บทที่ 621 มาเพื่อก่อปัญหา
บทที่ 621 มาเพื่อก่อปัญหา
โลกแห่งดารา
เมื่อเฉินซีตัดสินใจเริ่มบ่มเพาะทักษะปีกกำราบผกผัน เขาก็เข้ามาในโลกอันกว้างใหญ่แห่งดวงดาราภายในพริบตา
เหตุผลนั้นเรียบง่ายมาก ประการแรก ที่นี่ปลอดภัย ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกโลกภายนอกรบกวน ประการที่สอง กฎแห่งกาลเวลาที่นี่ไม่เหมือนโลกภายนอก การบ่มเพาะวิชาที่นี่สิบปีเท่ากับโลกภายนอกเพียงปีเดียวเท่านั้น
แต่ถึงแม้ว่าโลกแห่งดาราจะช่วยในการบ่มเพาะ แต่ก็มีข้อเสียที่ไม่อาจมองข้ามได้เมื่อเทียบกับที่พำนักภายนอกที่เขามี เพราะโลกแห่งดาราไม่ได้มีปราณวิญญาณหนาแน่นและกว้างขวางเหมือนที่พำนักของเขานั่นเอง
หลังจากเปรียบเทียบผลดีผลเสียกันแล้ว เฉินซีจึงตัดสินใจว่าจะทำความเข้าใจศาสตร์เต๋าแห่งพลังอิทธิฤทธิ์ในโลกแห่งดารา เพราะการทำความเข้าใจวิชาไม่จำเป็นต้องใช้ปราณวิญญาณ
แต่หากเขาต้องการทำให้พลังบ่มเพาะมั่นคงและก้าวหน้า เขาจะเลือกบ่มเพาะพลังภายในที่พำนักของตน ด้วยเหตุนี้ ชายหนุ่มก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากเส้นชีพจรวิญญาณต้นกำเนิดสีชาด และได้รับปราณวิญญาณจำนวนมากได้
…
เมื่อเริ่มนั่งขัดสมาธิในโลกแห่งดาราอันกว้างใหญ่ เฉินซีก็สูดลมหายใจเข้าลึก ทำให้ปราณจ้าววิญญาณทั่วร่างเข้าสู่สภาวะว่างเปล่าและสงบเงียบ
ครืน!
เพียงครู่เดียวเท่านั้น อักขระจ้าววิญญาณทั้งเก้าก็ส่องประการขึ้นบนแผ่นหลัง มันปลดปล่อยกลิ่นอายสะท้านฟ้าดินออกมา ผสานรวมกันอยู่เหนือศีรษะ ก่อนจะเกิดเป็นกลุ่มหมอกขนาดใหญ่และลึกลับ สะท้อนแสงดาวจากที่ไกลอยู่ภายใน
พร้อมกันนั้น จุดชีพจรขนาดเล็กบนล่างนับไม่ถ้วนก็เปิดออก ราวกับดวงดาวทั้งหลายพลันส่องแสงอยู่ทั่วร่าง มันปล่อยลำแสงออกมา เมื่อมองดูดี ๆ แล้วจุดขนาดเล็กเหล่านั้นก็ราวกับเป็นโลกใบจิ๋วอันลึกล้ำ คล้ายกับภายในมีความลึกล้ำแห่งมหาเต๋าซุกซ่อนอยู่
หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับการขัดเกลากายา ก็กล่าวได้ว่าร่างกายนั้นนับเป็นสมบัติที่มีความลึกล้ำแห่งใต้หล้า ด้วยหากสามารถเปิดจุดชีพจรขนาดเล็กจำนวนแปดร้อยสี่สิบล้านจุดในร่างได้ คนคนนั้นก็จะกลายเป็นร่างเซียน ร่างแห่งความเป็นนิรันดร์ คงอยู่ยั้งยืนยงต่อไปในฟ้าดินไปชั่วกาล!
แม้ว่าการขัดเกลากายาของเฉินซีจะยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ก็มาถึงขอบเขตจุติขั้นสูงแล้ว ร่างกายของเขาจึงเทียบได้กับสมบัติวิเศษระดับสวรรค์ขั้นสุดยอด ทำให้มันแข็งแกร่งมาก และสามารถเปิดจุดชีพจรขนาดเล็กทั่วร่างได้สองหมื่นหนึ่งพันจุดแล้ว
และตอนนี้ เขาคิดจะใช้จุดขนาดเล็กเหล่านั้นเพื่อบ่มเพาะพลังอิทธิฤทธิ์ ทักษะปีกกำราบผกผัน!
ฟึ่บ!
