บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 65

บทที่ 65 เหล่าสัตว์อสูรมาเยือนเพื่อแสดงความยินดี
บทที่ 65 เหล่าสัตว์อสูรมาเยือนเพื่อแสดงความยินดี

มู่ขุยรู้สึกประหม่ายิ่งนัก เขาไม่กล้าแม้แต่สบตากับเฉินซี แต่เขาก็ไม่รู้สึกว่าทำสิ่งใดผิดเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ เฉินซีได้ยืมปราณวิญญาณของสวรรค์และโลกเพื่อใช้ในการบรรลุขอบเขตตำหนักอินทนิล และได้ดึงดูดความสนใจของสัตว์อสูรจำนวนมากที่กำลังบ่มเพาะอยู่บริเวณใกล้เคียงกับเทือกเขาวงจันทรา ดังนั้นพวกมันจึงมาขอให้มู่ขุยแนะนำตัวพวกมันแก่ชายหนุ่ม

สัตว์อสูรเหล่านี้มีความสัมพันธ์ฉันมิตรกับมู่ขุย และพวกมันมักจะรวมตัวกันเพื่อดื่มสุราและหารือเกี่ยวกับเต๋า แม้ว่าพวกมันจะไม่ใช่สหายที่ดีที่สุด แต่การจะปฏิเสธก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี ดังนั้นมู่ขุยจึงทำได้แต่เพียงรวบรวมความกล้ามาหาเฉินซี

แน่นอนว่า ในใจของมู่ขุยยังคงตื่นตระหนก ตัวเขาได้บ่มเพาะบนเทือกเขาวงจันทรามานับพันปี ทว่าด้วยการใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ระดับการบ่มเพาะของเขาจึงไม่อาจเทียบเคียงกับสัตว์อสูรระดับสูงตัวอื่น ๆ ได้ ดังนั้นสัตว์อสูรเหล่านั้นจึงไม่มีใครยินดีที่จะคบหากับเขาอย่างสนิทใจ อันที่จริงสัตว์อสูรตัวอื่น ๆ ก็มักจะปฏิบัติต่อมู่ขุยในฐานะสหายร่วมเส้นทางเต๋าเพียงเท่านั้น

แต่ตอนนี้ ด้วยความก้าวหน้าของเฉินซี สัตว์อสูรเหล่านี้ได้แบกเอาสมบัติมากมายติดตัวเมื่อมาพบกับมู่ขุุ่ย และพวกมันก็สนทนากับเขาอย่างกระตือรือร้น นอกจากจะทำให้มู่ขุยรู้สึกประหลาดใจแล้ว ความภาคภูมิใจก็ได้ก่อขึ้นในหัวใจของเขาเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม มู่ขุยทราบดีว่าถ้าไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของท่านผู้อาวุโสเฉินซี ตัวหยาบคายเหล่านี้ย่อมไม่เห็นเขาในสายตาแน่

“ตกลง” เฉินซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้ารับ ในขณะนี้เขาก็ต้องการพบกับเหล่าสัตว์อสูรที่บ่มเพาะอยู่ใกล้เคียงเช่นกัน ท้ายที่สุด เขาต้องอาศัยอยู่ที่นี่ตลอดทั้งปี การได้รู้จัก ‘เพื่อนบ้าน’ บ้างย่อมไม่เสียหาย แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะเป็นสหายกัน แต่พวกเขาก็ไม่ได้เป็นศัตรู ดังนั้นมันจึงจำเป็นสำหรับเขาที่จะรักษาระดับความสัมพันธ์กับสัตว์อสูรเหล่านี้

“ท่านผู้อาวุโส… ท่านตกลง?” มู่ขุยไม่อยากเชื่อหูตัวเองขณะเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ

“เจ้าไม่อยากให้ข้าหนุนหลังหรอกหรือ?” เฉินซีชำเลืองมองอีกฝ่ายแล้วกล่าวว่า “แต่เฉพาะครั้งนี้เท่านั้น นับจากนี้ไม่มีอีกแล้ว”

มู่ขุยรู้สึกภาคภูมิใจ และเขาก็พยักหน้ารับราวกับลูกไก่จิกกินเมล็ดข้าว ขณะที่เขาตื่นเต้นจนไม่อาจกล่าวใด ๆ

