บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 384

บทที่ 384 ลงมืออย่างต่อเนื่อง!

บทที่ 384 ลงมืออย่างต่อเนื่อง!

บัลลังก์เทพเต๋าแห่งการต่อสู้ทั้งหนึ่งร้อยบัลลังก์ได้ปรากฏขึ้นในดินแดนเต๋าแห่งการต่อสู้ และพวกมันต่างก็เปล่งประกายแสงสีทองที่ไร้ขอบเขตออกมา

นี่เป็นการทดสอบที่สามของการชุมนุมดาวรุ่ง ผู้บ่มเพาะทั้งสามพันหกร้อยคนจะต้องแข่งขันกันเพื่อชิงหนึ่งร้อยอันดับแรก คนที่ประสบความสำเร็จไม่เพียงแต่จะเข้าสู่การทดสอบรอบต่อไปได้ แต่พวกเขายังได้รับวิชากระบวนยุทธ์ระดับเต๋าจากบัลลังก์เทพ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นการฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียว

ส่วนผู้ที่ล้มเหลวจะมีเพียงผลลัพธ์เดียว นั่นคือการถูกกำจัดออกจากแข่งขัน!

ในขณะนี้ จัตุรัสที่เงียบสงบแต่เดิมกลับไม่ได้เข้าสู่ความโกลาหลอย่างที่คาดไว้ และมันก็เงียบมากขึ้นอย่างน่าประหลาด เงียบจนผิดปกติ ชนิดที่ว่าไม่มีผู้ใดกล้าทำอะไรผลีผลามเลยสักคน

เพราะพวกเขาต่างก็ตระหนักได้เป็นอย่างดีว่า หากพวกเขาไม่มีความแข็งแกร่งเพียงพอและคิดเคลื่อนไหวเป็นคนแรก ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่สามารถครอบครองบัลลังก์เทพได้ มันยังจะชักนำความตายมาสู่พวกเขาอีกด้วย!

อย่างไรก็ตาม ความเงียบเช่นนี้ก็ไม่ได้ดำเนินอยู่นานนัก

เพียงชั่วครู่ต่อมา ภายใต้สายตาที่จดจ้องอยู่นับไม่ถ้วน ชิงซิ่วอี้ซึ่งอยู่ด้านหน้าสุดก็ทะยานออกไปในทันที ทำให้เสื้อผ้าของนางปลิวไสวราวกับหมอกควันที่เป็นดั่งภาพมายาและได้มาถึงบัลลังก์เทพแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับแท่นบูชา ก่อนจะนั่งขัดสมาธิในทันที

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ในเวลาไล่เลี่ยกัน จ้าวชิงเหอแห่งหอหยกนภา หวงฝู่ฉางเทียนแห่งตำหนักจ้าวปัญญา เจิ้นหลิวชิงแห่งหอวารีหมอก องค์หญิงหวงฝู่ฉิงอิง และคนอื่น ๆ ต่างก็ทะยานออกไปเพื่อยึดบัลลังก์เทพที่อยู่ใกล้แท่นบูชามากที่สุดไปตามลำดับ

เมื่อพวกเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ดวงตาของผู้บ่มเพาะหลายคนก็สั่นไหว แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครกล้ากล่าวอะไรออกมา เพราะพวกเขาตระหนักได้เป็นอย่างดีว่า ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งหรือกองกำลังที่คอยหนุนหลังพวกจ้าวชิงเหออยู่ มันก็เพียงพอที่จะสนับสนุนคนเหล่านี้ให้สามารถนั่งที่บัลลังก์เทพโดยไม่มีอุปสรรคเลย

เนื่องจากยอดฝีมือรุ่นเยาว์เหล่านี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะระดับแนวหน้าของโลกแห่งการบ่มเพาะของราชวงศ์ซ่งและเป็นผู้นำของกลุ่มคนรุ่นเยาว์ที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ใครจะกล้าเป็นศัตรูกับคนเหล่านี้

ในเวลาเพียงชั่วพริบตา บัลลังก์เทพเต๋าแห่งการต่อสู้ทั้งเจ็ดจากหนึ่งร้อยบัลลังก์ก็ถูกครอบครองแล้ว!

ในหมู่พวกเขามีอีกสองคนที่เฉินซีไม่รู้จัก และพวกเขาก็ไม่คุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง คนหนึ่งเป็นชายหนุ่มผมสีม่วงที่มีสีหน้าเย็นชาและรูปร่างผอมบาง มีประกายสายฟ้าปรากฏขึ้นเมื่อกะพริบตา ในขณะที่อีกคนเป็นชายหนุ่มอ้วนท้วมที่ยิ้มจนกว้างถึงใบหูพร้อมกับรูปร่างที่ใหญ่โต คนทั้งคู่ต่างก็ดูสะดุดตายิ่ง แต่เพราะพวกเขาเป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่ยึดครองบัลลังก์เทพได้ ดังนั้นความแข็งแกร่งของพวกเขาจึงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!