แสงศักดิ์สิทธิ์กำราบธาตุสีเทาสายหนึ่งล่องลอยออกมาวงอากาศวงแล้ววงเล่า จากนั้นพลันเคลื่อนขึ้นสู่ฟ้าเป็นคลื่นพลังอันน่าผวา
เฉินซีพลันลืมตาขึ้น โคจรพลังบ่มเพาะภายในร่าง ยกสองมือขึ้นมาซ้อนกันอย่างรวดเร็ว จากนั้นซัดผนึกหนึ่งออกมาด้วยความรวดเร็ว จากนั้นก็อัญเชิญแสงศักดิ์สิทธิ์กำราบธาตุออกมา แปรเปลี่ยนมันเป็นลำแสงสีเทาดั่งสายฝนที่โปรยลงสู่จุดชีพจรขนาดเล็กภายในร่างกาย
ขั้นตอนนี้เรียกว่าการขัดเกลาพลัง ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการบ่มเพาะทักษะปีกกำราบผกผัน แสงศักดิ์สิทธิ์กำราบธาตุถูกส่งเข้าไปผ่านจุดชีพจรทั้งหนึ่งหมื่นแปดพันจุดทั่วร่างด้วยการโคจรพลังนี้
ในตอนนี้ แสงศักดิ์สิทธิ์กำราบธาตุกลายเป็นลำแสงโปรยลงมาดั่งฝน ไหลเข้าสู่จุดชีพจรขนาดเล็กทั่วร่าง ค่อย ๆ คืบคลานไปเรื่อยก่อนจะถึงจุดเดือด ทำให้ทั่วร่างราวกับดวงตะวันกำลังส่องแสง
ทันใดนั้น เฉินซีก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แล่นแปลบอยู่ภายในหัวใจและไขกระดูกที่ถึงกับทำให้ร่างสั่นสะท้านเลยทีเดียว
พร้อมกันนั้น จุดชีพจรขนาดเล็กรอบกายก็ส่งเสียงคำรามราวกับฟ้าลั่น คล้ายกับสะท้อนเสียงของมหาเต๋า และปลดปล่อยกลิ่นอายยิ่งใหญ่ออกมา
ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่าง จุดชีพจรเล็กทั่วทั้งร่างส่งเสียงคำราม เฉินซีรู้สึกราวกับว่ามีบางอย่างต้องการเจาะแผ่นหลังเขาออกมา ดั่งถูกกระบี่คมแทงดวงใจนับครั้งไม่ถ้วน
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
ในขณะที่กำลังรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูกอยู่นั้น ผิวกายก็แตกออก เกิดเป็นเส้นสีแดงเลือด ก่อนพวกมันจะหดเข้าหากันจนซ้อนทับ ผสานรวมเข้าด้วยกันกลายเป็นเส้นทางดูลึกล้ำน่าพิศวง…
มันกำลังเกิดเป็นปีกคู่หนึ่งนั่นเอง!
เฉินซีใช้ความสามารถในการมองเห็นภายในร่าง รู้สึกกระจ่างแจ้งขึ้นมาเมื่อลองคาดเดาลวดลายลึกลับที่ปรากฏขึ้นบนแผ่นหลัง และตระหนักทราบว่ามันคือปีกกำราบผกผันที่ขัดเกลามาจากแสงศักดิ์สิทธิ์กำราบธาตุนั่นเอง
และแม้จะเป็นแค่รูป แต่ความลึกล้ำของลายเส้นกับลายโค้งเหล่านี้ราวกับมีความลึกล้ำอันหาที่ใดเปรียบของมหาเต๋าอยู่ อีกทั้งยังมีกลิ่นอายกดดันของทั้งห้าธาตุที่หมายทำลายโซ่ตรวจแห่งใต้หล้าทิ้งเสีย!
เพียงเท่านี้ก็มากพอที่จะทำให้ผู้ขัดเกลากายาคนอื่นเปล่งเสียงชื่นชมได้แล้ว และเมื่อควบแน่นมัน กลิ่นอายเป็นเอกลักษณ์และกว้างใหญ่ซึ่งแผ่ออกก็ทำให้เขาดูพิเศษไม่ธรรมดายิ่ง!
ซึ่งแตกต่างจากพลังอิทธิฤทธิ์อื่น ๆ แม้ว่าพลังอิทธิฤทธิ์ที่พบเห็นกันได้บ่อยจะนับว่าน่าอัศจรรย์มากแล้ว แต่มีวิชาใดที่สามารถผสานแสงศักดิ์สิทธิ์กำราบธาตุเข้าร่าง และขัดเกลาร่างได้โดยตรงอย่างทักษะปีกกำราบผกผันบ้างหรือไม่?
ตัวอย่างเช่นอวตารเทพ ร่างแปลงสวรรค์ เนตรเทวะแห่งความจริง ฝ่ามือมหาดารา ปีกนภาดารกะ ก่ออัสนีผสานดารา… แม้พลังอิทธิฤทธิ์เหล่านี้จะน่าเกรงขาม แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้พลังภายนอกอย่างแสงศักดิ์สิทธิ์กำราบธาตุในการบ่มเพาะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...