บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 718

บทที่ 718 ปรมาจารย์ยง

บทที่ 718 ปรมาจารย์ยง

ห้องครัวของโรงเตี๊ยมเซียนระเริงครอบคลุมพื้นที่มากกว่าเก้าร้อยจั้ง ประกอบด้วยหน้าต่างใสกับโต๊ะสะอาดสะอ้านมากมาย

เตาไฟแถวแล้วแถวเล่ากระจายอย่างเป็นระเบียบ ภายในห้องครัวมีผู้คนนับพันพลุกพล่านไปมา ชิ้นเนื้อสัตว์อสูรสด ๆ ผลไม้ ผัก ธัญพืช ขวดเครื่องปรุงรสจำนวนมาก ของใช้ที่มีรูปทรงและขนาดแตกต่างกัน… ล้วนถูกจัดวางอยู่ภายในห้องครัวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

เปลวเพลิงวิญญาณสีสันต่าง ๆ พวยพุ่งออกมา ขณะที่เด็กฝึกงานและพ่อครัววิญญาณจำนวนมากกำลังวุ่นวายอยู่หน้าเตา ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนจำนวนมากอบอวลในอากาศ…

ที่นี่เหมือนกับโลกแห่งอาหารโอชะ ทันทีที่เข้ามา เพียงแค่ได้กลิ่นหอมที่อบอวลอยู่ในอากาศก็ทำให้น้ำลายสอเพราะความอยากอาหารขึ้นมา

ภายใต้การนำของผู้จัดการโรงเตี๊ยมเซียนระเริง เฉินซีกับไป๋กู้หนานได้เดินเข้ามายังที่แห่งนี้

ขณะมองภาพอันคุ้นเคยภายในครัวด้วยความสนใจ เฉินซีพลันรู้สึกคล้ายกับกลับไปสู่เมืองหมอกสน หวนคืน ณ ร้านอาหารนทีกระจ่าง

เมื่อหลายปีก่อน ไป๋หว่านฉิงเป็นผู้พาเขาเข้าสู่โลกแห่งการทำอาหาร ก่อนจะได้มารู้จักกับผู้เฒ่าหม่า เฉียวหนาน และเพ่ยเพ่ย รวมถึงผู้อาวุโสจี้อวี๋ ผู้อยู่ในคฤหาสน์จี้หยกยามอยู่ภายในห้องอันเงียบสงัดของร้านอาหารนทีกระจ่าง

เพียงพริบตา หลายปีได้ผ่านไป ร้านอาหารนทีกระจ่างได้กลายเป็นเถ้าถ่านหลังจากภัยพิบัติครั้งนั้น ในขณะที่เฉินซีเองก็ได้ออกจากเมืองหมอกสนมานานแล้วเพื่อมุ่งสู่แดนภวังค์ทมิฬเพียงลำพัง

เดิมทีเขาคิดว่าความทรงจำเหล่านี้จะจางหายไปจากจิตใจ เพราะถึงอย่างไร แม้ว่าช่วงชีวิตของชายหนุ่มในตอนนั้นจะยากลำบาก แต่มันก็ทั้งมั่งคั่ง สงบ ไร้ความกังวล …ก่อนที่ในท้ายที่สุดทุกอย่างจะจบลงด้วยโศกนาฏกรรม ร้านอาหารนทีกระจ่างถูกทำลายขณะที่ผู้เฒ่าหม่า เพ่ยเพ่ย และเฉียวหนานหายไปอย่างไร้ร่องรอย… พวกเขากลายเป็นรอยแผลที่ไม่สามารถขจัดออกจากหัวใจของชายหนุ่มได้!

แต่ตอนนี้เมื่อก้าวเข้าสู่ฉากอันคุ้นเคยนี้อีกครั้ง เฉินซีพลันสังเกตเห็นทันทีว่าเขาไม่สามารถหักห้ามความคิดดังกล่าวได้อีกต่อไป ก่อนจะหวนนึกถึงหลายสิ่งในอดีตอีกครั้ง

“บ้าอันใดเนี่ย! ยิ่งใหญ่ปานนี้เชียว? ข้าไม่คิดเลยว่าแม้แต่ห้องครัวจะหรูหราได้ขนาดนี้!” ไป๋กู้หนานที่อยู่ใกล้ ๆ อดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยความประหลาดใจ เขาถึงขนาดส่งเสียงกรีดร้องไปมา

เขาได้รับการประคบประหงมมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นจะเคยมาคลุกคลีอยู่ในห้องครัวได้อย่างไร? แม้กระทั่งตอนเติบใหญ่ ไป๋กู้หนานก็ได้สัมผัสกับบุคลลที่มีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่ ทว่าไม่มีพ่อครัววิญญาณ ผู้ฝึกสอน หรือนักพฤกษศาสตร์ในวงสังคมของเขาเลย

“อย่าได้ดูถูกพ่อครัววิญญาณไป อาหารทุกจานที่ทำโดยพ่อครัววิญญาณไม่ได้เพียงแค่มีรสชาติยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังเปี่ยมไปด้วยผลลัพธ์มหัศจรรย์จำนวนมาก เช่น การรวบรวมรากฐานเต๋า เสริมสร้างแก่นแท้ รักษาบาดแผลและอื่น ๆ อีกมากมาย”

