บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 350

บทที่ 350 ความรักก่อกวนหัวใจ

บทที่ 350 ความรักก่อกวนหัวใจ

ยามดึกอันมืดมิด

กองไฟที่ถูกจุดขึ้นในป่าทมิฬได้มอดดับลงแล้ว และทุกคนได้เข้าสู่การทำสมาธิอย่างลึกซึ้ง

เฉินซีทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อยและไม่กล้าขยับไปไหน เพราะเขากังวลว่าจะทำให้อวิ๋นน่าตื่น

เมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อน อวิ๋นน่าเห็นว่าเขาค่อนข้างรู้สึกเบื่อในขณะที่ดื่มตามลำพัง นางจึงยกเหยือกสุราขึ้นและเริ่มดื่มกับเขา นางดื่มจนเมามายโดยไม่รู้ตัว ในขณะนี้นางจึงเป็นดั่งลูกแมวตัวน้อยที่หลับสนิทโดยวางศีรษะไว้บนตักของเขา

“โอ้ เจ้าช่างหล่อเหลายิ่งนัก ถ้าเจ้าปฏิบัติกับพี่สาวคนนี้ให้ดีกว่านี้ พี่สาวคนนี้จะให้เจ้าแต่งงานกับนางอย่างแน่นอน…” ทันใดนั้น ริมฝีปากสีแดงสดของอวิ๋นน่าก็เปล่งเสียงคลุมเครือซึ่งเหมือนกับกำลังละเมอออกมา

เฉินซีตกตะลึง จากนั้นเขาก็ลูบจมูก สีหน้าของเขาดูลำบากใจและคิดในใจว่า ‘หรือว่าข้าจะปฏิบัติต่อนางไม่ดีนัก?’

เฉินซีก้มศีรษะลงเพื่อจ้องมองอวิ๋นน่า ซึ่งเขาต้องยอมรับว่าหญิงสาวคนนี้มีเสน่ห์ที่เย้ายวนใจอย่างยิ่ง ผิวของนางขาวราวกับหิมะ รูปร่างของนางงดงามและยั่วยวน ผมยาวสีแดงของนางม้วนงอเล็กน้อยก่อนที่จะปล่อยลงมาบนไหล่ของนางอย่างหลวม ๆ เหมือนน้ำตก หน้าอกที่ขาวเนียนของนางถูกเผยออกมาบางส่วน อีกทั้งขาเรียวยาวของเจ้าตัวก็ขาวและสะอาดสะอ้านราวกับงาช้างทำให้นางดูร้อนแรงสุด ๆ

ในขณะนี้ เมื่อนางนอนหลับโดยวางศีรษะไว้บนตักของเขา ผมยาวของนางก็ยุ่งเหยิง มีท่าทางไม่สำรวม จมูกของนางขยับเล็กน้อย ซึ่งก็ได้ส่งกลิ่นหอมที่ผสมกับกลิ่นอบอุ่นและชื้นของอิสตรีออกมา ภาพดังกล่าวทำให้เกิดความเย้ายวนที่ยากห้ามใจ และทำให้ผู้คนไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้ใกล้ชิดกับนาง

หญิงสาวที่อ่อนโยนและสง่างามเป็นคู่ชีวิตที่ดีของสุภาพบุรุษ ความรู้สึกผิดปกติก็ผุดขึ้นมาในใจของเฉินซี ขณะที่เขาลูบผมยาวของอวิ๋นน่าเบา ๆ เขาก็ทอดถอนใจโดยไม่มีเหตุผลอยู่ในใจ

อ้อมกอดของอิสตรีคือหลุมฝังศพของวีรบุรุษทุกคน? เฉินซีไม่ได้คิดเช่นนั้น เนื่องจากมีความรับผิดชอบหลายสิ่งหลายอย่างอยู่บนบ่าของเขา ทำให้ชายหนุ่มมักจะหลีกเลี่ยงความรักกับเพศตรงข้ามทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ มันเป็นอย่างนั้น เช่นเดียวกับตู้ชิงซี มู่เหยา ย่าชิงและอวิ๋นน่าที่อยู่ตรงหน้าเขาก็เป็นเช่นนั้น

