บทที่ 303 รายชื่อถูกปล่อยออกมา!
บทที่ 303 รายชื่อถูกปล่อยออกมา!
เมื่อการชุมนุมธารทองกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ผู้บ่มเพาะรุ่นเยาว์จากดินแดนต่าง ๆ ของแผ่นดินซ่งก็รีบมุ่งหน้ามาที่เมืองนภาครามอย่างต่อเนื่อง ทำให้กิจการของโรงเตี๊ยมและร้านอาหารในเมืองได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เฉินซีพามู่ขุยไปด้วยและค้นหาเป็นเวลานาน ก่อนที่จะจองห้องสุดท้ายที่เหลืออยู่ในโรงเตี๊ยมที่ห่างไกล
หลังจากชำระร่างกายด้วยน้ำร้อนแล้ว เฉินซีก็นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง หยิบแผ่นหยกออกมาและอ่านอย่างระมัดระวัง นี่คือเนื้อหาบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมธารทอง และมันถูกมอบพร้อมกับการลงทะเบียนของเขา
สิ่งที่เรียกว่าการชุมนุมธารทอง เป็นการแข่งขันการต่อสู้บนสังเวียน และกฎของมันก็ไม่มีอะไรคลุมเครือหรือเข้าใจได้ยาก ในรอบแรกเป็นการแข่งขันแบบตัวต่อตัว และหลังจากนั้นจะเป็นการต่อสู้ตามการท้าประลองและไม่มีกติกาใด ๆ
สถานที่จัดการแข่งขันอยู่ที่ทะเลสาบสังเวียนหยกที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนภาครามและมันก็ครอบคลุมพื้นที่หลายพันลี้ เมื่อถึงเวลา ผู้พิทักษ์วิญญาณแห่งราชวงศ์ซ่งจะสร้างสังเวียนต่อสู้สิบแปดแห่ง ซึ่งเป็นพื้นที่วงกลมอยู่ในทะเลสาบและอนุญาตให้ผู้เข้าร่วมทั้งหมดเข้ามาในพื้นที่
หลังจากการต่อสู้ตัวต่อตัวในรอบแรก ผู้ถูกคัดออกจะต้องจากไป ในขณะที่ผู้ชนะจะสามารถขึ้นสู่สังเวียนต่อสู้ต่าง ๆ ได้ตามต้องการและรับคำท้าประลองของใครก็ได้
ผู้ที่ได้รับชัยชนะติดต่อกันสิบครั้งจะได้รับโอสถกลั่นแรกเริ่มหนึ่งแสนเม็ดเป็นรางวัล
ผู้ที่ได้รับชัยชนะติดต่อกันยี่สิบครั้งจะได้รับโอสถกลั่นแรกเริ่มสองแสนเม็ดเป็นรางวัล
การต่อสู้จะดำเนินต่อไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะติดต่อกันหนึ่งร้อยครั้ง และรางวัลจะเพิ่มเป็นสองเท่า ทำให้ได้รับโอสถกลั่นแรกเริ่มสองล้านเม็ดเป็นรางวัล!
รางวัลเหล่านี้มอบให้โดยเหล่าพ่อค้าทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในเมืองนภาคราม และเป็นรางวัลที่ค่อนข้างเย้ายวนใจสำหรับผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง
อย่างไรก็ตาม โอสถกลั่นแรกเริ่มหนึ่งแสนเม็ดก็เพียงพอที่จะซื้อสมบัติวิเศษระดับปฐพีขั้นสุดยอดได้แล้ว ถ้าคนผู้หนึ่งสามารถชนะติดต่อกันหนึ่งร้อยครั้ง คนผู้นั้นจะได้รับโอสถกลั่นแรกเริ่มจำนวนสองล้านเม็ด ด้วยเหตุนี้เอง คนผู้นั้นจะไม่สามารถซื้อสมบัติวิเศษระดับปฐพีขั้นสุดยอดนับยี่สิบชิ้นได้อย่างไรกัน?
