บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 568

บทที่ 568 ปีศาจตำราไม้ไผ่

บทที่ 568 ปีศาจตำราไม้ไผ่

“ถูกต้อง การรีบเปิดเผยเรื่องนี้ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะผู้โดดเด่นมักจะถูกผู้อื่นอิจฉาริษยาได้ง่าย ตอนนี้สามภพกำลังจะเกิดกลียุค อีกทั้งยังมีพายุที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามา ต้นกล้าที่ดีเยี่ยงนี้ไม่อาจประสบอันตรายใด ๆ ได้” ประมุขนิกายครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเข้าใจเจตนาของชายชรา เขาออกคำสั่งทันที “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ห้ามทุกคนพูดถึงเรื่องนี้ และผู้ฝ่าฝืน…”

“จะถูกจับโยนลงไปในเกาะลอย!” สิ้นคำกล่าว ใบหน้าที่อบอุ่นราวกับหยกของเวินหัวถิงก็แฝงไปด้วยเจตจำนงสังหาร ทำให้บรรดาผู้อาวุโสตกใจ

พวกเขาทราบดีว่าเกาะลอยเป็นพื้นที่ต้องห้ามของนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง มีผู้ทรยศนิกายและคนบาปหนาถูกขังอยู่ในนั้น เมื่อถูกโยนเข้าไปแล้ว จะไม่มีวันได้หวนคืนกลับมา!

“ประมุขนิกาย พรสวรรค์ของเจ้าเด็กนี่ไม่ธรรมดา หากเขายังได้รับการปกป้องและไม่ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวเช่นนี้ ก็คงไม่ต่างอะไรจากไข่ในหิน และยังเป็นเรื่องง่ายที่เขาจะสิ้นชีพก่อนวัยอันควร” ผู้อาวุโสเยว่ฉือพลันเอ่ยขึ้น

เวินหัวถิงขมวดคิ้ว เขาทราบว่าเยว่ฉือกับวิปลาสหลิ่วนั้นไม่ถูกกัน ดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ก็อดไม่ได้ที่จะกังวลว่า อีกฝ่ายจะนำเฉินซีมาพัวพันกับความขัดแย้งนี้

เวินหัวถิงทราบดีว่าแม้ว่าเขาจะเป็นที่เคารพในฐานะประมุขนิกาย ทว่าเขาก็ไม่ได้ใช้ประกาศิตในการตัดสินใจทุกอย่าง

เพราะอย่างไรแล้ว นิกายกระบี่เก้าเรืองรองก็มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร และจำต้องมีผู้อาวุโสจำนวนมากช่วยดูแล ซึ่งก็มีผู้อาวุโสมากมายที่อาศัยอยู่อย่างสันโดษ จึงทำให้อำนาจของเขาถูกจำกัดอย่างมาก และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพิจารณาความคิดเห็นรวมทั้งเจตจำนงของผู้อาวุโสทุกคนอย่างรอบคอบ

กล่าวได้ว่านิกายกระบี่เก้าเรืองรองเป็นเหมือนราชวงศ์ของโลกมนุษย์ มีขุนนาง ญาติพี่น้องของจักรพรรดิ และเจ้าขุนมูลนายทั้งภายในและภายนอก เป็นระบบที่ซับซ้อนยิ่ง ดังนั้นแม้ว่าเขาจะเป็นที่เคารพในฐานะจักรพรรดิ ก็มีบางจุดที่เขาไม่สามารถจัดการได้

“ปล่อยให้เขาเดินไปตามทางของเขาเอง พวกเจ้าเพียงแค่คอยเฝ้าดูไว้ ไม่เข้าไปยุ่งกับเขาก็เพียงพอแล้ว” ชายชราบนเก้าอี้โยกลืมตาขึ้นพลางกวาดสายตามองทุกคน มีร่องรอยการตักเตือนอยู่ในแววตาคู่นั้น “ส่วนเรื่องระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง ก็ปล่อยให้พวกเขาจัดการกันเอง เพราะในแดนภวังค์ทมิฬแห่งนี้ ผู้เยี่ยมยุทธ์ทุกคนจะต้องพึ่งพาตัวเองได้ตลอดเวลา!”

สถานที่แห่งนี้เป็นโลกที่ปกคลุมไปด้วยหุบเขาที่สวยงามและแม่น้ำที่ใสสะอาด มีนกส่งเสียงจ้อกแจ้ก ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมและพืชพรรณสารพัดที่พบเห็นได้ทั่วโลกา ในขณะที่ปราณเซียนนั้นล่องลอยอยู่ทั่วอากาศราวกับวิมานเซียนบนอาณาจักรมนุษย์

เฉินซีเห็นภาพนี้ตรงหน้าเขาในจังหวะที่พุ่งเข้าสู่ลำแสงที่อยู่ใจกลางแท่นดอกบัว และอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเล็กน้อย

สถานที่แห่งนี้… ดูแล้วเหมือนกับโลกแห่งดาราในเคหาบ่มเพาะที่มีโลกของมันเอง!!