แท้จริงแล้วเหตุผลนั้นธรรมดามาก เนื่องจากเขารู้สึกว่าตราบใดที่มีอิสตรีคอยอยู่เคียงข้างเขา พวกนางก็ไม่อาจมีชีวิตที่มั่นคงและมีความสุขได้ และชีวิตของพวกนางจะต้องสั่นคลอน ไม่สบายใจ และเต็มไปด้วยความยากลำบากก็เพราะเขา

ซึ่งนี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ ดังนั้นเขาจึงไม่เคยเผชิญหน้ากับมันและไล่ตามมันอย่างกล้าหาญ

ในขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เฉินซีก็นึกถึงชิงซิ่วอี้และฟ่านอวิ๋นหลานโดยไม่รู้ตัว หนึ่งในนั้นคือเซียนสวรรค์ที่กลับชาติมาเกิดซึ่งเป็นอัจฉริยะที่ได้รับความชื่นชอบและได้รับความสนใจอย่างมากในราชวงศ์ซ่งและอีกคนหนึ่งก็คือหัวหน้าหมู่ตึกของนิกายอสูรจันทร์เสี้ยวโลหิตซึ่งเป็นยอดฝีมือขอบเขตจุติ

อย่างไรก็ตาม หญิงสาวสองคนนี้ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าฆ่าเขาในตอนแรก แต่มันกลับบังเอิญราวกับโชคชะตาและฟ้าลิขิตจึงทำให้เขาได้มีเพศสัมพันธ์กับพวกนาง ความสัมพันธ์เช่นนี้คาดเดาได้ยากจนทำให้เขาไม่ได้เตรียมพร้อมใด ๆ และไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันอย่างไรดี

เมื่อเขานึกถึงฉากวาบหวามในวันนั้นในขณะนี้ หัวใจของเฉินซีก็สับสนวุ่นวาย และเขาไม่อาจเข้าใจความคิดของตัวเองได้

“ถ้าเจอกันในอนาคตจะเป็นศัตรูหรือมิตรกันแน่?”

“ถ้าไม่ได้เจอกันคราวหน้าจะลืมสัมพันธ์ที่มีกันในตอนนั้นได้หรือไม่?”

จากนั้นเฉินซีก็ถอนหายใจโดยไม่มีเหตุผลอีกครั้ง และเขาก็รู้สึกว่า สิ่งที่เรียกว่าความรักนั้นได้ทำร้ายคนคนหนึ่งทั้งร่างกายและจิตใจ ทำให้ไม่อาจปฏิเสธมันได้ แต่ก็ไม่สามารถคาดเดาและควบคุมมันได้

ในขณะนี้ ความรู้สึกถึงอันตรายได้เกาะกุมหัวใจของเขา ทำให้เฉินซีตื่นขึ้นจากความคิดที่วุ่นวายของเขาทันที จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปยังคนรอบข้างและอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว ‘ไม่เป็นไร ข้าจะช่วยพวกเขาจัดการกับปัญหานี้เอง’

เมื่อเขาคิดมาถึงจุดนี้ เฉินซีก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาอุ้มอวิ๋นน่าขึ้นรถม้าสมบัติและวางนางลงอย่างเบามือ จากนั้นสายตาของเขาก็กวาดไปยังป่าอันมืดมิดที่ห่างออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา ก่อนที่ร่างของเขาจะสั่นไหวและหายไปจากตรงนั้นอย่างไร้เสียง

ในป่าอันมืดมิดมีหมีดำที่สูงกว่าสิบสองจั้ง มันมีร่างกายที่กำยำและปกคลุมด้วยเกล็ด มันซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้โบราณในขณะที่ดวงตาสีแดงเลือดของมันจ้องมองไปยังกองคาราวานพ่อค้าที่อยู่ไกลออกไปด้วยสายตาที่เป็นประกายที่โหดเหี้ยมและอำมหิต

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นหมีเกราะพิฆาตที่ชาญฉลาดเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าขนาดของมันจะใหญ่โต แต่ก็มิได้ปล่อยกลิ่นอายออกมาขณะที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดอย่างไร้เสียง หากไม่ใช่เพราะจิตสัมผัสเทพของเฉินซีนั้นแข็งแกร่งจนถึงระดับที่น่าตกใจ ก็คงเป็นการยากที่จะสังเกตเห็นการมีอยู่ของมัน

