บทที่ 619 ผนึกกำลัง
บทที่ 619 ผนึกกำลัง
“หวังจ้งฮ่วนหรือ?”
ลั่วเชี่ยนหรงตกตะลึงเมื่อได้ยินชื่อนี้ จากนั้นนางก็กล่าวด้วยความไม่พอใจว่า “หวังจ้งฮ่วนที่ครอบครองสมบัติอมตะที่ตกทอดมาจากตระกูลของเขาน่ะหรือ? เขาเพิ่งเข้าสู่ยอดเขาจรัสเทวะและบรรลุขอบเขตสถิตกายาเมื่อสิบสามปีที่แล้ว แต่ตอนนี้กลับลำพองและคิดจะยึดครองที่พำนักทั้งสามแห่งบนเส้นชีพจรวิญญาณจรัสทมิฬด้วยคำกล่าวเพียงคำเดียว? ผู้ใดที่ทำให้เขากล้ากระทำเช่นนั้นได้?”
ในทางกลับกัน เมื่อเฉินซีได้ยินว่าที่พำนักว่างเปล่าทั้งสามแห่งถูกสงวนไว้สำหรับเหลิ่งชิว ผางโจว และตู้เซวียน เขาก็ตระหนักได้ทันทีว่า ศิษย์ชั้นยอดที่มีชื่อว่าหวังจ้งฮ่วนน่าจะเหมือนกับอวิ๋นเยี่ยผู้ครอบครองเนตรทองคำขาวของจักรพรรดิพิสุทธ์ และคนผู้นี้ก็คงมาจากยอดเขาจรัสตะวันออกเช่นเดียวกัน!
ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเมื่อนึกถึงสิ่งนี้
“ถ้าหวังจ้งฮ่วนคนนี้รู้ว่าเหลิ่งชิวและคนอื่น ๆ ต่างพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของข้าไปอย่างน่าสังเวช เขาคงมองข้าเป็นศัตรูเหมือนที่อวิ๋นเยี่ยทำใช่หรือไม่?”
“นี่เป็นปัญหาอย่างแท้จริง ไม่ว่าข้าจะไปที่ใด ดูเหมือนว่าข้าจะไม่สามารถหลุดพ้นจากการพัวพันกับกองกำลังของยอดเขาจรัสตะวันออกได้…”
“แม่นางลั่ว อย่าได้ดูถูกหวังจ้งฮ่วน เขามีวาสนาที่ยอดเยี่ยมและยังได้รับความกรุณาจากผู้อาวุโสบางคนที่ใช้ชีวิตอย่างสันโดษเป็นอย่างมาก กอปรกับอารมณ์ที่ดุร้ายของคนผู้นี้ ในช่วงสิบปีที่ผ่าน เขาได้ทำภารกิจที่ถูกมอบหมายให้สำเร็จและได้พานพบกับโชคลาภโดยบังเอิญมากมาย ตอนนี้เขาได้ไต่ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดในหมู่ศิษย์ชั้นยอดแล้ว”
“เขามีความโชคดีอย่างมากและครอบครองร่างกายที่ไม่ธรรมดา ทำให้ความเร็วในการบ่มเพาะของเขาเร็วกว่าคนธรรมดามากกว่าสิบเท่า ถึงขนาดต่อสู้กับหลงเจิ้นเป่ยได้อย่างเท่าเทียมกันเมื่อได้รับมอบหมายภารกิจในครั้งก่อน!”
เมื่อเห็นลั่วเชี่ยนหรงไม่พอใจ ผู้อาวุโสของตำหนักเมฆาครามก็รีบกล่าวขึ้น
“หืม? เขากล้าที่จะต่อสู้กับหลงเจิ้นเป่ย? และมันก็เป็นการต่อสู้ที่เท่าเทียมกัน?” ความประหลาดใจฉายผ่านดวงตาของลั่วเชี่ยนหรง จากนั้นนางก็กัดริมฝีปากและส่ายศีรษะขณะที่คลี่ยิ้ม “ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า การที่ข้าปิดด่านบ่มเพาะมายี่สิบปี ยอดเขาจรัสเทวะกลับมีอัจฉริยะเกิดขึ้นมากมายนัก”
“เขาครอบครองสมบัติอมตะ มีความแข็งแกร่งที่ทรงพลัง มีโชคลาภอันยิ่งใหญ่ และได้รับความเอ็นดูจากเหล่าผู้อาวุโสเก่าแก่ของนิกายเป็นอย่างมาก ทำให้เขากลายเป็นบุคคลสำคัญในหมู่ศิษย์ชั้นยอดในเวลาเพียงแค่สิบสามปี หวังจ้งฮ่วนผู้นี้อาจเป็นตัวตนโดดเด่นที่สวรรค์โปรดปรานอย่างแท้จริง…”
เฉินซีดูจะหลงทางในความคิด และในใจของเขาก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ชายหนุ่มรู้สึกว่า ยอดเขาจรัสเทวะเป็นเหมือนค่ายสำหรับอัจฉริยะ ซึ่งได้รวบรวมตัวตนที่ไม่ธรรมดามาจากทั่วทุกหนทุกแห่ง ทำให้ผู้เยี่ยมยุทธ์จำนวนมากเป็นดั่งพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อน ยิ่งกว่านั้น พวกเขาทุกคนล้วนมีพรสวรรค์ ซึ่งเหนือกว่าทุกคนที่เฉินซีเคยพบมาก่อนหน้านี้
