บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 407

บทที่ 407 การพิพากษา

บทที่ 407 การพิพากษา

ในขณะที่ผู้ประลองห้าคนที่เหลือต้องจับสลาก แต่เฉินซีกลับได้รับป้ายคำสั่งสีดำสำหรับการเข้าสู่สามอันดับแรก โดยที่เขาไม่ได้ทำสิ่งใดเลย ทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างมึนงงและรู้สึกไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น

“ความลึกลับของโชคชะตานั้นไม่อาจคาดเดาได้จริง ๆ ผู้ใดจะคาดคิดว่าโชคของเฉินซีจะยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาห้าคนนี้” ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีคนอื่น ๆ พยักหน้าเห็นด้วยเป็นอย่างมาก

ใบหน้าของหวงฝู่ฉางเทียนหม่นหมองลง เนื่องจากเมื่อครู่เขาได้ป่าวประกาศว่าเฉินซีเป็นตัวซวย แต่อีกฝ่ายกลับได้รับป้ายคำสั่งสีดำโดยไม่ได้มีส่วนร่วมในการจับสลากใด ๆ ซึ่งไม่ต่างกับการตบหน้าตนเองกลางสาธารณะ จึงทำให้เขารู้สึกขมขื่นเป็นอย่างยิ่ง

ในขณะเดียวกัน เฉินซีได้ฟื้นตัวจากการบ่มเพาะ ทำให้จิตวิญญาณของเขาสดชื่น จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าทุกคนจ้องมองมาที่ตนเองด้วยความอิจฉา จึงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง “เกิดอะไรขึ้น?”

ชายหนุ่มรู้สึกงุนงง จึงเอ่ยถามเจิ้นหลิวชิงที่อยู่ข้าง ๆ ถึงเรื่องนี้ และหลังจากที่รู้เรื่องทั้งหมด เขาก็รู้ไม่ว่าจะตอบสนองอย่างไรดี “ข้าได้เข้ารอบสามอันดับแรกจริง ๆ หรือ?

“โชคของเจ้าไม่เลวเลย” เจิ้นหลิวชิงหัวเราะเบา ๆ ขณะที่ถอนหายใจ

เฉินซีหัวเราะอย่างขมขื่นออกมา เขารู้สึกได้อย่างเลือนรางว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับไป๋คุย เนื่องจากเจ้าตัวเล็กเป็นสัตว์มงคลอันดับต้น ๆ ของโลกที่สามารถรวบรวมโชคชะตาจากสวรรค์และโลกได้ และบางทีเขาอาจได้รับประโยชน์จากการเชื่อมโยงกับไป๋คุย ทำให้ได้ป้ายคำสั่งสีดำนี้มาโดยไม่ต้องทำอะไรเลย!

“การประลองในรอบที่ห้าเป็นรอบที่สำคัญที่สุด หลังจากการประลองในรอบนี้ ผู้เข้ารอบสามอันดับแรกจะถูกตัดสิน และจะมีสิทธิ์เข้าไปในคลังขุมสมบัติของราชวงศ์ พวกเจ้าสามารถเลือกวิชากระบวนยุทธ์หรือพลังอิทธิฤทธิ์วิชาใดก็ได้ตามต้องการ ข้าหวังว่าพวกเจ้าทุกคนจะหลีกเลี่ยงความเย่อหยิ่งและลดความหุนหันพลันแล่นได้ นอกจากนี้พวกเจ้าต้องไม่ลดละความพยายาม” บนท้องฟ้าที่สูงขึ้นไป สุรเสียงของจักรพรรดิซ่งดังก้องออกมาทันที

ฟุ่บ!

เสียงโห่ร้องของผู้คนหายไปอย่างไร้ร่องรอย สายตาของพวกเขาต่างจับจ้องไปที่จักรพรรดิซ่งขณะที่ตั้งใจฟังด้วยความเคารพ

“ขณะนี้การจับสลากได้สิ้นสุดลงแล้ว ไม่จำเป็นต้องล่าช้าอีกต่อไป การแข่งขันเริ่มขึ้นได้แล้ว!” น้ำเสียงที่ทรงพลังของจักรพรรดิซ่งดังก้องทั่วท้องฟ้าและผืนดิน จากนั้นพระองค์ก็โบกมือ ส่งลำแสงสีทองอันไร้ขอบเขตให้พุ่งออกมาปกคลุมร่างของเฉินซีและคนอื่น ๆ ในทันที ซึ่งได้ฟื้นฟูพละกำลังที่อ่อนล้า ปราณแท้ และปราณจ้าววิญญาณของพวกเขา

“การประลองคู่ที่หนึ่ง ชิงซิ่วอี้ ปะทะ เจิ้นหลิวชิง!”

“การประลองคู่ที่สอง จ้าวชิงเหอ ปะทะ หลิงอวี๋!”

“เฉินซีจะเข้าสู่รอบสามอันดับแรกโดยตรง หลังจากการประลองในรอบนี้จบลง เขาจะเข้าสู่การแข่งขันเพื่อชิงอันดับที่หนึ่ง อันดับที่สองและอันดับที่สาม!”

