บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 487

บทที่ 487 พัดเทพอัคคี

บทที่ 487 พัดเทพอัคคี

เฉินซีเหลือบมองเพียงแวบเดียว ก็รู้ว่าร่างที่พุ่งเข้ามาจากระยะไกลนั้นคือหวงฝู่ฉิงอิงกับนายน้อยโจว!!

หวงฝู่ฉิงอิงมีรูปลักษณ์ที่งดงามพร้อมกับเกศาซึ่งพลิ้วไหวไปตามสายลม และใบหน้าอันสวยงามนั้นฉายแววเข้มแข็ง กลิ่นอายก็ทรงพลังยิ่งกว่าเมื่อก่อนมาก และเห็นได้ชัดว่านางได้รับประโยชน์มากมายจากดินแดนเร้นลับ

ท่าทางของนายน้อยโจวเองก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน ทั้งมั่นคงขึ้นและสงบนิ่งดั่งขุนเขา ทุกย่างก้าวดูสูงส่ง ความเย่อหยิ่งและเอาแต่ใจก่อนหน้านี้ได้สลายหายไปแล้ว จึงไม่อาจประเมินเขาต่ำไปเหมือนเมื่อก่อนได้อีก

ยิ่งไปกว่านั้น เฉินซีสัมผัสได้ว่าพลังชีวิตในร่างกายของพวกเขาสมบูรณ์แล้ว และสามารถบรรลุสู่ขอบเขตจุติได้ทุกเมื่อ ส่วนสิ่งที่พวกเขายังขาดอยู่คือทัณฑ์สวรรค์ แต่ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาในตอนนี้ ก็จะสามารถพิชิตมันได้อย่างง่ายดาย

สิ่งเหล่านี้บ่งชี้ว่า ทั้งสองได้รับโชคลาภก้อนใหญ่ที่อยู่ภายในดินแดนเร้นลับ และทำให้เฉินซีมีความสุขจากใจจริง ที่สหายของเขาปลอดภัยดี อีกทั้งยังแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เรื่องน่ายินดีเช่นนี้จะไม่ให้เขามีความสุขได้อย่างไร

“พวกเจ้ารอข้าสักครู่ ข้าจะกลับมาหลังจากจัดการกับพวกมันแล้ว” ด้วยการกวาดตามอง เฉินซีสังเกตเห็นว่า ฉินเซียวและเผยอวี่ได้ฉวยโอกาสหลบหนีไปไกลตอนที่เขาไม่ได้สนใจ เฉินซีจึงบอกกับพวกหวงฝู่ฉิงอิงก่อน จากนั้นจึงหันหลังกลับและไล่ล่าพวกมันอีกครั้ง

การรวมตัวกับสหายอีกครั้งเป็นสิ่งที่สร้างความสุขได้อย่างแท้จริง แต่สิ่งที่ควรทำตอนนี้คือการสะสางปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งการปล่อยพยัคฆ์คืนป่าไม่ใช่อุปนิสัยของเฉินซี

ในพริบตา ชายหนุ่มก็ได้หายลับไปจากสายตา

หวงฝู่ฉิงอิงตกตะลึง นางกัดริมฝีปากสีแดงสดที่ชุ่มชื้นของตนเองเบา ๆ จากนั้นจึงกล่าวด้วยความไม่พอใจ “ชายคนนี้ช่างงี่เง่ายิ่งนัก เรามาที่นี่เพื่อช่วยเหลือเขา ไม่ได้ต้องการเป็นภาระ!”

“ใช่แล้ว เมื่อเขากลับมาแล้ว เราต้องมอบบทเรียนที่สาสมให้แก่เขา” นายน้อยโจวกล่าวแทรกขึ้นมา

เมื่อทั้งสองคนเพิ่งออกจากดินแดนเร้นลับ พวกเขาได้ยินว่าผู้เยี่ยมยุทธ์อัจฉริยะของราชวงศ์ต่าง ๆ กำลังไล่ล่าเฉินซีไปทั่วเกาะสมบัติที่ร่วงหล่น ทำให้ทั้งคู่รู้สึกกังวลทันทีและไล่ตามชายหนุ่มมาโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

ทว่าเมื่อรีบไปที่หนองน้ำ พวกเขาบังเอิญเห็นเฉินซีกวาดล้างเหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์และจากไป พวกเขาจึงไล่ตามชายหนุ่มไปตลอดทาง แต่กลับยิ่งห่างออกไปอีก ซึ่งทุกครั้งจะเห็นเพียงร่องรอยที่เขาเข่นฆ่าศัตรู ทำให้ซากศพเกลื่อนกลาดไปทั่วจนกลิ่นเลือดโชยมาแตะจมูก

