บทที่ 385 การต่อสู้ที่ดุเดือด
บทที่ 385 การต่อสู้ที่ดุเดือด
เฉินซีและฟ่านอวิ๋นหลานยืนเคียงข้างกันอยู่ที่กลางอากาศ และกลุ่มเจ็ดคนของหวงฝู่ฉงหมิงยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามพวกเขา
การเผชิญหน้าระหว่างยอดฝีมือสองต่อเจ็ดคน!
การต่อสู้จะปะทุขึ้นเมื่อใดก็ได้!
การเผชิญหน้าที่มีช่องว่างของความแข็งแกร่งเช่นนี้ ผู้ได้เห็นเหตุการณ์ล้วนคิดว่าเฉินซีกับฟ่านอวิ๋นหลานจะต้องอยู่ในฝ่ายเสียเปรียบอย่างไม่ต้องสงสัย
“โม่เซวียน หลิงเอ๋อร์ เราสามคนจะจัดการกับเฉินซี ส่วนคนอื่น ๆ จะจัดการกับนังมารคนนั้น” หวงฝู่ฉงหมิงกล่าวผ่านกระแสปราณอย่างรวดเร็ว “จงจำไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าต้องตรึงนังมารคนนั้นไว้ให้ได้ เพราะนางคือกุญแจสำคัญที่เราจะสามารถฆ่าเฉินซีได้หรือไม่!”
คนอื่น ๆ ต่างก็พยักหน้าเห็นด้วยเมื่อได้ยินสิ่งนี้
“ฆ่า!” หวงฝู่ฉงหมิงตะโกนออกมาอย่างดุเดือด ราวกับเสียงฟ้าร้องที่ดังกึกก้องจนเขย่าไปทั้งสวรรค์และโลก ในขณะที่เขาเปิดฉากการต่อสู้
เคร้ง!
ปราณกระบี่พุ่งทะลุท้องฟ้าขณะที่หลินโม่เซวียนเป็นคนเริ่มโจมตีก่อน กระบี่ที่คมกริบในมือของเขาเปลี่ยนเป็นปราณกระบี่ที่ปกคลุมฟ้าดินและระเบิดออกไป ปราณกระบี่ทุกเล่มแฝงด้วยพลังสีเหลืองเสมือนกับผืนดินที่หนักแน่น แข็งแกร่งและสูงส่ง และเมื่อตั้งใจมันดี ๆ แล้วก็จะเห็นปราณกระบี่จำนวนมากที่แฝงไปด้วยปราณฟ้าดิน
กระแสปราณฟ้าดินเหล่านี้ก็เพียงพอที่จะบดขยี้เนินเขาได้ทั้งลูก!
ปราณกระบี่ที่หลินโม่เซวียนใช้ออกไปนั้นแฝงไปด้วยปราณฟ้าดินที่ทรงอานุภาพ ซึ่งสามารถเห็นได้ว่าหลินโม่เซวียนไม่ได้ประเมินเฉินซีต่ำไปแม้แต่น้อย เนื่องจากเห็นได้ชัดว่าเขาใช้พลังทั้งหมดที่มีในการโจมตีครั้งนี้
“ไสหัวไปซะ!” ดวงตาของเฉินซีปลดปล่อยเจตนาฆ่าในขณะที่เขาตะโกนไปอย่างรุนแรงราวกับเสียงฟ้าร้อง และในขณะเดียวกัน พลังงานมหาศาลของจิตสัมผัสเทพของเขาได้กลายเป็นพลังไร้รูปร่างและเกรี้ยวกราดที่พุ่งออกไปทันควัน
เคล็ดวิชาสังหารเทวา!
จิตสัมผัสเทพของเฉินซีในปัจจุบันได้แซงหน้าผู้บ่มเพาะขอบเขตจุติไปนานแล้ว และมันสามารถเทียบเคียงได้กับจิตสัมผัสเทพของผู้บ่มเพาะขอบเขตสถิตกายา ในขณะนี้ เมื่อจิตสัมผัสเทพได้ผสานกับเคล็ดวิชาสังหารเทวา จิตสัมผัสเทพอันกว้างใหญ่ของเขาก็เปลี่ยนเป็นสายฟ้าที่ไร้รูปร่างในทันที
ปัง!
