บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 461

บทที่ 461 รูปลักษณ์ที่แท้จริง

บทที่ 461 รูปลักษณ์ที่แท้จริง

“ฮึ่ม เจ้าคิดจะหนีไปไหน!?”

ผู้เยี่ยมยุทธ์กลุ่มนี้จะปล่อยให้เฉินซีหนีไปอย่างง่ายดายได้อย่างไร? พวกเขากระจายตัวอย่างแม่นยำเพื่อปิดกั้นเส้นทางหลบหนีทั้งหมดของเฉินซี ในขณะนี้ เมื่อพวกเขาเห็นชายหนุ่มหนีไปทางแม่น้ำกระดูก พวกเขาก็ไล่ตามไปทันที

กระดูกกำลังไหลไปตามสายน้ำ สายลมมืดครึ้มกำลังคร่ำครวญ น้ำในแม่น้ำดูจะไร้ขอบเขต อีกทั้งยังเต็มไปด้วยโครงกระดูกจำนวนมาก แต่ความเร็วของเฉินซีนั้นรวดเร็วมหาศาลในขณะที่เคลื่อนผ่านด้วยปีกนภาดารกะ

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้เยี่ยมยุทธ์ที่อยู่ข้างหลังกลับแสดงท่าทางเยาะเย้ย แม้ความเร็วของพวกเขาจะด้อยกว่าเฉินซี แต่พื้นที่โดยรอบก็ถูกพวกเขาปิดกั้นไว้ ทำให้เฉินซีไม่มีทางหลบหนีและจะถูกไล่ตามทันในไม่ช้าก็เร็ว

“ข้าได้ยินมาว่าคนผู้นี้ครอบครองสมบัติกึ่งอมตะ เราต้องระวังการลอบจู่โจมจากเขา”

“สมบัติกึ่งอมตะ? นั่นเป็นสมบัติล้ำค่า! เหตุใดสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ถึงตกไปอยู่ในมือของไอ้สารเลวนี่ได้? เราจะยึดมันหลังจากที่ฆ่าเจ้านี่แล้ว!”

“มือของคนผู้นี้อาบไปด้วยเลือด หลังจากที่เราจับมันได้แล้ว เราต้องทรมานมันโดยการแยกชิ้นส่วนจนกว่ามันจะตาย จากนั้นจึงเผากระดูกและโปรยเถ้าของมันทิ้งซะ”

ผู้เยี่ยมยุทธ์กลุ่มนี้เย้ยหยันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในสายตาของพวกเขา เฉินซีเป็นเพียงสัตว์ร้ายที่ติดกับดักและอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ซึ่งนอกจากความตายแล้วก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีก ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงวางแผนกันแล้วว่าจะแบ่งสมบัติของเฉินซีอย่างไรหลังจากฆ่าอีกฝ่ายแล้ว

ทันใดนั้น เฉินซีก็หันกลับมาขณะที่แย้มยิ้มเย็นชา ชายหนุ่มชูยันต์ศัสตราขึ้นบนท้องฟ้า ก่อนที่จะฟันลงไปยังกองกระดูกที่อยู่ข้างหลังอย่างรุนแรง

ตู้ม!

กระดูกจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ตรงใจกลางแม่น้ำระเบิดอย่างรุนแรง จากนั้นก็พ่นเปลวเพลิงสีขาวขุ่นที่ลุกโชนราวกับหินหลอมเหลวและมีอุณหภูมิสูงจนน่าตกตะลึง ซึ่งเปลวเพลิงได้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับคลื่นที่ซัดสาด

“ดูเหมือนว่าไอ้สารเลวตัวนี้จะหมดเล่ห์เหลี่ยมแล้ว และคิดว่าเปลวไฟกระจอกเช่นนี้จะสามารถทำร้ายพวกเราได้ ช่างน่าหัวเราะเสียจริง” ผู้เยี่ยมยุทธ์อัจฉริยะคนหนึ่งกล่าวเย้ยหยันและถือสมบัติวิเศษไว้ในมือขณะที่เคลื่อนตัวเข้าสกัดคลื่นเพลิงสีขาวขุ่นที่พุ่งเข้าหา

อย่างไรก็ตาม รอยยิ้มของเขาก็แข็งทื่ออย่างฉับพลัน และทุกคนก็รู้สึกถึงคลื่นแห่งความหวาดกลัวราวกับว่าตกลงไปในบ่อน้ำแข็งในขณะนี้

โอม!

กลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและเขย่าฟ้าดินอย่างรุนแรง ทำให้พวกเขาทุกคนรู้สึกสยดสยอง!

เครื่องประดับหยกที่มีสีขาวบริสุทธิ์และใสจนโปร่งแสง ลอยอยู่ในหินหลอมเหลวที่ถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงสีขาวคล้ายน้ำนมขณะที่เผยตัวออกมา มันก็สั่นสะเทือนราวกับว่าโกรธเคืองยิ่ง และระเบิดออกไปพร้อมกับแสงสีขาวที่พลุ่งพล่าน

“อ๊าก! ม่ายยย!!” ผู้เยี่ยมยุทธ์กลุ่มหนึ่งส่งเสียงร้องโหยหวน เนื่องจากรู้สึกลึก ๆ ว่า ชีวิตของพวกเขาถูกคุกคามอย่างรุนแรง และสถานการณ์ของพวกเขาก็อันตรายเป็นอย่างยิ่งราวกับว่าได้ประสบภัยพิบัติ เครื่องประดับหยกชิ้นนี้น่าสะพรึงกลัวเกินไป และมันทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนหัวใจสั่นสะท้าน จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพวกเขาก็เกือบจะพังทลายลง

แกร็ก! แกร็ก! แกร็ก!

