี้ให้กับท่าน โปรดรับมันไว้ด้วย” จ้าวอวิ๋นซงเอ่ยเบา ๆ ทั้งใจที่สั่นระริกเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความงามที่ไม่มีใครเทียบได้เช่นนั้น เขารู้สึกว่าตนช่างต่ำต้อยไม่อาจเทียมทัน หากเขาไม่รวบรวมความกล้าจนสุดหัวใจ ขาของเขาก็แข็งค้างเกินกว่าจะย่างก้าวไปเชยชิดกับความงามนี้
ถังเป่าเอ๋อร์ชะงัก นางยื่นมือไปรับของจากอีกฝ่ายอย่างงุนงง ทว่าเพียงมองสิ่งที่อยู่บนมือนั้นแวบเดียว นางก็บดขยี้มันเป็นผุยผงด้วยท่าทางที่ยังคงเรียบเฉยอย่างเคย
จ้าวอวิ๋นซงถึงกับตาค้าง กระนั้น นอกจากเขาจะรู้สึกประหลาดใจแล้ว เขายังนึกพึงใจอย่างบอกไม่ถูก เห็นทีคงจะมีแต่หญิงงามอย่างถังเป่าเอ๋อร์เท่านั้นที่กล้าปฏิเสธคำเชิญของเหวินเหรินเลี่ยอย่างตรงไปตรงมาได้กระมัง ทว่าต่อมาเขาก็อดเป็นกังวลขึ้นมาไม่ได้ ขืนเป็นแบบนี้เหวินเหรินเลี่ยคงจะเสียหน้าน่าดู ถ้าหากเขานึกขุ่นเคืองขึ้นมาเล่า?
“บังเอิญจริง สหายเต๋าก็อยู่ที่นี่เช่นกัน…” เสียงนั้นฟังอบอุ่น จ้าวอวิ๋นซงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปและเห็นเฉินผูที่อยู่ใกล้เพียงคืบ
“เฉินผู?” จ้าวอวิ๋นซงเก้อเขินอยู่ในที “คือข้า…”
เฉินผูยิ้ม “ข้ารู้ เจ้ากำลังช่วยคนบางคนมอบของบางสิ่งอยู่สินะ”
จ้าวอวิ๋นซงถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขากลัวจริง ๆ ว่าเฉินผูจะเข้าใจผิด คิดว่าเขากำลังตามตอแยถังเป่าเอ๋อร์
ว่ากันตามตรง เขาก็เหมือนกับกาท่ามกลางฝูงหงส์ หากมีข่าวลือว่าศิษย์ชาติกำเนิดต่ำต้อยเช่นเขาตามเกี้ยวพายอดพธูผู้งามเลิศอย่างถังเป่าเอ๋อร์แล้วละก็ เห็นทีเขาคงได้ถูกหัวเราะเยาะไปจนตายเป็นแน่
“เอ่อ… เฉินผู เจ้าเพิ่งเข้ามาในสำนักศึกษาวันแรกมิใช่หรือ แล้วนี่เจ้ากำลังจะออกไปที่ใดกัน?” จ้าวอวิ๋นซงถามอย่างใคร่รู้
“อ๋อใช่ วันนี้เป็นวันเกิดของผู้อาวุโส ท่านพ่อของข้าไม่สะดวกไปร่วมงาน ข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปเป็นตัวแทนน่ะ” เฉินผูอธิบาย
วันเกิดผู้อาวุโส? จ้าวอวิ๋นซงเข้าใจได้ในทันทีว่าสถานะของเฉินผูนั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน และต่อให้ด้อยกว่าเหวินเหรินเลี่ย ก็คงไม่ห่างชั้นกันจนเกินไป
เขาถอนหายใจ จำนวนศิษย์ที่ต่ำศักดิ์อย่างเขานั้นมีแทบนับหัวได้จริง ๆ…
ผู้ที่กำลังควบคุมรถม้าคือชายวัยกลางคนที่สวมเสื้อคลุมสีเทา ดวงตาสีเขียวเข้มของเขาเสริมภาพลักษณ์ให้ยิ่งดูแข็งแกร่ง ผมของเขาตวัดคมอย่างปลายพู่กัน ประกอบไปด้วยอิริยาบถที่สง่างามและน่าเกรงขาม
เพียงแค่เหลือบมองชายผู้นั้น หัวใจของจ้าวอวิ๋นซงก็พลันสั่นสะท้าน มันเหมือนกับว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับราชาผู้ผ่านสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน แรงกดดันที่ซ่อนอยู่ภายในล้นทะลักกระทั่งเขายังขนลุกเกรียว
ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!
