บทที่ 719 การยั่วยุของปรมาจารย์ยง
บทที่ 719 การยั่วยุของปรมาจารย์ยง
เสียงแหบต่ำของปรมาจารย์ยงเปี่ยมด้วยความเด็ดขาด
ตอนนี้อีกฝ่ายคล้ายกับกลายเป็นคนละคน ใบหน้าผอมแห้งเผยแววศักดิ์ศรีอันหนักแน่นออกมา
‘บัดซบ!’ ผู้จัดการหวงกรีดร้องอยู่ในใจ เพราะทันทีที่สหายชราผู้นี้เผยด้านดื้อรั้นและกระด้างกระเดื่องออกมา เช่นนั้นอีกฝ่ายก็จะไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใดแม้จะต้องแลกด้วยชีวิต และไม่มีทางฟังคำแนะนำของผู้ใดทั้งสิ้น!
อันที่จริง เฉินซีเพียงถามเฉย ๆ เท่านั้น แต่ไม่นึกเลยว่ากระตุ้นการตอบสนองอันดุดันจากปรมาจารย์ยงเข้าให้ ชายหนุ่มจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว สายตาที่เหมือนกับสายฟ้าของเขาพลันกวาดมองชายชราดื้อรั้นด้วยความไม่ยินดีเล็กน้อย
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับใบหน้าซูบตอบ เส้นผมสีเทา และศักดิ์ศรีของปรมาจารย์ยง หัวใจของเฉินซีพลันสั่นสะท้านทันทีขณะหวนนึกถึงผู้เฒ่าหม่าด้วยความสับสน
ผู้เฒ่าหม่าเองก็มีความดื้อรั้นเช่นนี้ หลายครั้งที่ผู้เฒ่าหม่าปล่อยคำสบถออกมา แต่ชายหนุ่มรู้ว่าผู้เฒ่าหม่าไม่เคยยอมแพ้ในตัวเขา และถึงขั้นทุ่มความพยายามทั้งหมดให้กับเฉินซี!
เพียงชั่วอึดใจ สีหน้าของชายหนุ่มพลันสงบลง จากนั้นจึงประสานมือแล้วกล่าวว่า “ขอโทษที่เสียมารยาท”
เดิมที ทั้งผู้จัดการหวงและไป๋กู้หนานต่างคิดว่าเฉินซีจะระเบิดโทสะออกมา ทำให้ความตื่นเต้นแปรเปลี่ยนเป็นความกังวล แต่ทั้งคู่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นฝ่ายกล่าวขอโทษก่อน!
ดังนั้นทั้งคู่จึงต่างตกตะลึงระคนประหลาดใจเล็กน้อย
“ไปกันเถิด” สายตาของเฉินซีกวาดผ่านเตาที่ตั้งเรียงรายเป็นแถว ก่อนจะหายใจเข้า ตั้งใจจะจากไปในท้ายที่สุด
“เดี๋ยวก่อน!” ปรมาจารย์ยงกล่าวขึ้นทันที “เจ้าหนู ข้าขอถามเจ้าหน่อย เต๋าแห่งการปรุงอาหารในใจของเจ้าคืออะไร?”
“นี่นับว่าเป็นการทดสอบหรือไม่?” เฉินซีหยุดฝีเท้าทันที แต่ไม่ได้หันหลังกลับ
“พวกเจ้าอยากให้ชายชราถอยสักก้าวไม่ใช่หรือ?” ปรมาจารย์ยงถามอย่างขมขื่น สหายเฒ่าผู้นี้น่าสนใจยิ่ง เมื่อครู่มีรูปลักษณ์ผึ่งผายและซื่อตรง แต่ขณะนี้กลับมีท่าทีที่ผิดแปลกออกไป
“ตาเฒ่าขี้เมาคนนี้ช่างไร้เหตุผลเสียจริง!” ไป๋กู้หนานที่อยู่ไกล ๆ พึมพำด้วยเสียงทุ้มต่ำ
ทว่าปรมาจารย์ยงกลับยิ้มกว้าง ก่อนจะทำเหมือนไม่ได้ยินไป๋กู้หนาน ขณะจ้องมองเฉินซีที่อยู่ไกลออกไป
เฉินซีไม่คิดแม้แต่น้อยก่อนตอบว่า “เต๋าแห่งการปรุงอาหารคือมหาเต๋าที่สามารถทำให้ลิ้นไร้พันธนาการ และมอบชีวิตอันมั่งคั่งและเจิดจรัสให้แก่ผู้บ่มเพาะ ด้วยเหตุนั้น จุดหมายสุดท้ายที่พ่อครัววิญญาณทุกคนแสวงหาคือการไต่เต้าสู่จุดสูงสุดในชั่วชีวิตที่เหลืออยู่”
คำพูดเหล่านี้มาจากผู้เฒ่าหม่า เขายังจำได้ชัดเจนจนถึงทุกวันนี้ ในตอนนั้นที่ผู้เฒ่าหม่าพูดคำเหล่านี้ออกมา ดวงตาของอีกฝ่ายเผยให้เห็นถึงความร้อนแรงและความปรารถนาอันไร้พรมแดน
ผู้จัดการหวงประหลาดใจ เดิมทีเขาคิดว่าเฉินซีจะเพิกเฉยหรือพูดจาฉะฉานด้วยท่วงท่าสงบ ขณะอ้างอิงเนื้อหาในตำราที่ทำให้ปรมาจารย์ยงต้องตกตะลึง แต่ใครจะคาดคิดว่าคำตอบของเฉินซีจะเรียบง่าย ทั้งยังใช้น้ำเสียงที่ถ่อมตัวได้ถึงเพียงนี้
ลิ้นไร้พันธนาการ… ช่างเป็นการอธิบายที่วิเศษนัก!