มหาเสนาบดีเก็บกล่องหยกและประกาศรายชื่อผู้ประลองที่กำลังจะมีขึ้นด้วยน้ำเสียงชัดเจน “ตอนนี้ ชิงซิ่วอี้กับเจิ้นหลิวชิง เจ้าทั้งคู่มุ่งหน้าไปยังสังเวียนสังหารปีศาจ และเริ่มการประลองได้!”

“ทราบแล้ว” ชิงซิ่วอี้กับเจิ้นหลิวชิงมองกันและกันจากระยะไกล ก่อนที่จะทะยานไปยังสังเวียนสังหารปีศาจอย่างรวดเร็ว

“คนหนึ่งเป็นเซียนสวรรค์กลับชาติมาเกิด อีกคนเป็นศิษย์ของหอวารีหมอก ข้าสงสัยนักว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน และใครจะถูกหยุดก่อนที่จะได้เข้าสู่การประลองเพื่อชิงสามอันดับแรก”

“ข้าคิดว่าโอกาสชนะของชิงซิ่วอี้นั้นสูงกว่า เต๋ารู้แจ้งแห่งแสงสว่างของนางแข็งแกร่งยิ่ง และเมื่อรวมกับประสบการณ์ของเซียนสวรรค์กลับชาติมาเกิด ทำให้นางเหนือกว่าเจิ้นหลิวชิงอย่างเห็นได้ชัด”

“ใช่! ชิงซิ่วอี้แข็งแกร่งอย่างแน่นอน!”

ขณะที่พวกเขามองไปยังหญิงสาวทั้งสองคนที่เข้าสู่สังเวียนสังหารปีศาจ ทั้งผู้บ่มเพาะและผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีต่างก็กลั้นหายใจอย่างใจจดใจจ่อ ดวงตาของพวกเขาแทบไม่กะพริบแม้แต่น้อย เนื่องจากเกรงว่าจะพลาดรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไป

“ทุกคนดูเหมือนจะไม่ชอบแม่นางเจิ้น… แต่นางมักจะทำตัวลึกลับและไม่ให้เป็นที่สนใจของผู้อื่น จึงเป็นเรื่องปกติที่จะไม่มีใครชมชอบนาง” แต่สิ่งที่เฉินซีครุ่นคิดอยู่ในใจไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ เขารู้สึกว่าเจิ้นหลิวชิงไม่ได้ด้อยไปกว่าชิงซิ่วอี้เลยแม้แต่น้อย และนี่เป็นสัญชาตญาณประเภทหนึ่ง

ภายในสังเวียนสังหารปีศาจ

ชิงซิ่วอี้กับเจิ้นหลิวชิงยืนเผชิญหน้ากันจากระยะไกล

“เจ้าเป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควรแก่การให้ข้าต้องเอาจริง ดังนั้นข้าจะทุ่มพลังทั้งหมดในการต่อสู้” ชิงซิ่วอี้ยืนอย่างภาคภูมิขณะที่กล่าวอย่างเฉยเมย และใบหน้างดงามที่ไม่มีใครเทียบได้ของนางก็ปรากฏอยู่เบื้องหลังหมอกซึ่งปกคลุมรอบตัว ทำให้มองเห็นได้อย่างเลือนราง

นับตั้งแต่เข้าร่วมการชุมนุมดาวรุ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้กล่าวก่อนเริ่มการต่อสู้ เห็นได้ชัดว่านางจริงจังกับเจิ้นหลิวชิงมากแค่ไหน

“ข้าก็เช่นกัน” เจิ้นหลิวชิงยิ้มขณะที่กล่าวอย่างรวบรัด

บุคลิกที่ไม่ธรรมดาเหมือนเซียนสวรรค์ของชิงซิ่วอี้นั้น แตกต่างกับเจิ้นหลิวชิงที่ดูจะเรียบง่ายและบริสุทธิ์ นางมีความงามตามธรรมชาติที่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกอบอุ่นและเงียบสงบ อีกทั้งบุคลิกของนางก็ไม่ได้ด้อยกว่าชิงซิ่วอี้เลยแม้แต่น้อย และแต่ละคนก็มีข้อได้เปรียบที่แตกต่างกัน

ปัง!

ชิงซิ่วอี้ไม่ได้กล่าวอะไรอีก มือขาวยื่นออกไป ทำให้เกิดแสงสว่างอันไร้ขอบเขตปกคลุมสังเวียนสังหารปีศาจทันที แสงนั้นกว้างใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งยังมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง เสื้อผ้าของนางพลิ้วไปมาขณะที่ตัวคนเคลื่อนไหวภายในแสง ร่างของนางก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่อาจล่วงเกินได้

“ดาบแห่งแสงสว่าง จงกลายเป็นกรงกักขังศัตรูข้า!” ชิงซิ่วอี้ทะยานไปบนท้องฟ้า ขณะที่พลังงานแสงสว่างรวมตัวกันกลายเป็นดาบแสงนับไม่ถ้วน เรียงตัวกันอยู่ท่ามกลางอากาศ จากนั้นมันก็พุ่งใส่เจิ้นหลิวชิง

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]