“หลงเจิ้นเป่ยคือใครหรือ?” ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะถาม
“หลงเจิ้นเป่ย อัจฉริยะที่หาได้ยากในรอบหมื่นปี และเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าอวิ๋นเยี่ย เขาเป็นศิษย์ที่ผู้อาวุโสบนยอดเขาจรัสเทวะพากลับมาจากเผ่ามังกรอสรพิษ ในขณะที่ท่องไปในโลกหล้า เขาก็พลันบรรลุศาสตร์เต๋าโดยกำเนิดที่มีนามว่า ‘เนตรวิญญาณมังกรอสรพิษ’ และมันก็น่าเกรงขามกว่าเนตรทองคำขาวของจักรพรรดิพิสุทธ์เล็กน้อย” ริมฝีปากสีชมพูของลั่วเชี่ยนหรงเผยอเล็กน้อยขณะที่นางกล่าวช้า ๆ “ความแข็งแกร่งของเขาเทียบเท่าได้กับข้าโดยประมาณ และเนื่องจากสามารถสู้ได้อย่างทัดเทียมกัน ดังนั้นจึงไม่อาจประเมินความแข็งแกร่งของหวังจ้งฮ่วนต่ำไปได้”
เฉินซีตกตะลึงอีกครั้ง และครุ่นคิดในใจว่า ‘ไม่แปลกใจเลย ที่ยอดเขาจรัสเทวะจะเป็นแกนหลักของนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง เห็นได้ชัดจากศิษย์ชั้นยอดมากมายที่มีพรสวรรค์และผู้อาวุโสที่บ่มเพาะอย่างสันโดษที่นี่’
บางที …ทั้งหมดนี้อาจเป็นทรัพยากรและกำลังสำรองที่นิกายกระบี่เก้าเรืองรองมีอยู่ และมีเพียงกองกำลังที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้เท่านั้นที่จะสามารถหาตัวตนที่น่าเกรงขามมากมายได้
“แม่นางลั่ว เราจะจัดที่พำนักของเฉินซีให้อยู่บนเส้นชีพจรวิญญาณต้นกำเนิดสีชาดเป็นอย่างไร? สถานที่แห่งนั้นเทียบได้กับเส้นชีพจรวิญญาณจรัสทมิฬ และเป็นสถานที่ชั้นยอดเช่นเดียวกัน” ผู้อาวุโสคนหนึ่งเห็นว่าท่าทางที่ไม่น่าดูมากขึ้นเรื่อย ๆ ของลั่วเชี่ยนหรง ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะแนะนำด้วยเสียงแผ่วเบา
“เส้นชีพจรวิญญาณต้นกำเนิดสีชาด?” ท่าทางของหญิงสาวผ่อนคลายลงอย่างมากเมื่อได้ยินสิ่งนี้ “ที่นั่นก็ดีเช่นกัน แม้ว่าตำแหน่งของมันจะอยู่ไกลไปหน่อย แต่ก็เทียบได้กับเส้นชีพจรวิญญาณจรัสทมิฬ”
…
ยอดเขาจรัสเทวะตั้งตระหง่านทะลุขึ้นไปถึงสวรรค์ทั้งเก้า มันเหมือนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างขึ้นกลางอากาศ เป็นทิวทัศน์ที่งดงามซึ่งส่องแสงเรืองรอง และกระแสปราณมงคลก็หลั่งไหลลงมาดั่งน้ำตก ทำให้สถานที่แห่งนี้ดูคล้ายกับสรวงสวรรค์ของเซียน
ภูเขาทั้งลูกนั้นเต็มไปด้วยดินแดนเร้นลับและมีช่องว่างมิติอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ถึงแม้มันจะดูเหมือนกับภูเขา แต่พื้นที่ที่มันปกคลุมอยู่ก็กว้างใหญ่ไพศาล ราวกับอาณาจักรกว้างใหญ่ที่ทอดยาวออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งคนธรรมดาอาจหลงทางทันทีเมื่อเดินอยู่บนนั้น
เหล่าผู้อาวุโสเก่าแก่ที่อาศัยอยู่อย่างสันโดษนั้นล้วนบ่มเพาะอยู่ภายในมิติอิสระที่เปิดขึ้นบนยอดเขาจรัสเทวะ ส่วนที่พำนักเหล่านั้นซึ่งศิษย์ชั้นยอดได้บ่มเพาะอยู่ต่างกระจัดกระจายอยู่เหนือเส้นชีพจรวิญญาณบนยอดเขาจรัสเทวะ
เส้นชีพจรวิญญาณต้นกำเนิดสีชาดเป็นเส้นชีพจรวิญญาณที่มีคุณภาพสูงมากของยอดเขาจรัสเทวะ และศิษย์ชั้นยอดที่สามารถบ่มเพาะบนเส้นชีพจรวิญญาณนี้ได้ อย่างน้อยก็ต้องเป็นศิษย์ชั้นยอดระดับสูง ซึ่งมีสถานะและตัวตนที่น่าประทับใจ
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...