บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 705

บทที่ 705 ชายหนุ่มคนนี้เป็นใครกันแน่?

บทที่ 705 ชายหนุ่มคนนี้เป็นใครกันแน่?

กลิ่นเลือดคลุ้งไปทั่วอากาศโดยรอบ และทุกคนต่างจับจ้องไปยังร่างสูงที่อยู่ไกลออกไป

เขาคือชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาผู้มีท่าทีไม่ธรรมดา เสื้อผ้าของคนผู้นี้พลิ้วไหวไปมาทั้งที่ไร้ลมพัดผ่าน ดวงตาคู่นั้นล้ำลึกไร้อารมณ์ ให้ความรู้สึกราวกับกำลังจ้องมองหุบเหวลึกไร้ก้น

ไม่ว่าคนคนนี้จะเป็นใคร ย่อมไม่มีใครคาดคิดว่าชายผู้ไม่ธรรมดาคนนี้จะปรากฏขึ้นก่อนที่ค่ายกลจะพังทลาย ดังนั้นสายตาทุกคนจึงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ และต่างมองตรงไปยังใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยเบื้องหน้า

ก่อนลงมือ พวกเขาได้รู้อยู่ก่อนแล้วว่ามีผู้เหลือรอดจากเผ่านรกขุมที่เก้าอยู่สองคนที่แข็งแกร่งมากที่สุด ซึ่งก็คือเหมิงเหวยและโม่ย่าที่อยู่ขอบเขตสถิตกายา

ส่วนเด็ก ๆ เหล่านั้นยังไม่ทันได้ถึงวัยผู้ใหญ่ดี ความแข็งแกร่งยังธรรมดาไม่โดดเด่น จึงไม่มีค่าให้กล่าวถึง

ส่วนพวกเขามาด้วยกันถึงห้ากองกำลังด้วยกัน โดยแต่ละกองกำลังจะมีผู้เยี่ยมยุทธ์ระดับผลึกม่วงคอยสั่งการ พวกเขาจึงเต็มไปด้วยความมั่นใจว่าภารกิจในครั้งนี้จะสำเร็จได้อย่างง่ายดาย

ทว่าเมื่อเห็นว่าคนที่ปรากฏตัวไม่ใช่เหมิงเหวยหรือโม่ย่า อีกทั้งยังเป็นชายหนุ่มไม่คุ้นตา พวกเขาจึงสับสน และพากันคิดว่าสหายผู้นี้เป็นใครกันแน่?

ทางฝั่งเฉินซียังคงไม่พูดไม่จา สองมือของเขาไพล่หลัง ท่าทางดูสงบนิ่ง และเพียงเหลือบมองครั้งเดียว เขาก็มองสถานการณ์ออกทันทีว่า ผู้บ่มเพาะจากต่างพิภพพวกนี้มีอยู่สี่กลุ่มด้วยกัน โดยประกอบไปด้วยผู้บ่มเพาะระดับผลึกม่วงและระดับทองจำนวนพันสองร้อยคน!

“ที่แท้ก็เป็นเด็กน้อยหนวดยังไม่ขึ้นคนหนึ่งนี่เอง!” เยว่ยาส่งเสียงยียวน พร้อมเผยสีหน้าเหยียดหยันออกมา “นึกว่าจะเป็นผู้สูงส่งที่ไหน!”

ส่วนชวีถ่าไม่กล่าวอะไร เพราะการตายของสหายคนเมื่อครู่แปลกประหลาดเกินไป ชายหนุ่มผู้นี้แค่ก้าวเข้ามาก็สามารถสังหารพวกเขาคนหนึ่งได้แล้ว… สิ่งนี้ทำให้ชวีถ่าสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ

ที่สำคัญคือชายหนุ่มผู้นี้นิ่งสงบเกินไป เป็นความสงบที่ไม่สมกับอายุ! ส่งผลให้เขาไร้ทางเลือกและวางระมัดระวังเป็นอย่างมาก

“โอหังนัก! จะตายอยู่รอมร่อแล้วยังกล้าสังหารคนของเราไปอีก ดูท่าคงจะเบื่อชีวิตเสียแล้ว พี่น้องทั้งหลาย สังหารมันพร้อมกันเลย!” ผู้เยี่ยมยุทธ์จากต่างพิภพคนหนึ่งตะโกนขึ้น

เฉินซีกวาดสายตามอง นัยน์ตาเยียบเย็นขึ้นเรื่อย ๆ

แท้จริงแล้ว คนพวกนี้เรียกได้ว่าระมัดระวังและยับยั้งตัวเองเป็นอย่างดี พวกเขาคอยระวังเรื่องระยะห่างระหว่างเฉินซีอยู่เสมอ อีกทั้งยังไม่กล้าหุนหันพุ่งเข้ามา เพียงแค่เดินมาเบื้องหน้ากลุ่มของตนเองเล็กน้อย โดยที่ไม่รู้แม้แต่น้อยว่าถึงจะมีผู้คนล้อมหน้าล้อมหลัง มันก็ไร้ประโยชน์!

ชายหนุ่มสะบัดแขนเสื้อเบา ๆ ทีหนึ่ง

แล้วทุกคนก็ได้เห็นแสงจ้าสิบสามสายพุ่งออกมา

ทุกคนในกลุ่มนั้นหน้าซีดตัวสั่นทันที จากนั้นก็รีบใช้วิชาป้องกันตัว หมายจะต้านการโจมตีนี้ไว้

ฟึ่บ!