“ทั้งสองคนนี้สามารถเทียบได้กับหวงฝู่ฉางเทียนและคนอื่น ๆ …โลกใบนี้มียอดฝีมืออยู่มากมายเหลือเกิน” เฉินซีถอนหายใจ

“พี่เฉิน ท่านมาช้าไปหน่อย และบางทีท่านอาจไม่รู้จักสองคนนั้น พวกเขาชื่ออวี๋เซวียนเฉินและหลิงอวี๋ ทั้งสองคนมีพละกำลังที่ไม่ธรรมดาอย่างยิ่งและเป็นศิษย์ที่ได้รับการสอนเป็นการส่วนตัวจากเหล่าตัวประหลาดเฒ่าที่อาศัยอยู่อย่างสันโดษจากโลกภายนอก” หวังเต้าซวี่ที่อยู่ใกล้เคียงอธิบาย “ในช่วงต้นของการทดสอบแรกและสอง ทั้งสองคนได้เผยความสามารถที่เหนือล้ำกว่าคนอื่น ๆ ทำให้ความแข็งแกร่งของพวกเขาเป็นที่ยอมรับจากคนส่วนใหญ่ ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถยึดบัลลังก์เทพได้อย่างปลอดภัย”

เฉินซีตระหนักได้ในทันทีว่าก่อนที่การชุมนุมดาวรุ่งจะเริ่มต้นขึ้น ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ยินหลายคนกล่าวไว้ว่า เป็นเพราะสระมังกรแปลงนี้เองที่ทำให้พวกเฒ่าประหลาดทั้งหลายที่อาศัยอยู่อย่างสันโดษจากโลกภายนอก ส่งศิษย์ของพวกเขาออกไปเข้าร่วมการชุมนุมดาวรุ่งในครั้งนี้

ซึ่งเห็นได้ชัดว่าอวี๋เซวียนเฉินกับหลิงอวี๋เป็นลูกศิษย์ที่โดดเด่นซึ่งได้รับการสั่งสอนโดยเฒ่าประหลาดสองคน

“ไปกันเถอะ ในขณะที่ทุกคนยังกังวลกันอยู่ พวกเรามาร่วมมือกันก่อนดีกว่า ไม่อย่างนั้นเราอาจตกอยู่ในการต่อสู้ที่วุ่นวายครั้งใหญ่” นายน้อยโจวกล่าวออกมาทันที

เฉินซีเงยหน้าขึ้นและกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วเขาก็เห็นว่าในบรรดาผู้คนที่อยู่เคียงข้าง นอกจากเจิ้นหลิวชิงและหวงฝู่ฉิงอิงที่เริ่มเคลื่อนไหวก่อน อันเชี่ยนอวี้ หวังเต้าซวี่ ฮวาโม่เป่ย หวังเจิ้นเฟิง และนายน้อยโจวก็พร้อมที่จะเคลื่อนไหวแล้ว

เฉินซีหันกลับไปมองฟ่านอวิ๋นหลานที่อยู่ข้าง ๆ เขา และเมื่อนางพยักหน้าแสดงว่านางพร้อมแล้ว เขาจึงตกลงทันที “เอาล่ะ ลงมือกันเลย!”

สถานการณ์ในขณะนี้เป็นไปตามที่นายน้อยโจวกล่าวไว้ คนส่วนใหญ่ล้วนเต็มไปด้วยความกังวลและไม่มีใครกล้าลงมือเคลื่อนไหว เนื่องจากพวกเขากลัวที่จะตกเป็นเป้าหมายของทุกคนที่อยู่ล้อมรอบและถูกกวาดล้าง

และถ้าอาศัยความแข็งแกร่งของเขากับความแข็งแกร่งของคนอื่น ๆ ในตอนนี้เพื่อเคลื่อนตัวออกไปพร้อมกัน มันก็คงจะไม่มีใครกล้าขัดขวางพวกเขา!

เมื่อรวมกับเจิ้นหลิวชิงและหวงฝู่ฉิงอิงที่ได้แสดงการสนับสนุนอย่างเปิดเผยแล้ว หวงฝู่ฉงหมิง หลินโม่เซวียน และคนอื่น ๆ จะไม่กล้าขัดขวางพวกเขาในเวลานี้

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

เฉินซีและคนอื่น ๆ ต่างก็เคลื่อนตัวออกไปโดยไม่ลังเลอีกต่อไป ร่างของพวกเขากลายเป็นลำแสงพุ่งไปยังบัลลังก์เทพเต๋าแห่งการต่อสู้ที่อยู่รอบ ๆ แท่นบูชา

เมื่อพวกเขาเห็นสิ่งนี้ คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันก็เป็นไปตามที่เฉินซีคาดไว้ และพวกเขาก็ไม่ได้ลงมือขัดขวางกลุ่มของเฉินซี เนื่องจากคนพวกนี้รู้สึกหวาดกลัวกลุ่มของชายหนุ่ม

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เฉินซีจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก เสียงร้องอันโกรธเกรี้ยวของฟ่านอวิ๋นหลานก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้หัวใจของเขาสั่นสะท้าน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วและเห็นหวงฝู่ฉงหมิง หลินโม่เซวียน และเซียวหลิงเอ๋อร์พุ่งผ่านท้องฟ้าด้วยความตั้งใจจะขัดขวางและเข่นฆ่าฟ่านอวิ๋นหลานด้วยพลังทั้งหมดของพวกเขา!

“พวกเจ้ากำลังรนหาที่ตาย!” จู่ ๆ เฉินซีก็หยุดเคลื่อนไหวและหันกลับไปทางด้านหลัง สีหน้าของเขาเย็นชาและไม่แยแสอย่างสุดขีดออกมา!

ในช่วงเวลาวิกฤต คนเหล่านี้กลับยังไม่รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร และจู่ ๆ ก็เข้ามาแทรกแซง ซึ่งทำให้เขาโมโหเป็นอย่างยิ่ง!

“ให้ตายเถอะ ไอ้สารเลวพวกนี้!”

“พี่เฉิน ข้าจะช่วยท่านเอง!”

นายน้อยโจวและคนอื่น ๆ ต่างก็สังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นและตะโกนออกมาอย่างโกรธเคืองติดต่อกัน ก่อนที่พวกเขาจะหันกลับมาด้วยความตั้งใจที่จะบุกโจมตี แต่พวกเขากลับถูกเฉินซีหยุดไว้เสียก่อน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]