การจ้องมองของซูเจียวนั้นสงบ ยามที่นางพินิจชายหนุ่มตรงหน้า ไม่มีผู้ใดรู้ว่าขณะนี้หญิงสาวคิดถึงสิ่งใดอยู่
“เจ้าคือเฉินซี?” หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ซูเจียวก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง
เฉินซี?
หลังจากได้ยินคำพูดของนาง คนรอบข้างต่างก็สับสน มีเพียงคนที่มาจากเมืองหมอกสนเท่านั้นที่รู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินชื่อนี้
ผู้ใดในเมืองหมอกสนจะไม่รู้จักชื่ออันโด่งดังของเฉินหน้าตาย?
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขารู้สึกประหลาดใจยิ่งขึ้นเมื่อเห็นเฉินซีอยู่ร่วมกลุ่มกับเหล่าสมาชิกตระกูลใหญ่แห่งเมืองทะเลสาบมังกร
“เวรล่ะ! ไยตัวซวยถึงมาอยู่ที่นี่? มันเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่รู้แค่วิธีสร้างยันต์ไม่ใช่หรือ? เหตุใดมันถึงได้มาเข้าร่วมงานทดสอบด้วย?” บางคนรู้สึกยากที่จะเชื่อ
“อา! ก่อนหน้านี้ที่ข้าไม่เห็นไอ้ตัวซวยนั่นเป็นเพราะมันเอาแต่ซ่อนอยู่หลังนายน้อยต้วนมู่นี่เอง ความสง่างามของนายน้อยดึงดูดความสนใจของเราไปจนหมด จึงได้มองข้ามไอ้ตัวซวยนี้ไป” มีคนฉวยโอกาสนี้เพื่อประจบต้วนมู่เจ๋อ
“ไม่น่าเชื่อ! คนอย่างคุณหนูซูกลับจำชื่อเสียงเรียงนามของคนธรรมดาได้อย่างไร? เฮ้! พวกเจ้า เฉินซีผู้นี้เป็นใครกันแน่?” เหล่าผู้บ่มเพาะที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในเมืองหมอกสนเริ่มอยากรู้ขึ้นมา และเริ่มสอบถามเกี่ยวกับตัวตนของเฉินซี
“ฮ่า ๆ! พวกเจ้าทุกคนนอกจากจะไม่รู้เรื่องอะไรแล้วยังพูดจาเหลวไหลอีกต่างหาก! ข้าจะบอกพวกเจ้าทุกคนเอาบุญก็แล้วกันว่าคุณหนูซูเคยถูกหมั้นหมายกับเฉินซีเมื่อหลายปีก่อน ทว่าเมื่อถึงตอนที่มันอายุสี่ขวบ…” มีคนเริ่มพูดถึงฉากที่ตระกูลซูฉีกสัญญาหมั้นระหว่างชายหนุ่มกับซูเจียวเมื่อหลายปีก่อน
เฉินซีนิ่งฟังเสียงการสนทนารอบกาย สีหน้าของเขายังคงสงบราวกับว่าทุกคำพูดนินทานั้นไม่เกี่ยวข้องกับเขา
“ฮะ ตัวซวย? นี่เรื่องจริงอย่างนั้นหรือ?” ต้วนมู่เจ๋อแสร้งทำเป็นประหลาดใจทว่าดวงตาของเขากลับปรากฏความสุขและเยาะเย้ยขึ้นมาอย่างชัดเจน
“ไม่คิดเลยว่าคุณหนูซูจะมีอดีตกับเขาเช่นนี้” ฉางปินเหลือบมองเฉินซีด้วยความประหลาดใจ และความดูแคลนก็ปรากฏขึ้นในดวงตาคู่นั้น “แต่ถ้าเป็นข้า ข้าจะไม่แต่งงานกับขยะแบบนี้อย่างแน่นอน”
ภายใต้การเยาะเย้ยถากถางจากผู้คนรอบตัว เฉินซีลุกขึ้นยืนและจ้องมองไปที่ซูเจียวขณะเอ่ยถามเสียงห้วน “เจ้าเกี่ยวข้องกับการตายของปู่ของข้าใช่หรือไม่?”
“ข้า…” ซูเจียวตกตะลึง จากนั้นการแสดงออกของนางก็เย็นชาและถามกลับด้วยสีหน้าขมวดคิ้ว “การตายของปู่ของเจ้าเกี่ยวข้องกับข้าได้อย่างไร?”
“กล้าทำแต่ไม่ยอมรับ?” ชายหนุ่มยังคงกัดไม่ปล่อย
ซูเจียวโกรธจัดที่ถูกเฉินซีสอบปากคำ นางพูดย้ำคำชัด “เจ้าคิดว่าข้าควรอธิบายตัวเองให้กับขยะจากตระกูลต่ำต้อยเช่นเจ้าอย่างนั้นหรือ? เจ้าต้องเข้าใจว่าสัญญาการแต่งงานระหว่างตระกูลของเราไม่มีอยู่แล้ว ตอนนี้แม้ว่าข้าจะฆ่าเจ้า ข้าก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเจอปัญหาใด ๆ เจ้าเข้าใจหรือไม่!”