และในที่สุดพวกเขาก็ตามรอยเท้าของเฉินซีทัน

แต่พวกเขายังไม่ทันได้อ้าปาก เฉินซีกลับไล่ล่าฉินเซียว เผยอวี่และปี้หลิงอวิ้นอีกครั้ง ทำให้ทั้งคู่รู้สึกหดหู่ใจอย่างมาก

ทั้งคู่คิดว่าหลังจากได้รับมรดกในดินแดนเร้นลับแล้ว พวกเขาจะสามารถช่วยเหลือชายหนุ่มด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันได้อย่างเต็มที่ ทว่าไม่เคยคิดเลย… ว่าพวกเขายังไม่สามารถช่วยเหลือได้และเป็นเพียงภาระในสายตาของเฉินซี

“ไปกันเถอะ! เราจะทำให้เฉินซีได้รู้ว่าพวกเรานั้นแข็งแกร่งเพียงใด!” ใบหน้าของหวงฝู่ฉิงอิงบึ้งตึงและกล่าวด้วยท่าทางไม่พอใจ นางดูเหมือนกับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ต้องการพิสูจน์ตนเองกับบิดามารดาเพื่อให้ได้คำชม

“ตกลง เราจะตามเขาให้ทันและให้เขารู้ว่าเรานั้นแข็งแกร่งถึงเพียงไหน!” นายน้อยโจวถูฝ่ามือเข้าด้วยกันและกล่าวด้วยความตื่นเต้น

ทั้งคู่หยุดหยอกล้อทันทีและติดตามเขาไป

“ตามไปดูพวกเขากันเถอะ! ข้าไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า หวงฝู่ฉิงอิงและนายน้อยโจวจะออกมาจากดินแดนเร้นลับ ข้าสงสัยนักว่าผลประโยชน์ที่พวกเขาได้รับจะยอดเยี่ยมเพียงใด…” ผู้คนที่เฝ้าดูอยู่ไกลออกไปได้ตกอยู่ในความโกลาหล และพวกเขาก็พุ่งออกไปเพื่อไล่ตามเฉินซี พวกเขาไม่ได้มีข้อบาดหมางกับเฉินซี ดังนั้นพวกเขาจึงกล้าเข้าไปดูการต่อสู้

อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกคนเร่งรุดมาถึงและเห็นเฉินซีอีกครั้ง พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง

ดูเหมือนเฉินซีจะเพิ่งสังหารเผยอวี่กับฉินเซียวไปไม่นาน ซึ่งตอนนี้เขากำลังค้นหาสิ่งของ ทำให้เขาได้สมบัติกึ่งอมตะของฉินเซียวที่มีนามว่าผนึกขุนเขาและเกราะมังกรทอง ส่วนสมบัติของเผยอวี่ที่เป็นกระบี่โศกนภาก็ตกอยู่ในมือของเขาเช่นกัน

ภูเขาที่อยู่ใกล้เคียงล้วนถูกทำลายโดยสิ้นเชิง พื้นดินไหม้เกรียมและเต็มไปด้วยรอยแยก สภาพแวดล้อมโดยรอบราวกับเพิ่งประสบกับการต่อสู้ครั้งใหญ่ กระแสอากาศปั่นป่วนยังไม่สงบลงและส่งเสียงหวีดหวิวเสียดหู แต่กลับไม่พบร่างของเผยอวี่และฉินเซียว

มีเพียงเฉินซีเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในสนามรบ… ไม่สิ ยังคงมีสัตว์อสูรสีเขียวอยู่

สัตว์อสูรตัวนั้นอาบไปด้วยเลือด ปีกสีเขียวหยกของมันได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก มันในตอนนี้กำลังนอนหายใจโรยรินและมีเลือดหยดออกมาจากริมฝีปาก เห็นได้ชัดว่ามันได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้

นี่มันสวรรค์ชัด ๆ!

ผู้เยี่ยมยุทธ์ทุกคนต่างตกตะลึง องค์รัชทายาทจากราชวงศ์ระดับสูงทั้งสองพระองค์กลับถูกทำลายล้าง สมบัติวิเศษของพวกเขาก็ถูกยึดไป แม้แต่สัตว์อสูรที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างกระเรียนโลกันตร์ ก็ยังบาดเจ็บสาหัสจนต้องนอนหายใจโรยริน อีกทั้งยังสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปโดยสิ้นเชิง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]