การโจมตีวิญญาณเป็นการโจมตีที่แปลกประหลาดและหลากหลายที่สุด ยามที่ใช้มันเพื่อโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว ก็จะเกิดผลลัพธ์ที่ยากเหลือเชื่อออกมา แม้ว่าหลินโม่เซวียนจะเตรียมพร้อมมาอย่างเต็มที่ แต่เขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจิตสัมผัสเทพของเฉินซีจะไปถึงระดับที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ และเฉินซีก็มีเคล็ดวิชาการโจมตีวิญญาณอีกเช่นกัน!
และทันใดนั้นเอง เขาก็รู้สึกราวกับว่าจิตสำนึกของตนได้ถูกสายฟ้าฟาดอย่างรุนแรง ทำให้ดวงวิญญาณได้รับบาดเจ็บสาหัส การมองเห็นของเขากลายเป็นดำมืดและพ่นเลือดคำโตออกมาเต็มปาก ในขณะที่ร่างแทบจะตกลงมาจากท้องฟ้า
“อ๊าก!” หลินโม่เซวียนร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดและรู้สึกหวาดกลัวอย่างสุดขีดในใจ เนื่องจากเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าตนเองจะพ่ายแพ้ทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น และเขาก็ไม่สามารถต้านทานการลงมือของเฉินซีได้แม้แต่ครั้งเดียว ผลลัพธ์นี้ทำให้เจ้าตัวรู้สึกราวกับว่าตกลงไปในบ่อน้ำแข็งอันเย็นยะเยือก และแทบไม่อยากเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องจริง!
ไม่ใช่แค่เขาที่ตกตะลึง ทุกคนที่อยู่ที่จัตุรัสต่างก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด เพราะพวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าหลินโม่เซวียนจะล้มลงตั้งแต่เริ่มการต่อสู้ และถ้าไม่เห็นมันด้วยสองตาของตัวเองละก็ ย่อมไม่มีใครเชื่อว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เนื่องจากมันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป
“ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าจิตสัมผัสเทพของคนผู้นี้จะไม่เลวจริง ๆ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้จิตสำนึกของเขาพังทลาย…” หลังจากลงมือสำเร็จ เฉินซีก็ไม่ได้หยุดเลยแม้แต่น้อย เขาใช้ปีกนภาดารกะที่ปกคลุมไปด้วยดวงดาวพร่างพราว และเพียงชั่วพริบตา ชายหนุ่มได้มาถึงที่เบื้องหน้าของหลินโม่เซวียน จากนั้นยันต์ศัสตราในมือของเขาก็ฟันลงไปอย่างดุเดือด
ในขณะนี้ เขาจำเป็นต้องต่อสู้และยุติการต่อสู้อย่างรวดเร็ว ไม่อาจหันเหความสนใจได้เลยสักนิด เขาทำได้เพียงแต่ต้องทำลายล้างศัตรูทั้งหมดอย่างโหดเหี้ยมและเด็ดเดี่ยว เพื่อยับยั้งศัตรูและทำให้สถานการณ์การต่อสู้เป็นประโยชน์กับตนมากยิ่งขึ้น
“เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!”
“ไปตายซะ!”
ทว่าในขณะที่เฉินซีกำลังจัดการหลินโม่เซวียน เขาก็ถูกหวงฝู่ฉงหมิงและเซียวหลิงเอ๋อร์ขัดขวางไว้
อันที่จริง พวกเขาทั้งสองคนล้วนหวาดกลัวต่อสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้จนหลั่งเหงื่อเย็นเยียบออกมาโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากพวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าในเสี้ยวพริบตาเดียว หลินโม่เซวียนจะบาดเจ็บสาหัสทันทีที่การต่อสู้เพิ่งเริ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ทรงพลังอย่างยิ่งเช่นกัน และความเร็วในการตอบสนองของพวกเขาก็เหนือกว่าคนอื่น ๆ มาก ดังนั้นพวกเขาจะปล่อยให้หลินโม่เซวียนตายต่อหน้าได้อย่างไร?
ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ ทั้งคู่เคลื่อนไหวและโจมตีอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด
“อสรพิษทั้งเก้าจงคำรามไปทั่วท้องฟ้า หมัดของข้าจงพิฆาตสวรรค์ทั้งเก้า!” เสื้อผ้าของหวงฝู่ฉงหมิงกระพือไปมา ปราณแท้รอบกายเขาได้เปลี่ยนเป็นอสรพิษเก้าตัวที่ขดตัวและส่งเสียงร้องหวีดหวิวออกมา นี่คือกระบวนยุทธ์ระดับเต๋าที่เขาภาคภูมิใจที่สุด หมัดเก้าอสรพิษทลายนภา!
