บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 567

บทที่ 567 ทำพวกระดับสูงตกใจ

บทที่ 567 ทำพวกระดับสูงตกใจ

ตู้ม!

เต๋ารู้แจ้งส่งเสียงครืน สาดแสงสว่างจ้าออกมา เหมือนกับคลื่นลมพายุซัดลงมาจากสวรรค์ ดั่งภาพภัยพิบัติกำลังกำเนิด

เฉินซีเริ่มมีสีหน้าหนักหน่วงเมื่อสังเกตเห็นว่าพลังที่ซัดเข้ามานี้รุนแรงแค่ไหน และที่น่าตกใจกว่าคือพลังผันผวนที่ปล่อยออกมาจากชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากกำลังถอยหนีภายใต้แรงกดดันนี้!

ตู้ม!

ชายหนุ่มสะดุ้ง ทั่วทั้งร่างสั่นสะท้านด้วยกำลังแรงจนต้องก้าวถอยหลัง เกือบจะถูกพัดออกจากแท่นดอกบัว

เฉินซีมุ่ยปาก สีหน้าไม่น่ามองเล็กน้อย ตอนนี้เขายืนอยู่ที่ขอบผาแล้ว หากยังไม่สามารถกำราบพลังนี้ได้ ก็จะทำไม่สำเร็จ และร่วงกลับไปชั้นที่เก้า!

ครืน!

แรงกดดันแห่งเต๋ารู้แจ้งบนยอดแท่นดอกบัวยิ่งทรงพลังขึ้น บีบร่างชายหนุ่มจนผมปลิวไปด้านหลัง เกิดรอยบุ๋มขึ้นบนผิวทั่วร่าง จิตวิญญาณสั่นสะท้านรุนแรง ทำให้พลังชีวิตทั่วร่างปั่นป่วน

ทว่าเขาก็ได้แต่กัดฟันทน และทีนี้ชายหนุ่มก็ได้สัมผัสด้วยตนเองแล้วว่าแรงกดดันบนแท่นดอกบัวเป็นจริงอย่างที่อันเวยว่าไว้ คือไม่อาจฝืนต้านได้เลย!

เมื่อมองจากระยะไกล เฉินซีในตอนนี้ก็เหมือนมดตัวหนึ่งที่พยายามจะปีนขึ้นภูผา มันตัวเล็กจิ๋ว และกำลังจะถูกลมพายุคลั่งพัดปลิวไปในไม่ช้า!

“สุดท้ายสหายผู้นี้ก็หยุดลงที่ตรงนี้ ไร้โชคที่จะขึ้นสู่แท่นดอกบัวได้…” เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ ทุกคนก็คิดว่าอีกไม่นานเฉินซีคงถูกดีดกลับไปที่ชั้นเก้าของแท่นดอกบัว แม้จะรู้สึกเสียดายอยู่ในใจ แต่กลับมีความรู้สึกโล่งใจขึ้นมาด้วย

ลองคิดดู แค่ศิษย์ใหม่ที่เพิ่งเข้านิกายมาได้ แต่สามารถขึ้นไปถึงแท่นดอกบัวชั้นเก้า นี่ก็นับว่าโชคดีมากแล้ว ทว่าคิดจะขึ้นไปถึงชั้นยอดที่ไม่เคยมีใครเอื้อมถึงมานานนับปีเลยอย่างนั้นหรือ?

“ดีแล้วที่ได้รับบทเรียน ต่อไปจะได้ไม่ทำตัวเย่อหยิ่งจองหอง” อันเวยถอนหายใจเล็กน้อย พลางพึมพำเบา ๆ ออกมา

ทว่าเฉินซีเหมือนไม่ได้รับรู้อะไร แล้วไม่คิดจะใส่ใจด้วยซ้ำ

ตอนนี้จิตใจเขาเหนื่อยล้า พยายามฝืนทนแรงกดดันที่พุ่งเข้ามาจากทั่วทิศทาง จิตวิญญาณ พลังงาน และแก่นพลังภายในร่างต่างเดือดพล่าน เผยความอดทนเหนือใครออกมา

แม้จะไม่สามารถขึ้นสู่จุดสูงสุดได้ แต่เขาก็อยากอดทนจนถึงที่สุด เพราะตั้งแต่ต้น แม้จิตวิญญาณจะถูกบีบคั้นอย่างหนัก แต่ก็ไม่ได้มีร่องรอยบาดเจ็บ ทำให้เขาอยากลองอีกสักตั้งโดยไร้ความลังเล

ตู้ม!