ผืนดินปกคลุมไปด้วยต้นสนอันเขียวขจี มีน้ำตกและน้ำพุไหลลงมาอย่างสวยงาม ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยม่านหมอกและมวลเมฆ ขณะที่สายลมเย็นพัดผ่าน

ในฉากที่ราวกับภาพวาดเบื้องหน้านี้ ชายหญิงสิบกว่าคนในชุดต่าง ๆ หัวเราะและสนทนากัน พวกเขายืนพิงต้นสนสีคราม บางคนก็นั่งอยู่บนโขดหิน บางส่วนก็นั่งบนพื้นดินเป็นกลุ่มสองสามคน ส่วนหนึ่งก็ยืนตัวตรงรอต้อนรับและแสดงความเคารพ

“สหายมู่ขุยคนนี้ช่างโชคดียิ่งนักที่สามารถผูกมิตรกับผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลได้ ช่างน่าอิจฉาอย่างแท้จริง”

“อืม เราทำได้แค่โทษตัวเองที่ละเลยเขาในอดีต ถ้าข้ารู้ก่อนหน้านี้ ข้าอาจจะเป็นเหมือนเขาและได้รับฟังการชี้แนะจากท่านผู้อาวุโสเฉินซี”

“พวกเจ้าคิดว่าผู้อาวุโสเฉินซีมาจากแห่งหนใด? ในช่วงพันปีที่ผ่านมา ผู้บ่มเพาะที่เป็นมนุษย์แทบไม่ได้เหยียบย่างเข้ามาภายในเทือกเขาของเราเลย”

การสนทนาทุกรูปแบบก็ดังขึ้น และขณะนี้ ภายในภูเขาของเทือกเขาวงจันทราก็เต็มไปด้วยชีวิตชีวา

“นั่น! มู่ขุยมาถึงแล้ว เป็นไปได้ไหมว่าชายหนุ่มเบื้องหน้าเขาคือผู้อาวุโสเฉินซีที่เพิ่งก่อสร้างรากฐานแห่งเต๋าของขอบเขตตำหนักอินทนิล?” จู่ ๆ ก็มีใครบางคนร้องออกมาด้วยความตกใจ

โอ้!

สายตาของบรรดาสัตว์อสูรหันไปทางเดียวกันอย่างพร้อมเพรียง

พวกเขาเห็นมู่ขุยเดินตามหลังชายหนุ่มคนหนึ่ง คนผู้นี้มีรูปร่างสูงและใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาของเขากระจ่างใสและไม่แยแสใด ๆ แม้ว่าดูเหมือนคนธรรมดา แต่ด้วยทุกการเคลื่อนไหวที่เขากระทำ ราวกับว่าเขาได้หลอมรวมเข้ากับสวรรค์และโลก และปล่อยกลิ่นอายที่น่าเกรงขามออกมา

ดวงวิญญาณของเขาหลอมรวมกับลมปราณ ร่างกายของเขาหลอมรวมกับโลก เขาได้บรรลุขอบเขตตำหนักอินทนิลอย่างที่คาดการณ์ไว้!

ในขณะนั้น ในหัวใจของเหล่าสัตว์อสูรไม่มีความสงสัยอีกต่อไป การจ้องมองไปที่เฉินซีมีแต่ความเคารพเลื่อมใส

“ข้าคือ สยงผีแห่งเทือกเขาปักษาวิญญาณ ข้าขอแสดงความเคารพต่อผู้อาวุโสเฉินซี!”

“ข้าชื่อ จุ้ยหม่านแห่งถ้ำหินอัคนี ข้าขอแสดงความเคารพต่อผู้อาวุโสเฉินซี และขอแสดงความยินดีกับผู้อาวุโสที่บรรลุขอบเขตตำหนักอินทนิลและสร้างรากฐานของมหาเต๋าสำเร็จ!”

