บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 72

บทที่ 72 ค่ายกลพันพญาเหยี่ยว
บทที่ 72 ค่ายกลพันพญาเหยี่ยว

‘หรือนี่อาจจะเป็น…’

สีหน้าของเซวี่ยอวี้เคร่งขรึม เดิมทีเขาตั้งใจจะยื่นมือเข้าไปช่วย แต่ทักษะกระบี่ของเฉินซีนั้นว่องไวเหลือเกิน ความคิดที่จะเข้าช่วยเหลือราชาวานรทมิฬเพิ่งแวบเข้ามาในใจ ฉับพลันศีรษะของหยวนถงก็ถูกปลายกระบี่ของเฉินซีเสียบทะลุเสียแล้ว

‘เต๋าแห่งสายลม!’

‘คนผู้นี้ไม่เพียงสำเร็จทักษะกระบี่ขั้นเต๋ารู้แจ้งเท่านั้น เขายังได้ผสานเต๋าแห่งสายลมเข้ากับทักษะกระบี่ของตนด้วย เหตุนี้จึงทำให้สามารถสังหารหยวนถงได้อย่างรวดเร็วชนิดที่ไม่มีใครทัดเทียม!’

หัวใจของเซวี่ยอวี้เต้นเร็วขึ้น มันยากมากที่จะจินตนาการได้ว่าคนหนุ่มวัยนี้จะสามารถพัฒนาการฝึกบ่มเพาะพลังเต๋าแห่งการต่อสู้ไปสู่ขั้นเต๋าแห่งการรู้แจ้งได้อย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้ได้อย่างไร อีกฝ่ายเพิ่งจะบรรลุสู่ขอบเขตตำหนักอินทนิลเมื่อไม่นานเท่านั้น สุดท้ายแล้วส่วนใหญ่ผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลจะบรรลุเต๋าแห่งการต่อสู้ขั้นเอกภาพเท่านั้น

‘ตัวประหลาด!’

‘เด็กหนุ่มผู้นี้อาจเป็นตัวประหลาดที่มีความร้ายกาจยิ่งกว่าเหล่าอสูรอย่างเราเป็นแน่!’

ถึงตอนนี้เซวี่ยอวี้ไม่กล้าดูถูกเฉินซีอีกแล้ว

‘ราชาวานรทมิฬสิ้นชื่อไปแล้ว’

‘แต่นั่นมันหนึ่งในเจ็ดราชาอสูรผู้ยิ่งใหญ่เชียวนะ!’

ยามนี้สภาวะจิตของมู่ขุยไหวหวั่นไม่มั่นคงดุจกระแสน้ำที่มีขึ้นและลง ตั้งแต่ตอนที่เห็นเฉินซีสังหารราชาวานรทมิฬ เขาตื่นเต้นจนต้องกำหมัดแน่นพร้อมกับส่งเสียงตะโกนดังก้อง ถึงกระนั้นก็ยังรู้สึกว่าไม่อาจหาคำพูดใดมาทดแทนความตื่นเต้นที่เกิดขึ้นในหัวใจของเขาได้

เสียงลมภูเขาดังหวีดหวิว ขณะที่กลุ่มก้อนปราณอสูรดำทะมึนยังคงเคลื่อนไหวเป็นระลอก แต่การตายของราชาวานรทมิฬหยวนถง ทำให้อสูรสัตว์อสูรทั้งหลายตกตะลึงสุดขีด

พวกมันจ้องมองศีรษะของราชาวานรทมิฬในมือของชายหนุ่มเป็นจุดเดียว เหล่าอสูรต่างน้อมรับกฎที่ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดและยกย่องความแข็งแกร่งด้วยความหวาดกลัว ดังนั้นมันจึงมองว่าเฉินซีน่าเกรงขามและฉายแววความนับถือในแววตา

“มันสมควรตายแล้วเพราะเคยทรมานภูตผีดวงวิญญาณอสูรมามากมายนัก!” เสียงกล่าวอย่างไม่ใส่ใจไยดีลอยมาในอากาศ เฉินซีเหลือบตามองศีรษะของราชาวานรทมิฬที่เขาขยุ้มไว้ในมือ ขณะพิจารณาดูสีหน้าประหลาดใจระคนไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น ซึ่งปรากฏในดวงตาแดงก่ำปานโลหิตของหยวนถงก่อนที่มันจะตาย ชายหนุ่มส่ายหน้าและบดขยี้ศีรษะของหยวนถงจนเกิดเสียง ‘กร๊อบ’