ทว่าเมื่อเทียบกับโลกแห่งดาราแล้ว พื้นที่แห่งนี้ไม่ใหญ่มาก เป็นเพียงช่องเขาที่มีแม่น้ำกั้นเป็นสองฝั่งเท่านั้น

เฉินซีไม่ได้ใช้เวลาครุ่นคิดนานก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้า

ตามการสรุปความของเขา เขาควรจะผ่านบททดสอบแท่นดอกบัว และในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว จึงไม่น่าจะพบกับอันตรายใด ๆ

ช่องเขาถูกปกคลุมด้วยหญ้าเขียวขจี มีลำธารเล็กใสเหมือนหยกไหลผ่านใจกลางช่องเขา มีศาลากล้วยไม้อยู่ที่ริมลำธาร และภายในศาลาก็มีโต๊ะหินที่เต็มไปด้วยกองหนังสือกระจัดกระจาย

หนังสือเหล่านี้ทำจากไม้ไผ่ที่ตัดและมัดรวมกัน เมื่อนำมากองรวมกัน มันก็ได้ส่งกลิ่นอายโบราณของตำราที่อยู่ในยุคบรรพกาลซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นักปราชญ์ใช้ใบมีดแทนพู่กัน

เมื่อมาถึงที่นี่ เพียงชั่วแวบแรก เขาก็ถูกตำราไม้ไผ่จำนวนมากที่วางบนโต๊ะหินดึงดูดความสนใจไป เพราะหากศาสตร์เต๋าสถิตอยู่ในช่องเขานี้ มันก็คงต้องถูกเก็บไว้ในตำราไม้ไผ่เหล่านี้เป็นแน่!

ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ยินว่าในยุคบรรพกาล มนุษย์ใช้หนังของสัตว์ร้าย ไม้ไผ่ หินและเตาหลอมเป็นวัตถุดิบในการจารึกอักษรและสืบทอดเต๋า ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับแผ่นหยกที่นิยมใช้กันอยู่ในขณะนี้

“นี่หรือสถานที่มรดกที่ลึกลับที่สุดในคัมภีร์เก้าเรืองรอง?” เฉินซีสูดลมหายใจเข้า ยับยั้งความตื่นเต้นในใจก่อนจะก้าวไปสู่ศาลากล้วยไม้ริมฝั่งลำธารที่อยู่ข้างหน้า

“อ้า ดูสิ! ผ่านมากี่ปีแล้ว? ในที่สุดวันนี้ก็มีคนเข้ามา”

“ศิษย์ของนิกายกระบี่เก้าเรืองรองแต่ละรุ่นนี่เริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ เลย พวกเขาทำให้พวกข้ารออยู่นานตั้งสองสามพันปีกว่าจะมีใครสักคนปรากฏตัว น่าผิดหวังเสียจริง”

“โอ้ อันที่จริงก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวที่มีคนเข้ามาที่นี่ได้”

เพียงแค่ชายหนุ่มเริ่มเคลื่อนไหว คลื่นเสียงกระซิบกระซาบก็แว่วออกมา ทำให้เขาตกใจจนแทบเหงื่อแตกพลั่ก ด้วยแม้จิตสัมผัสเทพของชายหนุ่มจะแผ่ออกไปในรัศมีหมื่นลี้ แต่ก็ไม่สังเกตเห็นสัญญาณของสิ่งมีชีวิตใด ๆ!

เกิดอันใดขึ้น?

“ฮ่า ๆ ขอข้าทดสอบพละกำลังของเจ้าก่อน เจ้าหนูน้อย!”

ฟิ้ว!

ทันใดนั้น เสียงหัวเราะก็ดังก้องออกมา จากนั้นปราณกระบี่ที่แหลมคมก็ส่งพลังอำนาจแห่งสวรรค์และปฐพีสาดเทลงมาจากท้องนภา ฟันฝ่าเวหาและพุ่งตรงมายังเฉินซี

ปราณกระบี่สายนี้รวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ กระแสปราณกระบี่ขนาดมหึมาปรากฏขึ้นบนท้องนภา เมื่อฟันออกไปมันก็ดูเหมือนแม่น้ำสีเงินที่พาดผ่านไปทั่วทั้งโลกา มีกลิ่นอายอันโอ่อ่าและช่างงดงามยิ่งนัก!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]