แม้แต่เขาผู้เป็นคนนอกในเรื่องเต๋าแห่งการปรุงอาหาร ก็อดที่จะชื่นชมอยู่ในใจไม่ได้
ปรมาจารย์ยงตกตะลึงเช่นกัน จากนั้นเจ้าตัวเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะพยักหน้าออกมา “เจ้าใช้เตาของข้าได้”
เฉินซีหันกลับมาก่อนประสานมือให้ “ขอบคุณขอรับ”
ขณะที่พูด ชายหนุ่มก็มาถึงตรงหน้าเตาแล้ว และอดที่จะกระตือรือร้นไม่ได้ขณะมองขวดเครื่องปรุงรสและและอุปกรณ์รูปทรงต่าง ๆ ตรงหน้า
หากถามว่า เขามีงานอดิเรกใดนอกจากการบ่มเพาะ เช่นนั้นก็ต้องเป็นการสร้างยันต์กับการทำอาหารอย่างไม่ต้องสงสัย!
การสร้างยันต์เป็นวิธีหาเงินที่เขาทำมาตั้งแต่ยังเด็ก มันคือสิ่งเดียวที่ทำให้เขา ท่านปู่ และน้องชายยังใช้ชีวิตอยู่ได้ และตอนนี้ถึงแม้เฉินซีจะไม่ต้องสร้างยันต์เพื่อหาเงินอีกต่อไป แต่ความสนใจนั้นได้ฝังรากลึกไปถึงกระดูกตั้งแต่ยังเด็ก จนทำให้ตัวเขายังคงรักในการสร้างยันต์อยู่ดี
ในขณะที่การทำอาหารคือสิ่งที่เขาเรียนรู้มา และมันก็มีความทรงจำมากมายที่อัดแน่นไว้ ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะตัดใจเช่นกัน
ขณะนี้ เฉินซีไม่ได้ลงมือทำอาหารอย่างกังวลแม้แต่น้อย เขาเพียงหันไปเลือกวัตถุดิบจากด้านข้างอย่างสบาย ๆ
เมื่อเห็นสีหน้าของเฉินซี ผู้จัดการหวงอดไม่ได้ที่จะถามไป๋กู้หนานเสียงเบาว่า “สหายเต๋าเฉินซีมีความเชี่ยวชาญในเต๋าแห่งการปรุงอาหารจริงหรือ?”
เมื่อไม่นานมานี้ ชื่อเสียงของเฉินซีได้สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก ข่าวลือทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับเขาเชื่อมโยงกันจนตัดสินได้ว่าชายหนุ่มครอบครองพลังในการต่อสู้ที่น่าตกตะลึง ทว่ามันกลับไม่มีข่าวคราวว่าอัจฉริยะผู้ไร้เทียมทานคนนี้ได้ศึกษาเต๋าแห่งการปรุงอาหารเลย
ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้จัดการหวงรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องแปลกใหม่อันน่าอัศจรรย์ใจนัก
เพราะถึงอย่างไร พ่อครัววิญญาณก็ไม่อาจเทียบกับผู้บ่มเพาะได้ ด้วยมันเป็นเพียงความเชี่ยวชาญเสริมเท่านั้น เช่นเดียวกับสถานะและชื่อเสียงของพ่อครัววิญญาณที่ได้รับความเคารพน้อยกว่าเมื่อเทียบกับผู้บ่มเพาะ
ดังนั้นผู้จัดการหวงจึงสงสัยว่า เฉินซีเพียงแค่ศึกษาเต๋าแห่งการปรุงอาหารแบบผ่าน ๆ เท่านั้นใช่หรือไม่?
ทว่าแม้กระทั่งไป๋กู้หนานเองก็ประหลาดใจเช่นกัน จากนั้นเจ้าตัวพลันพ่นลมออกทางจมูกอย่างเย็นชาแล้วกล่าว “เคล็ดวิชาทั้งหมดมาจากแหล่งกำเนิดเดียวกัน พี่ชายของข้าคืออัจฉริยะอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้นเต๋าแห่งการปรุงอาหารจะเป็นปัญหาสำหรับเขาได้อย่างไร?”
แต่ถึงแม้จะพูดเช่นนี้ ทว่าเจ้าตัวก็อดที่จะพึมพำในใจไม่ได้ว่า ‘สหายเฉินซีผู้นี้สามารถทำได้จริงหรือ?’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...