บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 406

บทที่ 406 โชคลาภไร้เทียมทาน

บทที่ 406 โชคลาภไร้เทียมทาน

ตามกฎของการชุมนุมดาวรุ่งครั้งที่ผ่านมา หลังจากห้าอันดับแรกถูกคัดเลือกแล้ว จะมีการจับสลากขึ้นเพื่อตัดสินว่าผู้ใดจะได้เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งต่อไป

กล่องหยกที่มหาเสนาบดีถืออยู่นั้นมีป้ายคำสั่งอยู่ห้าป้าย สี่ป้ายเป็นสีขาว อีกหนึ่งป้ายเป็นสีดำ

ป้ายคำสั่งสีขาวทั้งสี่ป้ายมีหมายเลขหนึ่ง สอง สาม และสี่อยู่บนนั้น หลังจากที่พวกเขาจับสลากแล้ว ผู้ครอบครองป้ายหมายเลขหนึ่งจะถูกจับคู่กับผู้ครอบครองป้ายหมายเลขสี่ ในขณะที่ผู้ครอบครองป้ายหมายเลขสองและสามจะต่อสู้กัน

การประลองแบบคู่นี้เพื่อคัดเลือกสองในสามอันดับแรก ในขณะที่ผู้ครอบครองป้ายคำสั่งสีดำจะเข้ารอบสามอันดับแรกโดยตรง!

เหตุที่ถูกจัดเช่นนี้เป็นเพราะต้องการทดสอบโชคลาภของผู้เข้าร่วม

ในฐานะผู้บ่มเพาะ การมีโชคนั้นมีความสำคัญมาก เพราะมันถูกแบ่งตั้งแต่โชคอันเล็กจ้อยของคนหนึ่งคนไปจนถึงโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ของทั่วทั้งอาณาจักร ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อและประเมินค่าไม่ได้ แต่ในสายตาของผู้บ่มเพาะทุกคน โชคลาภดังกล่าวมีอยู่จริง แม้ว่าจะไม่อาจไขปริศนาของมันได้ แต่พวกเขาก็เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้

การจัดให้มีการจับสลากเพื่อเลือกผู้ที่จะทำการประลองในรอบนี้ค่อนข้างจะเข้ากับแนวคิดเรื่องโชคลาภ

การจับสลากกำลังจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบรรดาผู้บ่มเพาะในนครหลวงธารสายไหมหรือผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพี ล้วนแต่กำลังคาดเดาผลลัพธ์ทั้งสิ้น

“ทั้งห้าคนนี้ต่อสู้อย่างยากลำบากเพื่อติดห้าอันดับแรก ทว่านอกจากพละกำลังของพวกเขาแล้ว ต้องเป็นผู้ที่มีโชคที่ดีเยี่ยมอีกด้วยจึงจะผ่านพ้นรอบนี้ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นการยากที่จะเดาได้ว่าใครจะได้รับป้ายคำสั่งสีดำ”

“ข้าคิดว่าเป็นชิงซิ่วอี้ นางคือเซียนสวรรค์กลับชาติมาเกิด บริสุทธิ์ทั้งจิตใจและอากัปกิริยา พรสวรรค์และโชคอยู่เหนือใคร ๆ นางจะต้องได้ครอบครองป้ายคำสั่งสีดำเป็นแน่”

“ข้าคิดว่าจ้าวชิงเหอก็ไม่เลว เขามาจากนิกายหอหยกนภา และในบันทึกประวัติศาสตร์อันไร้ขอบเขตแห่งเวลา สถานที่นั้นคือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ให้กำเนิดเซียนสวรรค์มากมาย ทำให้มีความได้เปรียบโดยไม่ต้องสงสัย หากว่ากันในแง่ของโชคชะตา จ้าวชิงเหอคงจะยิ่งใหญ่กว่า”

“ข้าคิดว่าเจิ้นหลิวชิงคือหญิงสาวที่มีโชคที่ดีที่สุด นางมาจากนิกายหอวารีหมอกที่มีความชำนาญในการทำนาย ภูมิศาสตร์ และโหราศาสตร์ อีกทั้งยังมีข้อได้เปรียบที่ไม่มีใครเทียบได้ในแง่ของความเข้าใจในกระบวนการแห่งสวรรค์ ยิ่งกว่านั้น ข้าคิดว่าทุกคนทราบดีว่าทุกครั้งที่ราชวงศ์ถวายเครื่องสังเวยแด่เทพเจ้าและบรรพชน ศิษย์แห่งหอวารีหมอกจะเป็นประธานในพิธีเสมอ ดังนั้นโชคชะตาที่ว่านี้ เจิ้นหลิวชิงควรจะเป็นอันดับหนึ่ง!”