พลังหมัดที่ชกออกไปด้วยเคล็ดวิชานี้เปรียบเสมือนกับอสรพิษขนาดมหึมาที่พุ่งออกไปเพื่อกลืนกินทั้งท้องฟ้า ทำให้มิติแตกสลาย พลิกคว่ำมหาสมุทร และมีพลังทำลายที่ไร้ขอบเขต อีกทั้งยังทำให้รู้สึกได้อย่างแผ่วเบาราวกับมิติโดยรอบกำลังพังทลายลงอย่างรุนแรงภายใต้หมัดนี้
ในอีกด้านหนึ่ง กระบี่ในมือของเซียวหลิงเอ๋อร์ได้กลายเป็นสัตว์ร้ายบินได้ที่มีขนาดมหึมา สัตว์ร้ายที่บินได้มีปีกที่ลุกเป็นไฟ มันส่งเสียงร้องที่ทะลุไปถึงสวรรค์ทั้งเก้าชั้น อีกทั้งยังเต็มไปด้วยเต๋ารู้แจ้งอัคคี และทุกการกระพือปีกของมันก็ดูเหมือนจะมีพายุเพลิงเกิดขึ้น
เต๋ารู้แจ้งกำลังก่อรูปขึ้น!
เห็นได้ชัดว่าการควบคุมเต๋ารู้แจ้งอัคคีของเซียวหลิงเอ๋อร์ ได้บรรลุขอบเขตเริ่มต้นแล้ว ในขณะนี้ การจู่โจมของนางมาพร้อมกับปราณรูปสัตว์ร้ายที่บินได้ และมันทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง
ทันทีที่คนทั้งคู่ลงมือ พวกเขาก็แสดงพลังที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก
ไม่ว่าจะเป็นหมัดเก้าอสรพิษทลายนภาของหวงฝู่ฉงหมิง หรือการฟันด้วยกระบี่ของเซียวหลิงเอ๋อร์ที่แฝงไปด้วยเต๋ารู้แจ้งที่ก่อรูปขึ้น ทั้งสองกระบวนท่านี้ล้วนทำให้ผู้คนรู้สึกสั่นไหวอยู่ในใจและรู้สึกตกตะลึงอย่างมาก
“คิดขวางข้าหรือ?” เฉินซีทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างสง่างามราวกับสายรุ้ง และเขาก็ไม่ได้หลบเลี่ยงหรือหลบหลีกในขณะที่ใช้การโจมตีด้วยจิตสัมผัสเทพออกไปอีกครั้งหนึ่ง
ปัง! ปัง!
สายฟ้าไร้รูปร่างที่ควบแน่นจากจิตสัมผัสเทพได้พุ่งเข้าหาหวงฝู่ฉงหมิง ในขณะที่อีกสายได้พุ่งเข้าใส่เซียวหลิงเอ๋อร์อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่มีฐานการบ่มเพาะในระดับเดียวกัน ก็มีน้อยคนนักที่จะกล้าใช้การโจมตีด้วยจิตสัมผัสเทพ เนื่องจากมันค่อนข้างเสี่ยงที่จะได้รับอันตราย และความประมาทเลินเล่อเพียงเล็กน้อยก็มีโอกาสที่จะทำให้วิญญาณของผู้ใช้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งการบาดเจ็บนี้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการบ่มเพาะในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้น มันอาจทำให้ไม่สามารถรับรู้ถึงเต๋าแห่งสวรรค์ได้อีก
แต่เฉินซีนั้นแตกต่างออกไป ความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณของเขาได้บรรลุระดับที่แข็งแกร่งจนเหนือล้ำกว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ และมันไม่ได้แข็งแกร่งขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ เมื่อใช้มันกับหวงฝู่ฉงหมิงและคนอื่น ๆ เขาจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอันตรายใด ๆ ที่จะเกิดขึ้น
แม้ว่าพวกเขาจะมองไม่เห็นการโจมตีด้วยจิตสัมผัสเทพของเฉินซี แต่หวงฝู่ฉงหมิงกับเซียวหลิงเอ๋อร์ก็ยังสัมผัสได้ถึงอันตราย ดังนั้นพวกเขาจึงทุ่มเทในการป้องกันทั้งกายและใจ ในขณะเดียวกัน การโจมตีของพวกเขาก็รุนแรงและรวดเร็วยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
ทว่าพวกเขาก็ยังคงประเมินพลังของจิตสัมผัสเทพของเฉินซีต่ำไป!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...