ศีรษะของทั้งสิบสามคนกระเด็นลอยขึ้นไปในอากาศพร้อมกับเลือดที่สาดกระเซ็นไปทั่ว!

เพียงแค่สะบัดแขนเสื้อธรรมดา ๆ กลับพรากเอาชีวิตไปได้ถึงสิบสามคนท่ามกลางสายตาของพวกเขา! ส่วนวิชาป้องกันทั้งหลายก็เป็นเพียงแค่แผ่นกระดาษ ไม่สามารถป้องกันได้สักนิด!

พลังร้ายกาจเช่นนี้ทำให้ชายหนุ่มดูคล้ายกับเพชฌฆาตมือฉมัง ก่อนที่กระบี่เขาจะลอยขึ้น และฟาดฟันลงมาทันที ทำให้เกิดร่างไร้วิญญาณขึ้นมาอีกสิบสามร่าง

ผลลัพธ์เช่นนี้ทำให้หลายคนต่างเผยสีหน้าหวาดผวาออกมา เพราะการโจมตีที่เฉียบคมและไร้ลังเลนั่นถูกซัดออกมาอย่างสบาย ๆ ทำให้มันเหนือความคาดหมายยิ่งนัก!

ภายในช่องเขา โม่ย่า เหมิงเหวย กับพวกเด็ก ๆ ที่เป็นห่วงเฉินซี ต่างพากันถอนหายใจโล่งอกเมื่อเห็นภาพนี้ และอดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าตกตะลึงขึ้นมา

เพราะพวกเขาเองก็ไม่คิดเช่นกันว่าเฉินซีที่อยู่ด้วยกันมาตลอดจะมีความแข็งแกร่งที่น่าเกรงขามเพียงนี้!

กระทั่งเหมิงเหวยกับโม่ย่าก็ยังรู้สึกขนลุก เต๋าคือศาสตร์แห่งความเรียบง่าย ท่าโจมตีที่อีกฝ่ายซัดออกไปดูเรียบง่ายนัก แต่มันกลับแฝงไปด้วยเต๋ารู้แจ้งแห่งการสังหารอันดุดันอยู่ภายใน …เป็นสิ่งที่ไม่ใช่ใครก็สามารถทำได้!

กลับกัน สีหน้าของชวีถ่ากับชายร่างเตี้ยพลันดูจริงจังขึ้นมา เพราะพวกเขาย่อมเข้าใจมากกว่าผู้บ่มเพาะธรรมดาอื่น ๆ และยิ่งตกใจกับการโจมตีครั้งนี้มากกว่าใคร!

แค่กระบวนท่าเดียว บรรยากาศก็กลายเป็นเงียบสนิทและกดดันทันที

เป็นจังหวะนั้นเองที่เยว่หยาได้เอ่ยเสียงเย็นขึ้นมาด้วยสีหน้าขรึม “สหายน้อย ได้ยินมาว่าเผ่าของเจ้ามีทักษะขัดเกลากายาที่เรียกว่าคัมภีร์กำเนิดเต๋าแห่งนรกขุมที่เก้าอย่างนั้นหรือ?”

ชวีถ่าขมวดคิ้ว เหตุใดคนผู้นี้จึงรู้วิชาบ่มเพาะที่เป็นมรดกจากเผ่าเทพอสูรได้?

เขาเหลือบมองคนอื่น ๆ และเห็นว่าหัวหน้ากลุ่มคนอื่นก็มีสีหน้าประหลาดใจเช่นกัน แต่ไม่มีใครถึงกับตกตะลึงขนาดนั้น คนพวกนี้คงจะรู้ถึงตัวตนของคัมภีร์กำเนิดเต๋าแห่งนรกขุมที่เก้ามาตั้งแต่ต้นแล้ว!

เมื่อรู้เช่นนี้ สถานการณ์จึงแปรเปลี่ยนเป็นเลวร้ายที่สุด เขาเหลือบมองไปที่ชายร่างเตี้ยด้วยสายตาเย็นยะเยือกทันที

“โลกนี้ไร้ซึ่งความลับ ผู้นำชวีถ่า ข้าไม่ได้เป็นคนเผยแพร่ข้อมูลนี้ออกไป” ชายร่างเตี้ยมีสีหน้าสงบนิ่ง เพียงเอ่ยขึ้นช้า ๆ ผ่านกระแสปราณ

หลังจากนั้นก็เอ่ยเสียงเบาลงว่า “เยว่ยาย่อมมีจิตคิดร้ายเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นในจังหวะนี้ …ไม่แน่เขาอาจวางเหยื่อล่อ หมายใช้คนอื่นต่อสู้ให้ก็เป็นได้!”

“หึ!” ชวีถ่าคำรามเสียงเย็น ดวงตากะพริบปริบ ๆ และถึงจะไม่อยากยอมรับ แต่สิ่งที่ชายร่างเตี้ยกล่าวมาก็จริง เพราะหลังจากเยว่ยาเอ่ยถึงคัมภีร์กำเนิดเต๋าแห่งนรกขุมที่เก้า ก็ได้มีคนเดินออกไป!

“สหาย เจ้าส่งคัมภีร์กำเนิดเต๋าแห่งนรกขุมที่เก้ามา แล้วข้าจะให้เจ้าได้ตายครบส่วน คิดว่าอย่างไร?” ชายที่พูดคือชายร่างสูงเกือบสองจั้ง ผิวกายมีสีแดงเข้ม ท่าทางดูดุดัน มีกลิ่นอายรุนแรงไม่ใช่น้อย และน้ำเสียงที่เอ่ยออกมาก็ดังลั่นฟ้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]