“จริง ๆ แล้ว หลิงอวี๋ก็ไม่เลวเช่นกัน เขามีรูปร่างจ้ำม่ำและโฉมหน้าที่งดงามยิ่งนัก…”

บรรดาผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีต่างแสดงความคิดเห็นของตน ทว่าแทบไม่มีใครกล่าวถึงเฉินซี เป่ยเหิงไม่อาจทนต่อสิ่งนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะไอแหบแห้งและพูดว่า “ใคร ๆ ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงญาติของตนเองได้เมื่อพูดถึงผู้ที่คู่ควร ข้ารู้สึกว่าน้องร่วมสาบานของข้าก็ไม่เลวเช่นกัน เขา…”

“ไร้สาระ! ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เหตุใดข้าถึงได้ยินว่าเขาเป็นตัวซวยในดินแดนทางใต้ตลอดหลายปีที่ผ่านมากันล่ะ?” ก่อนที่เป่ยเหิงจะพูดจบ หวงฝู่จิ่งเทียนขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงที่แฝงการดูถูกเยาะเย้ย

เป่ยเหิงถึงกับนิ่งงัน จากนั้นเขาก็ส่งเสียงขู่อย่างเย็นชาและไม่ได้กล่าวอะไรอีก เพราะหากยังโต้แย้งต่อไป คงจะดึงอดีตที่เลวร้ายของเฉินซีออกมาจนได้ และมันก็ไม่ต่างจากการทำให้เฉินซีอับอายต่อหน้าธารกำนัล ดังนั้นเขาจึงไม่ได้โต้เถียงเรื่องนี้กับหวงฝู่จิ่งเทียน

แม้จะไม่ได้ตอบโต้ หวงฝู่จิ่งเทียนก็ไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยอีกฝ่ายไปง่าย ๆ เขาเริ่มหัวเราะพลางเล่าอดีตของเฉินซีให้กับผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีโดยรอบ เช่นที่มาของชื่อเล่นเฉินหน้าตายและตัวซวย การล่มสลายของตระกูลเฉิน ตอนที่สัญญาหมั้นหมายของเฉินซีถูกฉีกทิ้ง เรื่องที่พ่อแม่ของเฉินซีอยู่ที่ใดก็ไม่อาจทราบและอีกมากมาย

สีหน้าของคนอื่น ๆ เริ่มแปลกไปเมื่อได้ยินสิ่งนี้ สายตาของพวกเขาปรากฏความรู้สึกแปลกประหลาดขณะมองไปยังเฉินซีพลางพึมพำในใจ ‘ตลอดหลายปีที่ผ่านมาสหายคนนี้ช่างโชคร้ายเสียจริง’

“ฮึ่ม! เฉินซีมาถึงจุดนี้ได้หลังจากผ่านความยากลำบากมาทุกรูปแบบ เหตุใดเขาจึงสมควรได้รับคำเยาะเย้ยจากพวกเจ้า? หากเป็นพวกเจ้าละก็ จะสามารถก้าวออกจากสถานการณ์อันเลวร้ายเหล่านี้และประสบความสำเร็จดังที่เขาทำได้ในตอนนี้หรือไม่?” แม่ทัพใหญ่หลัวหุนผู้มักจะหลับตาในความเงียบงันพลันคำรามอย่างเย็นชา

บรรดาผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีพลันวิงเวียนศีรษะเมื่อได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาตกอยู่ในความเงียบ… ‘ย่อมใช่ หากข้าเป็นเฉินซี ข้าจะประสบความสำเร็จบนเส้นทางแห่งเต๋าภายใต้สภาพแวดล้อมที่กดดันอย่างหนักเยี่ยงนี้ได้หรือ?’

มีเพียงใบหน้าของหวงฝู่ฉางเทียนที่หม่นลง จากนั้นก็เงียบไปเนื่องจากไม่มีอะไรจะโต้เถียงกับแม่ทัพใหญ่ เขาต้องการดูว่าเจ้าตัวซวยเฉินซีจะได้ป้ายคำสั่งใด

ในการจับสลากที่ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารออยู่นั้น แม้กระทั่งเรื่องไม่คาดฝันก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

เฉินซีจดจ่ออยู่กับการบ่มเพาะตลอดเวลาและยังไม่ตื่นจากการหลับใหล หากถูกรบกวนในตอนนี้ เหตุร้ายอาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจจับสลากได้เป็นการชั่วคราว

“ไม่เป็นไร พวกเจ้าทั้งสี่จับสลากก่อน ส่วนป้ายสุดท้ายจะเป็นของเขา” มหาเสนาบดีขมวดคิ้วก่อนจะคิดวิธีจับสลากใหม่พลางออกคำสั่งโดยไม่ใส่อารมณ์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]