เสียงแตกหักดังก้องออกมาขณะที่สมบัติวิเศษของผู้เยี่ยมยุทธ์อัจฉริยะทั้งหกคนแตกเป็นเสี่ยง ๆ ณ จุดนั้น พร้อมกับผู้คนที่อยู่เคียงข้าง พวกเขาส่งเสียงร้องโหยหวนอันน่าสังเวชขณะที่ตกลงไปในแสงสีขาวที่ลุกโชน

“หนีเร็วเข้า! มันคือเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์กระดูกขาวที่แม้แต่ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีก็ไม่สามารถปราบลงได้ อีกทั้งสมบัติชิ้นนั้นก็น่ากลัวยิ่งกว่าเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์กระดูกขาว รีบหนีเร็ว!” เกิ่งหลัวแห่งราชวงศ์ต้าเฉียนส่งเสียงตะโกนอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็หันหลังกลับเพื่อพาคนที่อยู่ข้าง ๆ หลบหนี

แต่น่าเสียดายที่เขาอยู่ใกล้เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์กระดูกขาวเกินไป ยิ่งไปกว่านั้น เครื่องประดับหยกกำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการถูกรบกวนจึงทำให้มันโกรธจนแทบคลั่ง

แกร็ก!

สมบัติวิเศษอีกชิ้นถูกแยกออก ผู้เยี่ยมยุทธ์อัจฉริยะสองคนของราชวงศ์ต้าเฉียนพลันถูกแสงสีขาวเผาจนสิ้นซากและพวกเขาก็หายไปในพริบตา ในทางกลับกัน เกิ่งหลัวได้พยายามทุกวิถีทาง แม้ว่าจะหลบหนีออกมาได้ด้วยความโชคดี แต่เขาก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้ร่างกายไหม้เกรียมเป็นตอตะโกและเกือบจะถูกเผาไหม้จนเหลือแต่ความว่างเปล่า

ในเวลาเพียงชั่วพริบตา ผู้คนกว่าสิบคนก็ถูกเครื่องประดับหยกชิ้นนั้นสังหาร และเหลือผู้บาดเจ็บสาหัสอีกเพียงไม่กี่คนที่ยังคงอยู่กับเกิ่งหลัว แต่นับว่าโชคดีที่มันไม่ได้ไล่ตามพวกเขาเมื่อคนทั้งหมดหนีออกจากใจกลางแม่น้ำ

แต่น่าเสียดายที่เฉินซีกำลังรออยู่ที่ข้างหน้า เขาใช้ก่ออัสนีผสานดารา ทำให้เกิดพายุสายฟ้าที่ปกคลุมฟ้าดินและเคลื่อนตัวเพื่อกลืนกินพวกมัน ซึ่งได้บดสับเกิ่งหลัวและคนอื่น ๆ จนตายไปทีละคน

“เจ้ามันโหดเหี้ยมยิ่งนัก! องค์รัชทายาทจะต้องล้างแค้นให้แก่พวกเรา…” คำกล่าวเหล่านี้เป็นเสียงร้องโหยหวนคร่ำครวญครั้งสุดท้ายที่เกิ่งหลัวเปล่งออกมาก่อนที่เขาจะเสียชีวิต

จนถึงจุดนี้ ผู้เยี่ยมยุทธ์อัจฉริยะทั้งสิบห้าคนที่มาจากราชวงศ์ต่าง ๆ ได้ถูกกวาดล้างในเวลาเพียงชั่วครู่ และนี่คือธรรมชาติที่เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องประดับหยก ในขณะที่เฉินซีใช้พลังของมันเพื่อฆ่าพวกเขาทั้งหมดเท่านั้น

แต่ถึงอย่างนั้น เฉินซีก็ยังต้องตกตะลึงอยู่ในใจ เนื่องจากเครื่องประดับหยกชิ้นนี้น่าสะพรึงกลัวเกินไป และมันก็ฆ่าพวกเขาโดยไม่ต้องใช้ความพยายามเหมือนกับการเชือดไก่

ในขณะเดียวกัน เครื่องประดับหยกและเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์กระดูกขาวได้จมลงไปในแม่น้ำกระดูกอีกครั้งแล้วและหายลับไปจากสายตา

อย่างไรก็ตาม เฉินซีไม่ได้คิดที่จะจากไป เขาอยู่ที่นี่อีกครึ่งเดือนเต็ม หลังจากไม่พบพลังศักดิ์สิทธิ์จาง ๆ ที่เปล่งออกมาจากเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์กระดูกขาวอีก เขาจึงเริ่มทดสอบมัน

ชายหนุ่มยืนอย่างระมัดระวังที่ริมฝั่งแม่น้ำและรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยอยู่พอสมควร ปราณจ้าววิญญาณในร่างกายของเขาพลุ่งพล่าน ในขณะที่ปีกนภาดารกะก็อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ซึ่งเขาตั้งใจที่จะหันหลังกลับและหลบหนีเมื่อมีสัญญาณอันตรายแม้เพียงเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม เครื่องประดับหยกชิ้นนั้นก็น่าสะพรึงกลัวเกินไปจริง ๆ และไม่ใช่สิ่งที่ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาจะสามารถต้านทานได้ ดังนั้นชายหนุ่มจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากและเตรียมการอย่างเพียงพอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]