บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 664

บทที่ 664 ผู้คนตะลึงงัน

บทที่ 664 ผู้คนตะลึงงัน

เยี่ยนสือซานหัวเราะดังลั่น พร้อมกับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้ผู้คนตกตะลึงยิ่ง

เฉินซีรู้สึกงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นยิ่งนัก เพราะเมื่อสังเกตดูแล้ว มันก็ไม่ใช่การเคลื่อนย้าย และเยี่ยนสือซานยังมิอาจเคลื่อนย้ายได้ด้วยระดับการบ่มเพาะในตอนนี้ของเขา แม้ว่าชายหนุ่มจะตรวจสอบพื้นที่โดยรอบด้วยเนตรเทวะแห่งความจริง แต่เขาก็ไม่พบมิติผันผวนใด ๆ

“นั่นคือยันต์เซียนจักรวาล! บรรพบุรุษของข้าเคยครอบครองมันอยู่ มีเพียงผู้ยิ่งใหญ่ในภพเซียนเท่านั้นที่สามารถสร้างยันต์นี้ได้ เมื่อทำลายมัน ผู้ใช้จะสามารถเคลื่อนย้ายผ่านมิติได้อย่างอิสระ มีประสิทธิภาพกว่าทักษะเคลื่อนย้ายมิติ! เป็นของที่เหมาะสำหรับการเอาตัวรอดที่สุดเพราะไม่มีใครในภพมนุษย์สามารถขัดขวางมันได้!” มีคนอุทานด้วยความตกใจเมื่อเห็นวิธีที่เยี่ยนสือซานใช้หลบหนี ก่อนที่ผู้คนรอบ ๆ จะสะดุ้งไปตาม ๆ กัน เพราะมูลค่าของยันต์เซียนดังกล่าวมีมากกว่าสมบัติกึ่งอมตะด้วยซ้ำ!

เฉินซีถึงกับส่ายหัวด้วยความไม่ค่อยพอใจ เพราะเขาไม่เคยคาดคิดว่าอีกฝ่ายจะหลบหนีได้ในที่สุด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำพูดสุดท้ายที่เยี่ยนสือซานพูดก่อนที่เขาจะจากไป มันทำให้เฉินซีรู้สึกตะลึง เพราะแม้แต่อีกฝ่ายเองก็ยอมรับว่ามีคนมากมายที่น่าเกรงขามยิ่งกว่า หรือเขากำลังหมายถึงผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตสถิตกายาที่มีพลังต่อสู้ถึงสิบเท่า?

หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็คงจะน่าสะพรึงเป็นอย่างยิ่ง

เพราะในบรรดาผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตสถิตกายาแห่งนิกายเซียนทั้งสิบและหกนิกายอสูร ผู้บ่มเพาะที่มีพลังต่อสู้ห้าเท่านั้นก็ค่อนข้างหายากมากแล้ว นับได้ว่าเป็นที่สุดของขอบเขตสถิตกายาเลยทีเดียว

ในทางกลับกัน กล่าวได้ว่าผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตสถิตกายาขั้นสูงสุดนั้นเป็นดั่งตำนาน แม้จะค้นหาท่ามกลางผู้คนจำนวนสิบล้านคนก็หาพบได้ยาก ตัวตนเช่นนี้แทบจะไม่อาจพบเจอในแดนภวังค์ทมิฬ เกือบพันปีถึงจะมีคนหนึ่ง

บุคคลเช่นนี้เป็นที่โปรดปรานของสวรรค์อย่างแท้จริง เป็นอัจฉริยะแห่งโลก เมื่อปรากฏตัวขึ้น คนผู้นั้นย่อมเป็นจ้าวเหนือหัวแห่งยุคสมัยที่มากด้วยความปราดเปรื่องและความไร้เทียมทานอย่างไม่ต้องสงสัย!