สยงผีเคยถูกหยวนถงบดขยี้ศีรษะจนแหลกเละมาแล้ว ดังนั้นเฉินซีจึงตั้งใจที่จะบดขยี้ศีรษะของมันให้แหลกเละไปกับมือของตนเอง การที่ทำเช่นนี้ก็ทำให้ความรู้สึกผิดในใจของเฉินซีลดลงบ้างแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น สิ่งที่พอจะทำได้คือเก็บเครื่องเตือนความจำของสยงผีที่ตายไปเมื่อเนิ่นนานมาแล้ว

“มู่ขุย เจ้าช่วยรวบรวมสมบัติล้ำค่าของราชาวานรทมิฬด้วย” เฉินซีกวาดสายตามองรอบบริเวณ ก่อนจะหันไปสั่งการเสียงราบเรียบ จากนั้นเขาจึงมองไปที่ราชาเหยี่ยวสายฟ้าซึ่งยืนดูอยู่ห่างไกลออกไป

“บอกตามตรง พลังของเจ้าเหนือกว่าที่ข้าคิดเอาไว้มาก” เซวี่ยอวี้ราชาเหยี่ยวสายฟ้ากล่าวเปรยพลางยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ “อย่างไรก็ตาม เสียใจด้วยที่ข้าต้องบอกว่า เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าอยู่ดี”

เฉินซีไม่ตอบโต้ ชายหนุ่มได้แต่จ้องไปที่ราชาเหยี่ยวสายฟ้าด้วยสายตาแน่วนิ่งและรับรู้ถึงกระแสกดดันหนักหน่วงที่แผ่ออกมาจากอสูรตรงหน้า พลังกดดันครั้งนี้แตกต่างไปจากพลังกดดันที่เขารับรู้ได้ตอนเผชิญหน้ากับราชาวานรทมิฬอย่างสิ้นเชิง

‘ดูเหมือนว่าราชาอสูรตนนี้จะฝึกบ่มเพาะพลังถึงขอบเขตตำหนักอินทนิลชั้นหกดาราแล้วสินะ’

เฉินซีจำได้ว่ามู่ขุยเคยเอ่ยถึงชื่อนี้มาก่อน ในบรรดาราชาอสูรยิ่งใหญ่ทั้งเจ็ดตนนั้น ราชาเหยี่ยวสายฟ้าเซวี่ยอวี้แข็งแกร่งกว่า น่ากลัวกว่าราชาวานรทมิฬกับราชาอสรพิษอินทนิลแห่งป่าตะวันลับ เนื่องจากเซวี่ยอวี้ซึ่งเคยเป็นเหยี่ยวเหล็กทองคำมีความว่องไวมากเป็นพิเศษ อีกทั้งยังสามารถสะสมพลังอัสนีไว้ในร่างกายได้ด้วย จึงยิ่งเพิ่มความน่าเกรงขามให้แก่ราชาอสูรผู้นี้อย่างมหาศาล

ถึงกระนั้นมันก็ไม่ได้ทำให้เฉินซีรู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด ทั้งต้องการจะลองดูด้วยซ้ำว่าที่สุดแล้วพลังความว่องไวของราชาเหยี่ยวสายฟ้าหรือเคล็ดวาตะเหินทะยานของเขา ใครจะเหนือกว่ากัน

“ก่อนหน้าถ้าข้าร่วมมือกับวานรเฒ่าเจ้าก็คงไม่รอดมาถึงป่านนี้ ดังนั้นจงจำไว้ว่าการที่เจ้ายังคงมีชีวิตอยู่มันก็ด้วยเหตุผลง่าย ๆ ว่าเป็นเพราะข้าต้องการให้เจ้าส่งกระบี่ไผ่ทองคำนิลมาให้ข้าอย่างไรล่ะ” เซวี่ยอวี้ไม่ได้สนใจจิตสังหารที่สะท้อนในดวงตาของเฉินซี ทั้งยังพูดออกมาอีกว่า “ข้าไม่อยากให้เจ้าตายตอนนี้ แต่ถ้ายังขืนดื้อรั้น เห็นทีข้าคงต้อง…”

“หนวกหู!” เฉินซีตวาดกลับด้วยเสียงอันดังขัดจังหวะคำพูดของราชาเหยี่ยวสายฟ้าทั้งที่ฝ่ายนั้นยังพูดไม่จบ ร่างของชายหนุ่มไหววูบขณะที่กระบี่ไผ่ทองคำนิลตวัดตัดร่างราชาเหยี่ยวสายฟ้าเซวี่ยอวี้ทันที

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

บังเกิดเสียงกระแสลมตีเข้าหากัน จากนั้นกลุ่มก้อนลำแสงกระบี่ก็ทะลวงขึ้นสู่ท้องฟ้า และถักทอเป็นตาข่ายขนาดมหึมาแผ่กระจายออกไปด้วยปราณกระบี่มากมายนับไม่ถ้วน

กระบวนท่าที่สองของเคล็ดวิชากระบี่หยั่งรู้วาตะลอยละล่อง ‘สายฝนโปรยปราย’!