ด้วยรางวัลที่มากมายมหาศาลเช่นนี้ อาจไม่มีผู้บ่มเพาะคนใดที่สามารถปฏิเสธสิ่งล่อใจดังกล่าวได้
เมื่อเฉินซีอ่านจนถึงจุดนี้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ทำไมผู้บ่มเพาะจำนวนมากจึงเดินทางไปยังเมืองนภาคราม เพราะพวกเขาต้องการเข้าร่วมการชุมนุมธารทอง ด้วยรางวัลมากมายเหล่านี้ก็ทำให้ใครต่อใครอดไม่ได้
นอกจากนี้ เพื่อรักษาความยุติธรรมในการชุมนุมธารทอง และเพื่อรับประกันว่าจะไม่มีการบาดเจ็บล้มตายเกิดขึ้นในหมู่ผู้เข้าร่วม สังเวียนต่อสู้ทุกสังเวียนจะมีผู้บ่มเพาะขอบเขตจุติสองคนให้ความดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา และพวกเขาจะให้ความช่วยเหลือได้ทุกเมื่อ
กฎนี้ทำให้เฉินซีอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เดิมทีเขาคิดว่าหากเขาสามารถเผชิญหน้ากับซูเฉินได้ เขาจะฉวยโอกาสฆ่าเขา และการชุมนุมธารทองก็เป็นโอกาสที่ดี ทว่าดูเหมือนว่าแผนนี้จะไม่สามารถดำเนินการได้แน่นอน
“ดูเหมือนว่าข้าจะต้องมองหาโอกาสอื่นเท่านั้น” เฉินซีส่ายศีรษะและอ่านแผ่นหยกในมือต่อไป และเขาก็ปล่อยลมหายใจยาว ๆ ออกมา เมื่อเขาเข้าใจกฎทั้งหมดได้ถ่องแท้เหมือนหลังมือ
ในขณะนั้น มู่ขุยเดินเข้ามาอย่างตื่นเต้นและหัวเราะอย่างมีเลศนัย “นายท่าน นี่คือข้อมูลบางส่วนที่ข้าซื้อมาจากท้องตลาด และมันบันทึกข้อมูลของผู้บ่มเพาะบางคนที่เข้าร่วมการชุมนุมธารทองในครั้งนี้ มันเพิ่งถูกรวบรวมมาไม่นาน ท่านลองดูเร็วเข้า” มู่ขุยกล่าวและส่งแผ่นหยกในมือให้แก่เฉินซี
“โอ้ มีแบบนี้ด้วยหรือ” เฉินซีรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก จากนั้นจึงหยิบแผ่นหยกขึ้นมาและเริ่มอ่านมัน
“ระยะเวลาในการลงทะเบียนของการชุมนุมธารทองได้สิ้นสุดลงเมื่อไม่นานมานี้ และแผ่นหยกนี้ได้มาจากพ่อค้าเถื่อนที่ได้รับข้อมูลมาจากผู้พิทักษ์วิญญาณแห่งราชวงศ์ซ่ง ข้ารู้สึกว่ามันน่าจะช่วยท่านได้ ดังนั้นข้าจึงซื้อมันมา” มู่ขุยกล่าวพร้อมกับยิ้ม หลังจากนั้น เมื่อเขาเห็นว่าเฉินซีจดจ่ออยู่กับแผ่นหยก เขาจึงไม่รบกวนอีกฝ่ายอีกต่อไป แล้วย้ายไปที่มุมห้องและนั่งสมาธิลงบนพื้น ก่อนที่จะหยิบแผ่นหยกอีกแผ่นหนึ่งออกมาและอ่านมันด้วยความฮึกเหิม
แผ่นหยกนี้มีข้อมูลของผู้บ่มเพาะทั้งหมดที่เข้าร่วมการชุมนุมธารทองในครั้งนี้ เฉินซีคำนวณอย่างคร่าว ๆ และพบว่ามีผู้บ่มเพาะถึงหมื่นคน แม้จำนวนนี้จะไม่มาก แต่ความหมายที่อยู่เบื้องหลังมันน่าตกใจเกินไป เพราะแสดงว่ามีผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางหกหมื่นคนที่มีอายุต่ำกว่าสามสิบปี!