คลื่นแรงกดดันเต๋ารู้แจ้งอีกระลอกซัดเข้ามา ถึงขนาดที่มันกลายเป็นสัญลักษณ์โบราณและสัตว์ร้ายบรรพกาลมากมายที่มีท่าทางดุร้ายยิ่ง ทำให้เกิดปรากฏการณ์ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นภาพน่ากลัวที่สุด บรรยากาศโดยรอบบิดเบี้ยวจนแทบแตกกระจาย กลิ่นอายวิบัติกำจายเคล้าความโกลาหล

เห็นได้ชัดว่าแรงกดดันเต๋ารู้แจ้งบนแท่นดอกบัวหมายจะซัดอีกฝ่ายให้กระเด็นไป

ครืน!

แต่เป็นจังหวะนี้เองที่ชายหนุ่มพลันสัมผัสได้ถึงพลังผันผวนอันกว้างขวางจนทำให้ใจสั่นแผ่ขยายออกมาจากห้วงจิตสำนึก มันพุ่งเข้าใส่แรงกดดันจากเต๋ารู้แจ้งที่กำลังโจมตีเขาอยู่ทันที

พลังอันน่าประหลาดนี้ทั้งกว้างใหญ่และทรงอำนาจ เหมือนกับพลังแห่งชีวิตใหม่ที่ได้ถือกำเนิดขึ้นทันทีที่โลกทลาย ส่องประกาย ทรงพลัง มีอำนาจเหนือใคร

ฟึ่บ!

เฉินซีรู้สึกตกตะลึง ด้วยเมื่อพลังนั้นซัดออกจากร่าง สัญลักษณ์โบราณนับไม่ถ้วนและสัตว์ร้ายบรรพกาลที่เกิดจากแรงกดดันจากเต๋ารู้แจ้งก็ถูกทำลายสิ้น!

ภาพตรงหน้าเหมือนหิมะละลายกลายเป็นน้ำ ชั่วพริบตาเดียวแรงกดดันจากเต๋ารู้แจ้งบนแท่นดอกบัวก็ถูกขจัดไป

ครืน!

อีกทั้งสิ่งที่ทำให้เขาตื่นตะลึงที่สุดคือหลังจากพลังผันผวนกวาดล้างแรงกดดันจากเต๋ารู้แจ้งไปจนสิ้นแล้ว มันก็ไม่ได้เชื่องช้าลง กลับพุ่งเข้าสู่ลำแสงที่อยู่ใจกลางแท่นดอกบัว ทำให้แสงนั่นสะท้านน้อย ๆ

แต่ไม่กี่อึดใจ เฉินซีก็หายตื่นตะลึง แล้วพุ่งเข้าไปเหมือนศรหลุดจากคันธนูเข้าหาลำแสงนั่น เพราะหากเขาไม่ฉวยจังหวะนี้พุ่งเข้าไป กระทั่งสวรรค์ชั้นฟ้าคงไม่อาจทนได้แน่!

อีกทั้งเขายังสัมผัสถึงแก่นความเข้าใจคัมภีร์เก้าเรืองรองได้จาง ๆ ความลึกล้ำแห่งศาสตร์เต๋าที่เขาใฝ่หาถูกกักเก็บไว้ภายในลำแสงที่พุ่งขึ้นฟ้านั่น

ฟิ้ว!

เมื่อไร้แรงกดดันจากเต๋ารู้แจ้ง ร่างของเฉินซีจึงรวดเร็วดั่งสายฟ้า ภายในชั่วพริบตาเดียว เขาก็พุ่งเข้าใส่ลำแสงที่อยู่ตรงกลางและหายไปในทันที

“มัน…มันเป็นไปได้อย่างไรกัน!?”

“สหายผู้นี้ทำสำเร็จจริง ๆ ด้วย! สวรรค์โปรด! คงไม่ใช่เรื่องจริงกระมัง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]