กระบวนท่านี้กว้างขวางดุจฝนโปรยปรายและซ่อนความอำมหิตไว้ภายใน จึงเหมาะที่จะนำมาใช้จัดการราชาเหยี่ยวสายฟ้าผู้เชี่ยวชาญด้านความรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง

ถึงแม้ราชาเหยี่ยวสายฟ้าจะดูเหมือนไม่ได้ระวังตัว ทว่าอันที่จริงเขาเฝ้าระวังอยู่โดยตลอด ทันทีที่เห็นเฉินซีออกเคลื่อนไหว ราชาเหยี่ยวสายฟ้าพลันกลายร่างเป็นสายฟ้าแลบทะยานไปในระยะไกลพร้อมเสียงดัง ‘ขวับ’ พริบตาเดียวเขาก็ได้ปรากฏตัวห่างออกไปไกลกว่าร้อยจั้ง

“เฉินซี เก่งจริงเจ้าก็ไล่ตามข้าให้ทัน!” เซวี่ยอวี้ราชาเหยี่ยวสายฟ้าคำรามพลางหัวเราะเย้ยหยันจากที่ไกลออกไปร้อยจั้ง “ข้าจะบอกความจริงให้ก็ได้ ไม่กี่วันก่อนพวกเราจับตัวผู้บ่มเพาะมนุษย์แปดคนมาในนั้นมีคนที่ชื่อตู้ชิงซีกับมู่หลงเว่ย ทั้งสองเป็นสหายของเจ้ามิใช่หรือ ถ้าอยากจะช่วยพวกเขาก็จงยอมแพ้เสียหรือไม่ก็ส่งกระบี่ไผ่ทองคำนิลมาให้ข้าแต่โดยดี!”

‘ผู้บ่มเพาะพลังทั้งแปด… ตู้ชิงซี…’

เฉินซีชะงักไปด้วยความตกตะลึง ขณะเดียวกันในห้วงคำนึงปรากฏภาพในดินแดนรกร้างใต้พิภพ ตู้ชิงซี ต้วนมู่เจ๋อและซ่งหลิน ทุกคนเป็นสหายของเขา แม้จะเกิดความเข้าใจผิดในหมู่พวกเขาบ้าง หากเมื่อได้ยินว่าคนเหล่านั้นกำลังตกที่นั่งลำบาก เฉินซีก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระวนกระวายใจ

‘ไม่เป็นไร เรื่องในห้องโถงตำราภายในที่พำนักเซียนกระบี่ ข้ายังเป็นหนี้พวกเขาอยู่ ข้าเป็นสาเหตุทำให้พวกเขาต้องต่อสู้อย่างชุลมุนจากการขาดความยับยั้งชั่งใจของข้า เวลานี้พวกเขากำลังตกอยู่ในอันตราย ข้าจะต้องเข้าไปช่วยพวกเขาอีกครั้งเพื่อเป็นการไถ่โทษ ความผิดที่ข้าเคยก่อไว้ ต่อไปภายหน้า…พวกเราจะได้แยกย้ายทางใครทางมัน!’

ครู่หนึ่งที่ความคิดนี้แวบเข้ามาในใจ เฉินซีก็ทะยานออกไปทันที ที่ด้านหลังปรากฏปีกคู่หนึ่งงอกออกมาขณะที่เขาไล่ตามราชาเหยี่ยวสายฟ้าที่นำหน้าไปไกล

“เจ้ามันรนหาที่ตายแท้ ๆ! เชื้อสายเหยี่ยวของข้าเป็นราชาแห่งอากาศ!” เซวี่ยอวี้ ราชาเหยี่ยวสายฟ้าบิดยกมุมปากเย้ยหยัน แววตาแฝงความอำมหิตเลือดเย็น

ฟิ้ววว! ฟิ้ววว!

ฝ่ายหนึ่งไล่ฝ่ายหนึ่งหนี การไล่ล่าติดพันของเฉินซีและเซวี่ยอวี้ดูเหมือนสายฟ้าสองสาย ก่อนที่ทั้งสองจะหายลับไปที่เส้นขอบฟ้าเพียงชั่วพริบตา

‘ผู้อาวุโสเฉินซีจะต้องปลอดภัยแน่!’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]