แนวคิดแบบนี้คืออะไร?
ท้ายที่สุด นิกายกระบี่เมฆาพเนจรที่เป็นกองกำลังอันดับหนึ่งของดินแดนทางใต้ มีศิษย์ขอบเขตแกนทองคำหยินหยางเพียงร้อยกว่าคนเท่านั้น และจำนวนของผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางที่มีอายุต่ำกว่าสามสิบปีกลับน่าสมเพชยิ่งกว่า เนื่องจากมีสิบกว่าคนเท่านั้น!
เมื่อนำตัวเลขทั้งสองนี้มาเปรียบเทียบกัน ใคร ๆ ก็สามารถเข้าใจได้ว่า ตัวเลขนี้น่าตกใจถึงเพียงใด
ขณะที่เขาอ่านต่อไป เฉินซีก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย และเขาก็เห็นคนที่คุ้นเคยหลายคนอยู่ในแผ่นหยก เช่น นายน้อยสี่ของตระกูลโจว อันเชี่ยนอวี้แห่งนิกายกระบี่สะบั้นนภา และหวังเต้าซวี่แห่งนิกายจรัสแสง คนเหล่านี้มีฝีมือที่ไม่ธรรมดา และพวกเขาอยู่ในอันดับต้น ๆ ในบรรดาผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางรุ่นเยาว์อย่างแน่นอน
แต่คนอย่างหลินโม่เซวียนและซูเจี้ยนคงแห่งนิกายสวรรค์ปฐพี เซียวหลิงเอ๋อร์แห่งนิกายเตากลั่นเซียนนพเก้า และคนอื่น ๆ กลับไม่ได้เข้าร่วม ไม่ทราบว่าพวกเขาอยู่ในการปิดด่านบ่มเพาะเพื่อการชุมนุมดาวรุ่ง หรือพวกเขารังเกียจที่จะเข้าร่วมการชุมนุมธารทองกันแน่
น่าตกใจที่ชื่อของซูเฉินก็อยู่ในรายชื่อเหล่านี้ และเขามีฐานการบ่มเพาะเพียงขอบเขตเคหาทองคำขั้นสมบูรณ์ แต่สิ่งที่ทำให้เฉินซีขมวดคิ้วก็คือ ข้อมูลที่บอกว่าแท้จริงแล้ว ซูเฉินมาจากตำหนักจ้าวขุนศึก!
ตำหนักจ้าวขุนศึก!
เฉินซีระลึกได้อย่างราง ๆ ว่า นอกจากราชสำนักแล้ว ยังมีตำหนักที่ยิ่งใหญ่อีกสี่แห่งอยู่ในราชวงศ์ซ่ง ได้แก่ ตำหนักจ้าวปัญญา ตำหนักจ้าวขุนศึก ตำหนักจ้าวทรงธรรม และตำหนักจ้าวปกครอง เจ้าของตำหนักยิ่งใหญ่ทั้งสี่แห่งนี้เป็นพี่น้องของจักรพรรดิซ่งองค์ปัจจุบันและมีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด ดังนั้นในฐานะเครือญาติของจักรพรรดิ พวกเขาจึงมีอำนาจเหลือล้นและได้รับความเคารพเป็นอย่างสูง
ในแง่ของอำนาจ ตำหนักจ้าวปัญญาเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาตำหนักทั้งสี่แห่ง แต่ถ้าในแง่ของความแข็งแกร่ง ตำหนักจ้าวขุนศึกของหวงฝู่ไท่อู่คืออันดับหนึ่ง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...