“ข้ามาจากทะเลสาบปักษาเพลิงอมตะ…”

สัตว์อสูรเหล่านั้นทยอยออกมาทีละคนเพื่อโค้งคำนับและแสดงความเคารพเลื่อมใสต่อเฉินซี การแสดงออกและคำพูดของพวกเขาต่างเต็มไปด้วยความเคารพอย่างจริงใจ

ในตอนแรกเฉินซีรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่เขาก็คุ้นเคยกับมันได้ในภายหลัง เขาเพียงพยักหน้ารับ แต่ในใจของเขากำลังจดจำชื่อและรูปลักษณ์ของสัตว์อสูรแต่ละตัวเอาไว้ ยิ่งกว่านั้นชายหนุ่มยังสังเกตว่าพวกมันมีลักษณะนิสัยคล้ายกับมนุษย์ ทั้งยังมีการกำหนดตำแหน่งตามระดับอาวุโส ตัวอย่างเช่น เมื่อพวกเขาแสดงความเคารพต่อเฉินซี พวกเขาจะปฏิบัติตามกฎและก้าวเดินเรียงลำดับตามความแข็งแกร่งของพวกเขา

มู่ขุยได้จัดเตรียมสุราชั้นดีและผลไม้รสเลิศเอาไว้แล้ว เขาทำความสะอาดที่โล่งระหว่างป่าสนก่อนที่จะวางฟูกและโต๊ะ จากนั้นจึงเชิญเฉินซี และคนอื่น ๆ ให้นั่งลง

แม้ว่าสถานที่นี้จะเรียบง่าย แต่เฉินซีก็ยังได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเหล่าสัตว์อสูรให้นั่งอยู่หัวแถว มู่ขุยนั่งเยื้องไปทางขวาของเฉินซี และคอยเทสุราและมอบผลไม้ให้แก่เฉินซี เขาเป็นเหมือนข้ารับใช้ที่ขยันขันแข็งและซื่อตรง อย่างไรก็ตาม ภาพที่เห็นนี้ได้สร้างความอิจฉาให้กับสัตว์อสูรตัวอื่น ๆ ยิ่งนัก และหากไม่ใช่เพราะสถานะของพวกเขา พวกเขาคงมิอาจห้ามใจและอยากคอยปฏิบัติรับใช้เฉินซีเฉกเช่นมู่ขุย

เฉินซีอดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา เนื่องจากสัตว์อสูรเหล่านี้ล้วนมีรูปร่างเหมือนมนุษย์ เหตุใดพวกมันถึงต้องคอยประจบสอพลอกับข้าเยี่ยงนี้?

ตัวอย่างเช่น สยงผีของเทือกเขาปักษาวิญญาณ ผู้สืบทอดสายเลือดของสัตว์ร้ายในยุคบรรพกาลอย่าง ‘หมีเทพจ้าวอหังการ’ ตัวตนของสยงผีนั้นน่านับถืออย่างหาที่เปรียบมิได้ และความแข็งแกร่งของเขาก็อยู่ห่างจากขอบเขตตำหนักอินทนิลอีกเพียงก้าวเดียว

‘เขาไม่จำเป็นต้องปฏิบัติต่อข้าด้วยความเคารพและให้เกียรติแก่ข้าเลยด้วยซ้ำกระมัง?’

“ผู้อาวุโส ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลมากไป ท่านเป็นเพียงผู้เดียวที่มีการบ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิล และผู้บ่มเพาะสัตว์อสูรเยี่ยงพวกเรานับถือในความแข็งแกร่งเท่านั้น ตราบใดที่ความแข็งแกร่งของท่านแข็งแกร่งกว่า พวกเขาก็เต็มใจที่จะเป็นทาสรับใช้ของท่านหากท่านต้องการ” มู่ขุยซึ่งอยู่เคียงข้างเฉินซีดูจะตระหนักได้ถึงความสับสนของเฉินซี จึงกระซิบผ่านกระแสปราณไปสู่อีกฝ่าย “ท่านผู้อาวุโส จงกินและดื่มตามสบาย ในแง่ดีก็คือพวกเขามาที่นี่เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับท่าน แต่ในแง่ที่ไม่ดีก็คือพวกเขามาที่นี่เพื่ออยากรู้ถึงตัวตนของท่าน”

เฉินซีอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เพราะไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูรหรือมนุษย์ พวกมันก็ไม่วายที่จะแสร้งประจบประแจงผู้มั่งคั่งและทรงพลังได้

พวกเขาดื่มสุราและกล่าวคุยกันอย่างเป็นกันเองจนเข้าสู่ยามพลบค่ำโดยไม่รู้ตัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]