ดูอย่างเยี่ยนสือซานซึ่งมีพลังทวีคูณถึงเจ็ดเท่า ในตอนนี้เขาก็มีชื่อเสียงเลื่องลือแล้ว ดังนั้นตัวตนขอบเขตสถิตกายาระดับสูงสุดจะน่าตกตะลึงเพียงใด?

ทว่าในเวลาไม่นาน เฉินซีก็หยุดคิดเรื่องนี้ เพราะโลกใบนี้กว้างใหญ่ไพศาลจนไม่มีอะไรเกินความคาดหมาย บางทีอาจจะมีตัวตนที่พิเศษยิ่งกว่าเยี่ยนสือซานก็เป็นได้ แต่นั่นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์ที่จะคิดถึงเรื่องนี้

ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง!

ในช่วงเวลาต่อมา เฉินซีกวาดมองมาด้วยเนตรเทวะแห่งความจริง เห็นความล้ำลึกของกรงแปดเซียนจำแลงโดยตรง ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อเพื่อทำลายค่ายกล ทำให้สมบัติกึ่งอมตะทั้งแปดถูกโค่นลงด้วยน้ำมือของเขา

ธงทั้งแปดนี้มีความหนาเท่าแขนของเด็ก มีสีดำสนิท สัมผัสเย็นจัดและมีน้ำหนักมาก ปกคลุมด้วยสีเงินโลหะและสีโลหิต ธงทุกผืนมีลวดลายที่แตกต่างกัน มีทั้งรูปเทพอสูร วิญญาณ โลกมนุษย์ เหล่านักปราชญ์ที่บรรลุเต๋า… ลวดลายทั้งแปดนั้นมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันระหว่างทุกสิ่งบนโลกใบนี้

เฉินซีพบว่าธงทั้งแปดผืนนี้มีคำจารึกที่ลึกซึ้งและซับซ้อนมากมาย เมื่อถูกใช้ร่วมกัน พลังของพวกมันจะเทียบได้กับสมบัติอมตะ ทำให้มูลค่าของพวกมันสูงจนประเมินค่าไม่ได้!

“แม้เยี่ยนสือซานจะเผ่นหนีไปแล้ว สุดท้ายการกระทำของข้าก็ไม่ได้เปล่าประโยชน์” เฉินซีกำจัดตราประทับบนธง จากนั้นก็ดูดซับพลังของธงก่อนจะเก็บพวกมันไว้

นี่คือชุดสมบัติวิเศษอันน่าเกรงขาม ซึ่งสามารถใช้ทั้งปกป้องหรือกวาดล้างศัตรูได้ พลังและประโยชน์ของมันมีมากมายมหาศาล

หลงเจิ้นเป่ยกับอันเวยเข้ามาหาเขาพร้อมท่าทางที่ตื่นเต้นยิ่ง สายตาที่พวกเขาจ้องมองไปยังเฉินซีเต็มไปด้วยความชื่นชม ทว่าส่วนใหญ่จะค่อนไปทางความประหลาดใจมากกว่า

เฉินซีต่อสู้กับบรรดาผู้เยี่ยมยุทธ์และเยี่ยนสือซานเพื่อช่วยเหลือพวกเขา และตอนนี้ก็สำเร็จลุล่วงแล้ว ความรู้สึกของคนทั้งคู่จึงไม่ต่างอะไรกับการได้เกิดใหม่ ดังนั้นจะไม่รู้สึกปลาบปลื้มต่ออีกฝ่่ายได้อย่างไร?

ทั้งสองคนเปิดปาก ตั้งใจจะกล่าวอะไรบางอย่าง แต่ชายหนุ่มส่ายศีรษะพลางยิ้มขณะที่ปรามพวกเขาเอาไว้ “ออกไปก่อนค่อยคุยกันนะ”

ขณะที่พูด เฉินซีก็สะบัดแขนเสื้อและนำทั้งสองคนไปพร้อมกับตน ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่ได้กวาดสายตามองใครอื่นเลยแม้แต่น้อย

นอกจากมองหน้ากันแล้ว ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งใจเมื่ออีกฝ่ายจากไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]