แค่คนขับรถม้าก็ยังให้ความรู้สึกที่น่าขนลุกยิ่งกว่าอาจารย์ใหญ่สำนักศึกษาฝ่ายนอก โจวจื่อหลี เสียอีก สหายเต๋าผู้นี้คือใครกันแน่? เขามาหาถังเป่าเอ๋อร์อย่างนั้นหรือ? จ้าวอวิ๋นซงมองหญิงสาวที่กำลังก้าวไปยังรถม้าสมบัติและเปิดประตูรถม้าออก โดยไม่คาดคิด ถังเป่าเอ๋อร์ไม่ได้เข้าไปในรถม้า หากแต่ยืนอยู่ด้านหน้าของประตูเท่านั้น
หืม? นั่นนางทำอะไรน่ะ?
จ้าวอวิ๋นซงตกตะลึง ท่าทางของนางชักจะแปลกวิกลเกินไปแล้ว
ตอนนั้นเอง เฉินผูถามด้วยรอยยิ้ม “สหายเต๋าเจ้าจะไปที่ไหน? หากเป็นทางเดียวกันข้าแวะส่งเจ้าก็ได้”
จ้าวอวิ๋นซงรู้สึกงุนงงกับสถานการณ์ตรงหน้า เขาตอบเสียงตะกุกตะกักด้วยยังไม่เข้าใจ “เอ่อ… ข้า ข้าจะไปพบคุณชายเหวินเหริน”
“เหวินเหรินเลี่ยน่ะหรือ?” ทันใดนั้น ถังเป่าเอ๋อร์ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะอย่างยิ่ง “เรียนคุณชายสี่ ตอนนี้เหวินเหรินเลี่ย อยู่ที่งานเลี้ยงวันเกิดของตระกูลเซวียนหยวนแล้วเจ้าค่ะ”
เฉินผูประหลาดใจก่อนจะว่าพลางยิ้มอ่อนโยน “เช่นนั้นก็ทางเดียวกัน”
ขณะที่พูด เขาก็เข้าไปในรถม้าสมบัติ แล้วจึงหันมาพูดกับจ้าวอวิ๋นซง “เข้ามาสิ ข้าก็จะไปที่นั่นเช่นกัน”
“หา?” จ้าวอวิ๋นซงตะลึงลาน เขาไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง ที่แท้รถม้าทองสัมฤทธิ์นี้ไม่ใช่ของถังเป่าเอ๋อร์ แต่เป็นของเฉินผูต่างหาก!
ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ ถังเป่าเอ๋อร์ตอนนี้กำลังทำตัวเหมือนเป็นสาวใช้ นางเปิดประตูให้เฉินผูด้วยตัวเองทั้งยังเรียกเขาว่าคุณชายสี่!
สวรรค์!
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!?
…
จ้าวอวิ๋นซงยังคงไม่หายจากอาการตกใจแม้ว่าบัดนี้ร่างของตนจะนั่งอยู่บนรถม้าแล้ว
ให้ตายสิ ผู้เยี่ยมยุทธ์ที่เปี่ยมไปด้วยรัศมีศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัวเกินเทียบได้เป็นเพียงคนขับรถม้า ในขณะที่ยอดหญิงงามผู้กล้าแกร่งอย่างภูเขาน้ำแข็ง ถังเป่าเอ๋อร์ กลับกลายเป็นเพียงสาวใช้คนหนึ่งเท่านั้น…
พื้นเพของเฉินผูเป็นเช่นไรกันแน่? จ้าวอวิ๋นซงถึงกับสับสน
“ชาเจ้าค่ะ” เสียงอบอุ่นเรียกสติของจ้าวอวิ๋นซงให้กลับสู่ความเป็นจริง เขาเงยหน้าขึ้นมองถังเป่าเอ๋อร์อยู่ในท่านั่งคุกเข่าข้างโต๊ะ ผมสีดำที่ยาวถึงบั้นเอวของนางงดงามราวม่านน้ำตก ในมือของนางคือกาน้ำชาที่ส่งกลิ่นหอมจรุง
ใบหน้าที่อ่อนเยาว์งดงามของนางอาบไปด้วยกลิ่นอายเงียบขรึม การเคลื่อนไหวของนางกระฉับกระเฉง สง่างาม เปี่ยมไปด้วยรัศมีที่เลิศเลอเกินพรรณนาได้
ที่อีกด้านหนึ่งของโต๊ะ เฉินผูส่งจอกชาสีฟ้าใสให้กับจ้าวอวิ๋นซงด้วยรอยยิ้ม
“ลองดูสิ มันเป็นชา ‘ต้นอ่อนเมฆาเทวะ’ ที่แม่รองของข้าเตรียมไว้ให้ รสชาติของมันมีเอกลักษณ์มาก”
จ้าวอวิ๋นซงรับจอกชาด้วยมือทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว เขาจ้องมองถังเป่าเอ๋อร์ซึ่งกำลังจดจ่อกับการเตรียมชา ก่อนจะจ้องมองชายหนุ่มรูปงามที่ยิ้มอย่างอบอุ่นสลับกันไปมาด้วยความงุนงง
ต้นอ่อนเมฆาเทวะ?
เขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
ถึงอย่างนั้น เมื่อจ้าวอวิ๋นซงเห็นว่าถังเป่าเอ๋อร์เป็นผู้รินชาถ้วยนี้ด้วยตัวเอง เขาก็อดรู้สึกปลื้มปริ่มระคนหวาดผวาต่อการถูกปรนนิบัติเช่นนี้ขึ้นมาไม่ได้
พูดกันตามตรง จะมีศิษย์ในสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าคนใดบ้างที่ได้ลิ้มรสกับการปรนนิบัติพัดวีเช่นนี้?
เหวินเหรินเลี่ยเป็นถึงศิษย์ของตระกูลที่มีชื่อเสียงในภพเซียน แต่เขาก็ยังไม่มีคุณสมบัติพอที่ถังเป่าเอ๋อร์จะรินชาให้!
“มีอะไร? หรือว่าเจ้าไม่ชอบดื่มชา?” เฉินผูถามทั้งรอยยิ้ม แน่นอนว่าเขามองออกว่าอีกฝ่ายกำลังตกประหม่าเพียงไหน
“ไม่ ไม่…” จ้าวอวิ๋นซงส่ายหน้าระวิง เขารีบแหงนหน้าและซดน้ำชาอุ่นร้อนนั้นไปจนหมดจอก ฉับพลันนั้น เขารู้สึกถึงความอบอุ่นที่มาพร้อมกลิ่นหอมแสนสดชื่น ความรู้สึกที่แสนพิเศษแผ่ซ่านไปถึงจิตวิญญาณ
ร่างกายของเขารู้สึกราวกับได้รับการชำระล้างด้วยน้ำค้างแห่งมหาเต๋า แก่นโลหิต วิญญาณ การบ่มเพาะ ไม่ว่าจุดใด ๆ ในร่างกายของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตที่สะพรั่งเบ่งบานเกินหาใดเทียม
ภายในช่วงเวลาสั้น ๆ การบ่มเพาะของจ้าวอวิ๋นซงที่ตกอยู่ในภาวะคอขวดก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง มันแสดงให้เห็นสัญญาณของการบรรลุที่แข็งแกร่ง!
เขาหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสยบความรู้สึกของตน ก่อนจะพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่ยังเต็มไปด้วยความตกใจอยู่ดี “นี่มัน…. สิ่งนี้คือชาอะไรกันแน่? มันยอดเยี่ยมเหลือเกิน!”
เฉินผูยิ้ม “หากเจ้าชอบก็ดื่มมันอีกสิ”
จ้าวอวิ๋นซงหัวใจเต้นแรงคล้ายกำลังถูกล่อลวงด้วยบางสิ่ง แต่กระนั้นเขาก็รู้ขอบเขตของตัวเองดี และรู้ว่าชานี้คงจะเป็นสมบัติล้ำค่ายิ่ง การที่เขาได้ดื่มมันก็เป็นเพราะความใจกว้างของเฉินผู ดังนั้นหากเขาแสดงท่าทีตะกละตะกลามออกไป มันคงจะไม่ดีเท่าไรนัก
“ไม่ล่ะ ขืนดื่มอีกจอกหนึ่งข้าคงจะไม่อาจควบคุมการบ่มเพาะของตนได้” จ้าวอวิ๋นซงปฏิเสธ
เฉินผูพยักหน้าและไม่คะยั้นคะยอเขาอีก
“คุณชายสี่ นี่คือของขวัญที่นายท่านและฮูหยินเตรียมไว้ ลองดูอีกครั้งหนึ่งเถิดว่ามีอะไรขาดตกบกพร่องหรือไม่” ในขณะเดียวกัน ถังเป่าเอ๋อร์ก็หยิบกำไลเก็บของออกมาและส่งต่อให้เฉินผู


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...