บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 485

บทที่ 485 สังหารกลับ

บทที่ 485 สังหารกลับ

เสียงของเฉินซีนั้นแผ่วเบาและดูสบายอารมณ์ยิ่ง แต่เมื่อมันเข้าหูของทุกคนที่อยู่ตรงนั้น กลับดูจะสั่นสะท้านและบางคนถึงกับไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง

“หึ คนผู้นี้คิดเข่นฆ่าพวกเราทั้งหมดเพียงลำพังหรือ? นี่ข้าได้ยินผิดไปหรือมันเสียสติไปแล้ว”

“ฮ่า ๆ! คนผู้นี้ช่างหยิ่งผยองยิ่งนัก นี่มันคิดว่าตัวเองจะอยู่ยงคงกระพัน เพียงเพราะมันสามารถพิชิตทัณฑ์สวรรค์วิหคอมตะแห่งการจุติได้ ไม่ไร้เดียงสาไปหน่อยหรือ ถึงได้กล้ากล่าวเช่นนี้ออกมา?”

“ข้าคิดว่าสมองของมันคงฟั่นเฟือน เพราะถูกสายฟ้าแห่งทัณฑ์สวรรค์ฟาดใส่อย่างไม่รู้จบ!”

ก่อนหน้านี้ ผู้เยี่ยมยุทธ์ทุกคนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเฉินซีรอดชีวิตจากทัณฑ์สวรรค์ แต่หลังจากได้ยินคำกล่าวเหล่านี้ พวกเขาก็ตกตะลึง จากนั้นสีหน้าของพวกเขาก็กลายเป็นดูถูก เย้ยหยัน โกรธเกรี้ยว และอื่น ๆ อีกมากมาย

พวกเขาเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์อัจฉริยะจากราชวงศ์ต่าง ๆ คนกลุ่มนี้จึงทรงพลัง หยิ่งยโส และมีความภาคภูมิใจ เนื่องจากพวกเขาสามารถเข้าสู่สมรภูมิบรรพกาลเพื่อเข้าร่วมการทดสอบได้ พวกเขาจึงไม่ใช่ผู้ไร้ชื่อเสียงและไม่ใช่คนที่ผู้บ่มเพาะธรรมดาจะสามารถเปรียบเทียบได้

แม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินมาก่อนว่าเฉินซีเคยสังหารผู้เยี่ยมยุทธ์ไปเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังทำลายประกาศิตเซียนสวรรค์ได้ ทว่าเขาก็มีตัวคนเดียวเท่านั้น ไม่ว่าคนคนนี้จะแข็งแกร่งสักแค่ไหน แต่เขาจะทำสิ่งใดได้อีก?

“น่าสงสารจริง! ไม่ว่าความสามารถจะโดดเด่นเพียงใด เศษสวะจากราชวงศ์ระดับกลางก็ยังเป็นกบในบ่อน้ำที่ไม่รู้จักความยิ่งใหญ่ของจักรวาลอยู่เสมอไป มันช่างน่าขันยิ่งนัก!” ทันใดนั้น ผู้เยี่ยมยุทธ์อัจฉริยะจากราชวงศ์ต้าเสวียนได้ก้าวไปข้างหน้าและจ้องมองไปยังเฉินซีอย่างเย็นชา “เอาล่ะ ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกสักครั้ง จงทิ้งสมบัติทั้งสามชิ้นไว้ซะ แล้วข้าจะไม่ทำให้เจ้าต้องทุกข์ทรมานและได้ตายอย่างรวดเร็ว ข้อเสนอเช่นนี้เป็นอย่างไร? มันมีความปรานีเพียงพอแล้วหรือไม่?”

เมื่อผู้เยี่ยมยุทธ์ที่มาจากราชวงศ์ระดับกลางได้ยินคำพูดของผู้เยี่ยมยุทธ์จากราชวงศ์ต้าเสวียนที่กล่าววาจาดูถูกพวกเขา สีหน้าของคนเหล่านั้นพลันเคร่งขรึมทันที และกำลังจะกล่าวอะไรบางอย่างออกไป แต่เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของคนผู้นี้อย่างชัดเจน พวกเขาก็ต้องหุบปากสนิท ใบหน้าของพวกเขาพลันถูกปกคลุมด้วยความหวาดกลัวและดูจะจดจำตัวตนของคนผู้นี้ได้

“ศิษย์พี่เซี่ยงเหิง เหตุใดถึงต้องกล่าววาจาไร้สาระกับเขาตั้งมากมายขนาดนี้ ฆ่าเขาซะ!” มีคนร้องออกมาจากกลุ่มผู้เยี่ยมยุทธ์ของราชวงศ์ต้าเสวียน

“เซี่ยงเหิง? เป็นเขานี่เอง! ผู้เป็นปีศาจในร่างมนุษย์จากราชวงศ์ต้าเสวียน เขาเป็นคนนอกกฎหมายที่มีนิสัยโหดร้ายและเข่นฆ่าผู้คนเป็นผักปลา ทำให้มือของคนคนนี้แปดเปื้อนด้วยเลือดของผู้คนนับไม่ถ้วน ยิ่งไปกว่านั้น ความแข็งแกร่งของเขายังทรงพลังถึงขีดสุด!” ในขณะเดียวกัน ผู้บ่มเพาะบางคนที่ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้ พอได้ยินคำอธิบายก็เกิดความเข้าใจในทันที และจดจำได้ทันทีว่าคนผู้นี้คือใคร

เฉินซีก็ได้ยินการสนทนาของทุกคนเช่นกัน แต่เขาเพียงเหลือบมองไปยังคนที่ชื่อเซี่ยงเหิง จากนั้นจึงส่ายหน้าไปมา และกล่าวคำสี่คำออกมาอย่างแผ่วเบา “ตัวตลกโง่งม!”

“เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!” เซี่ยงเหิงตกตะลึงและดูจะไม่เคยคิดมาก่อนว่าเฉินซีจะกล้ากล่าวกับตนเช่นนี้ กลิ่นอายอันทรงพลังในร่างกายของเขาพวยพุ่งขึ้นมาทันที จากนั้นเจ้าตัวจึงฟาดฝ่ามือใส่เฉินซีโดยตรง ฝ่ามือนี้เปี่ยมไปด้วยปราณแท้และเต๋ารู้แจ้ง ซึ่งเพียงพอที่จะบดขยี้เนินเขาให้เป็นจุณ

ทุกคนถอยกลับด้วยความเร็วสูงสุดและไม่กล้ายืนอยู่ที่นี่อีกต่อไป เพราะเมื่อเซี่ยงเหิงคนนี้คลุ้มคลั่ง อีกฝ่ายจะไม่แยะแยะว่าใครเป็นศัตรูหรือสหาย หากได้รับผลกระทบจากการกระทำนี้ ก็คงได้แต่ยอมรับความโชคร้ายของตนเอง

ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ ทำให้ทุกคนต้องตกใจเป็นอย่างมาก

เฉินซียืนเด่นเป็นสง่าอยู่กลางอากาศโดยไม่หลบหรือหลีกเลี่ยง เขาไม่ได้ขยับแม้แต่น้อยก่อนที่จะฟาดฝ่ามือออกไปเบา ๆ เพื่อปะทะกับฝ่ามือของเซี่ยงเหิง ในระหว่างนี้ ดวงแสงสีแดงเข้มที่ไม่มีใครเทียบได้และมีขนาดใหญ่ราวกับพระอาทิตย์ได้พุ่งออกมาจากฝ่ามือเฉินซี และบดขยี้เข้าใส่เซี่ยงเหิงโดยตรง!

ตู้ม!

พร้อมกับเสียงดังโครมคราม เสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากปากของเซี่ยงเหิง ก่อนที่ร่างกายของเขาจะระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างรวดเร็ว ทำให้เลือดเนื้อสาดกระเซ็นไปทั่วทุกทิศทุกทาง ปรากฏเป็นภาพที่งดงาม แต่ก็น่าสะพรึงกลัวและน่าสลดใจ

“มันเป็นไปได้อย่างไร? เขาเพิ่งพิชิตทัณฑ์สวรรค์และอยู่ในสภาพอ่อนแอไม่ใช่หรือ? เขาจะมีพลังต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ได้อย่างไร?” ทุกคนล้วนตกตะลึงเมื่อฝ่ามือที่ดูเหมือนจะถูกฟาดออกไปเบา ๆ กลับทำลายผู้เยี่ยมยุทธ์อัจฉริยะของราชวงศ์ระดับสูงได้ ช่างร้ายกาจและน่าสะพรึงกลัวเสียจริง!

“ข้าจะเป็นกบในบ่อน้ำหรือไม่นั้นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าตัดสินใจได้ แต่ข้าแน่ใจว่าเจ้าตาบอดและดูถูกทุกคนอย่างแน่นอน” เฉินซีกล่าวอย่างเฉยเมยก่อนจะหันไปกวาดสายตามองคนอื่น ๆ

“เจ้า…” ทุกคนต่างตกใจและหวาดกลัวมาก เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้? โดยปกติแล้ว ใครก็ตามที่เพิ่งพิชิตทัณฑ์สวรรค์แห่งการจุติจะอ่อนแอเหมือนคนธรรมดาทั่วไปและสามารถถูกบดขยี้ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งนี่เป็นความรู้ทั่วไปที่ทราบกันดี แต่ดูเหมือนมันจะพลิกกลับเป็นตาลปัตร เฉินซีไม่เพียงแค่ไม่อ่อนแอเท่านั้น ความแข็งแกร่งของเขายังทรงพลังยิ่งขึ้น!

ตู้ม!

สมบัติเรืองแสงที่ไร้ขอบเขตพวยพุ่งขึ้นและโหมกระหน่ำลงไปที่เฉินซี

ในขณะนี้ ทุกคนไม่ลังเลที่จะเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย พวกเขาได้เปลี่ยนรูปแบบจากการโจมตีเป็นการป้องกัน ก่อนจะถอยกลับอย่างรวดเร็ว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องยอมรับว่าเฉินซีบรรลุสู่ขอบเขตจุติได้สำเร็จแล้ว และอีกนัยหนึ่งคือพวกเขาไม่มีโอกาสที่จะฆ่าชายหนุ่มได้อีกต่อไป

เพราะแม้ว่าขอบเขตแกนทองคำหยินหยางขั้นสมบูรณ์จะอยู่ห่างจากขอบเขตจุติเพียงขอบเขตเดียว แต่มันก็เหมือนกับความแตกต่างระหว่างสวรรค์และโลก ซึ่งแทบจะเทียบกันไม่ได้เลย

ไม่ต้องกล่าวถึงว่าเฉินซีนั้นไม่ใช่ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตจุติทั่วไป เขาได้พิชิตทัณฑ์สวรรค์ทั้งการขัดเกลากายาและการบ่มเพาะปราณแท้ แต่เขายังสามารถฆ่าผู้เยี่ยมยุทธ์จำนวนมากก่อนที่จะพิชิตทัณฑ์สวรรค์ได้ แล้วนับประสาอะไรกับตอนนี้อีก?

ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจสิ่งที่เฉินซีกล่าวก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ว่าชายหนุ่มโอ้อวดอย่างไร้ยางอาย แต่คนคนนี้มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะสนับสนุนคำกล่าวเหล่านั้น!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]