“ยิ่งกว่านั้น การบ่มเพาะของพ่อครัววิญญาณทุกคนก็ยากพอ ๆ กับผู้บ่มเพาะ ทั้งเส้นทางที่สูงขึ้นไปก็ยากยิ่งกว่า เนื่องจากเส้นทางนี้ยากลำบากเกินไป ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีผู้บ่มเพาะนับไม่ถ้วนที่ก้าวเข้าสู่จุดสูงสุดของมหาเต๋า แต่ถึงอย่างนั้นน้อยคนนักที่จะบรรลุจุดสูงสุดในเต๋าแห่งการปรุงอาหารได้” เฉินซีอธิบายอย่างแผ่วเบา ท่าทีของเขาดูสงบอย่างผิดปกติ นั่นเพราะการตอบสนองของไป๋กู้หนานทำให้เขานึกถึงตัวเองในอดีต ครานั้นชายหนุ่มก็เมินเฉยต่อพ่อครัววิญญาณเหมือนกัน แต่เป็นไป๋หว่านฉิงที่อธิบายทุกสิ่งให้ฟัง

ขณะนั้น ไป๋กู้หนานพลันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะท่าทีของเฉินซีที่ปฏิบัติกับเขานั้นอ่อนโยนเกินไป ชายหนุ่มไม่ได้ต่อว่า ทั้งยังทำตัวดีผิดปกติจนถึงขั้นทำให้เขารู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลัง ‘…เหตุใดสหายที่ดุร้ายถึงกลายเป็นคนละคนไปได้? นี่เขายังเป็นตัวเขาจริงหรือ?’

ถึงแม้ไป๋กู้หนานจะครุ่นคิดเช่นนี้อยู่ในใจ แต่ก็ยังคงพยักหน้ารับ “ฮ่า ข้าไม่คาดคิดเลยว่าพี่เฉินจะครอบครองความรู้ลึกล้ำเช่นนั้น นับว่าเปิดหูเปิดตาข้ายิ่งนัก”

เฉินซีทราบว่าสหายคนนี้กำลังแสดงออกอย่างขอไปที ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วชำเลืองมองอีกฝ่าย “นี่ความพยายามของข้าสูญเปล่าอย่างนั้นหรือ?”

ไปกู้หนานยิ้มกว้าง ขณะที่ในใจรู้สึกโล่งอก เพราะนี่คือเฉินซีที่เขารู้จัก เฉินซีผู้อบอุ่นก่อนหน้านี้มันผิดปกติเกินไป…

หากเฉินซีรู้ว่าไป๋กู้หนานกำลังคิดอะไรอยู่ละก็ ชายหนุ่มก็คงจะด่าว่าไป๋กู้หนานเป็นคนชั่วช้าเลวทรามอย่างแน่นอน

อีกด้านหนึ่ง ผู้จัดการโรงเตี๊ยมเซียนระเริงที่เดินอยู่ข้างหน้าก็ลอบสังเกตเฉินซีและไป๋กู้หนานอยู่ตลอดเวลาโดยไม่รู้ตัว และในใจของเขาตกตะลึงยิ่งนัก

เขาได้รับข่าวมาก่อนหน้านี้ว่าชายหนุ่มหล่อเหลาตรงหน้าคือตัวตนไร้เทียมทานผู้เหมือนกับดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวันในโลกบ่มเพาะที่มีนามว่าเฉินซี

และถึงแม้จะไม่ได้เป็นสักขีพยานในการต่อสู้ที่อีกฝ่ายได้สังหารเยี่ยนสือซานก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ประหลาดใจเมื่อได้ทราบข่าว กระทั่งตอนนี้ก็ยังคงรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย

มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ‘เยี่ยนสือซาน’ คนคลั่งผู้มีชื่อเสียงที่สุดของนิกายวิถีกระแสสวรรค์ได้ตกตายในพื้นที่ของเขา และถึงแม้เยี่ยนสือซานจะตายด้วยเงื้อมมือของเฉินซี แต่ถ้านิกายวิถีกระแสสวรรค์สืบสาวเรื่องนี้ขึ้นมา มันจะต้องสาวมาถึงโรงเตี๊ยมเซียนระเริงอย่างแน่นอน

นี่จึงทำให้ผู้จัดการโรงเตี๊ยมปรารถนาที่จะละทิ้งโรงเตี๊ยมเซียนระเริง แล้วหลบหนีให้ห่างจากพายุอันน่าสะพรึงกลัวลูกนี้

ทว่าโรงเตี๊ยมเซียนระเริงแห่งนี้ตกทอดจากบรรพชนมาถึงตัวเขา มันตั้งอยู่ที่นี่มานานหลายพันปี นับเป็นมรดกตกทอดแสนสำคัญของตระกูล ฉะนั้นเขาจะทิ้งมันไปทั้งแบบนี้ได้อย่างไร?

อนิจจา ในอนาคตข้าคงต้องค่อย ๆ ก้าวต่อไปแล้วล่ะ…

ผู้จัดการลอบถอยหายใจยาวขณะหน้านิ่วคิ้วขมวด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]