ดวงตาของหญิงสาวเปี่ยมล้นไปด้วยความดูถูก และยิ่งเมื่อนางเห็นเฉินซียังคงนิ่งเงียบ น้ำเสียงของนางก็ยิ่งหยาบคายมากกกว่าเดิม “เฮอะ ต่อให้ข้าจะฆ่าปู่เจ้าจริง ๆ เจ้าจะทำอะไรข้าได้ด้วยความแข็งแกร่งอันน้อยนิดของเจ้า?”
“จำไว้ว่าคนอ่อนแอไม่มีสิทธิ์พูด โดยเฉพาะคนที่มาจากตระกูลซึ่งล่มสลายไปแล้วเช่นเจ้ายิ่งไม่มีสิทธิ์จะหายใจร่วมอากาศเดียวกับข้าด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงการทวงถามความยุติธรรมใดกับข้า ถ้าขืนเจ้ากล้าพูดกับข้าอีกเพียงประโยค ข้ารับประกันว่าจะฆ่าเจ้าอย่างแน่นอน!”
หลังจากที่พูดจบ ซูเจียวก็หันหลังจากไปพร้อมกับฉางปินราวกับเพิ่งได้ชัยชนะจากสมรภูมิ
“คุณหนูซูปล่อยเฉินซีไว้ให้ข้าจัดการเอง ข้าจะสอนบทเรียนให้มันจนกว่าท่านจะพอใจ” เสียงใสดังแว่วมาแต่ไกล
“ขอบคุณสำหรับความกังวลของเจ้า นายน้อยหลี่ไฮว่ แต่ดินแดนรกร้างใต้พิภพนั้นสำคัญกว่า ปล่อยไอ้คนผู้นี้ไปชั่วคราวก่อนก็แล้วกัน”
หลี่ไฮว่?
เฉินซีหันไปมองชายหนุ่มรูปงามท่ามกลางฝูงชนที่ยืนดูอยู่ในระยะไกลออกไป ‘นายน้อยคนโตของตระกูลหลี่? เจ้าสองคนอยู่ด้วยกันตามที่คาดไว้…’
“เจ้าไหวหรือไม่?” นี่เป็นครั้งที่สองที่ตู้ชิงซีถามคำถามนี้กับเฉินซี
ชายหนุ่มส่ายหัว สีหน้าของเขาก็กลับมาเป็นปกติ ตั้งแต่เขายังเด็ก เขาเผชิญกับการเยาะเย้ยมาแล้วนับไม่ถ้วน ดังนั้นคำพูดเมื่อครู่นี้ของซูเจียวจึงนับได้ว่าเป็นเรื่องเล็ก ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงแต่อย่างใด
ตรงกันข้าม เนื่องจากเห็นหลี่ไฮว่กับซูเจียวอยู่ด้วยกัน ยิ่งทำให้เฉินซีมั่นใจมากขึ้นว่าการตายของปู่เขานั้นเกี่ยวข้องกับขุมกำลังที่หนุนหลังคนสองคนนี้อย่างแน่นอน!
ตู้ชิงซีไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมอีกเพราะดินแดนรกร้างใต้พิภพกำลังจะปรากฏ
ครืนน!
ผ่านไปอีกพักหนึ่ง ความผันผวนแปลกประหลาดบังเกิดขึ้นรอบ ๆ ทะเลสาบถ้ำวิญญาณ ผิวน้ำที่สงบนิ่งแต่เดิมของทะเลสาบสั่นสะเทือนจนเกิดระลอกคลื่นรุนแรง ปราณวิญญาณบริเวณโดยรอบปั่นป่วนยุ่งเหยิง ฟ้าครึ้มหมู่เมฆรวมตัวกันและเกิดลมพัดแรงราวกับมีมรสุมเข้า!
ครืน! ครืน! ครืน!
“ดินแดนรกร้างใต้พิภพกำลังจะปรากฏ! ทุกคนถอยออกมา!”
เมื่อเสียงตะโกนนี้จบลง เกลียวคลื่นที่บ้าคลั่งนับร้อยของทะเลสาบถ้ำวิญญาณพลันม้วนตัวขึ้นสู่อากาศ ก่อนจะควบรวมกันกลายเป็นพายุหมุนขนาดยักษ์หมุนเร็วอย่างบ้าคลั่ง
พายุหมุนยักษ์นี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ทะเลสาบถ้ำวิญญาณปั่นป่วนสุดขีด แต่มันยังสร้างความวายวอดให้แก่พื้นที่ชายฝั่งในระยะยี่สิบจั้งด้วยแรงดึงดูดอันมหาศาลของมัน ต้นไม้พืชพรรณทั้งหลายถูกถอนลอยละลิ่วเข้าหาจุดศูนย์กลางของพายุ เหล่าผู้บ่มเพาะที่อยู่ใกล้ทะเลสาบถ้ำวิญญาณต่างรีบถอยกลับเพื่อออกห่างจากระยะแรงดึงดูดของพายุหมุนอย่างรวดเร็ว มิเช่นนั้นพวกเขาคงได้กลายเป็นก้อนเลือดภายในพริบตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...
ลงวันละหลายตอนใต้ใหม่ครับ...
ไม่ลงต่อแล้วหรือครับ ผมยังรออยู่นะครับ...