ดูเหมือนว่ามันจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง จู่ ๆ หมีตัวนี้ก็เงยหัวขึ้นขณะที่ดวงแสงสายฟ้าพุ่งออกมาจากดวงตาสีแดงเลือดของมันจนฉีกความมืดออกจากกัน และทันใดนั้น มันก็เห็นร่างสูงโปร่งยืนห่างจากมันราวสิบสองจั้งโดยไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร

“ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า ถ้าเจ้าจากไปตอนนี้” คนผู้นี้คือเฉินซีนั่นเอง เขามองหมีเกราะพิฆาตตัวนี้อย่างเฉยเมยและเขาก็รู้สึกตกใจอย่างมาก ‘ความแข็งแกร่งของมันอยู่ห่างจากการบรรลุ ขอบเขตจุติเพียงไม่กี่ก้าว แต่เนื่องจากร่างกายของมันมีเศษเสี้ยวสายเลือดของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์และเป็นผู้บ่มเพาะอสูร ความแข็งแกร่งของมันจึงสามารถเทียบเคียงกับผู้บ่มเพาะขอบเขตจุติได้’

“เจ้ามนุษย์ตัวจ้อย เจ้ากล้ากล่าวเช่นนี้กับข้าจริงหรือ? เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!” อสูรหมีกล่าวออกมาขณะที่ประกายความรังเกียจได้ฉายชัดผ่านดวงตาสีแดงเลือดของมัน มันรับรู้ได้ว่าเจ้ามนุษย์ตัวจ้อยที่อยู่ตรงหน้ามันเป็นเพียงผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางขั้นสูง และมันสามารถบดขยี้มดปลวกเช่นนี้ให้ตายได้ด้วยการตบเพียงครั้งเดียว

ขณะที่มันกล่าว มันก็จู่โจมโดยไม่ลังเลใด ๆ ร่างกายมหึมาของมันวูบไหวไปมา อุ้งเท้ามหึมาซึ่งเปล่งประกายด้วยแสงสีทองได้ตวัดขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นมันก็ทุบไปที่ศีรษะของเฉินซีอย่างดุดันด้วยว่องไวมหาศาล!

ทันทีที่มันกระโจนเข้ามา ต้นไม้โบราณที่อยู่ใกล้เคียงก็แตกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย กรงเล็บมหึมาสีทองนั้นหนักหน่วงและมีกลิ่นอายกดดัน ทุกที่ที่มันผ่านไป แม้แต่มิติก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ ทำให้มวลอากาศพุ่งออกไปทุกทิศทุกทางอย่างรุนแรง

เมื่อเผชิญหน้ากับอสูรหมีที่มีความสูงกว่าสิบสองจั้ง เฉินซีก็ไม่กล้าประมาทเลยแม้แต่น้อย จากนั้นปราณจ้าววิญญาณในร่างกายของเขาก็พุ่งออกมา ทำให้เกิดแสงสว่างไสวระเบิดออกมา จากนั้นร่างของเขาก็ขยายจนมีความสูงมากกว่าสิบสองจั้งในทันที กลิ่นอายในร่างของเขาก็ระเบิดออกและพวยพุ่งขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับสร้างแรงสั่นสะเทือนไปโดยรอบ มันคือพลังอิทธิฤทธิ์ ‘ร่างแปลงสวรรค์’!

ตู้ม!

เฉินซีก้าวไปข้างหน้าจนทำให้พื้นแตกออกจากกัน และเขาก็ชกกำปั้นของตนออกไปโดยไม่ลังเล

กำปั้นและอุ้งเท้าปะทะกันทำให้เกิดเสียงดังโครมครามอย่างน่าสะพรึงกลัวไปทั่วท้องฟ้าและผืนดิน จนเกิดเป็นคลื่นลมโหมกระหน่ำและทำให้เหล่าต้นไม้โบราณที่อยู่ในระยะร้อยห้าสิบลี้กลายเป็นผุยผง ทรายและเศษหินก็ปลิวขึ้นมาจากพื้นดินที่มีรอยแตกนับไม่ถ้วน

หมีหุ้มเกราะพิฆาตคำรามเสียงดังในขณะที่ร่างของมันเซไปทางด้านหลัง และความกลัวก็เกิดขึ้นในใจทันทีที่มันหยุดนิ่ง

ส่วนเฉินซีก็กระโดดขึ้นอีกครั้งก่อนจะเตะออกไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]