บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 734

บทที่ 734 กระทะเซียนเก้าลึกล้ำ

บทที่ 734 กระทะเซียนเก้าลึกล้ำ

ทั่วทั้งห้องโถงเงียบสนิท

ส่วนเฉินซีเพียงกลับไปยังที่นั่งก่อนหน้านี้ของเขาอย่างเงียบ ๆ และสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงในดวงจิตแห่งเต๋าของตนอย่างระมัดระวัง

‘จิตใจฟุ้งซ่าน’ จานนี้ทำให้เขาเข้าใจถึงพลังลึกลับที่มาจากดวงจิตแห่งเต๋าได้ในบัดดล และแม้มันจะดูเหมือนภาพลวงไม่มีตัวตน หากทว่ามันกลับปรากฏอยู่ทุกหนทุกแห่ง!

ชายหนุ่มสัมผัสได้ราง ๆ ว่า ‘พลังงานลึกลับ’ นี้น่าตกใจอย่างยิ่ง และไม่ได้ด้อยไปกว่าปราณแท้ ปราณจ้าววิญญาณ และจิตสัมผัสเทพ ทั้งยังถือเป็นพลังงานประเภทหนึ่งที่มาจากหัวใจ!

ดังคำกล่าวที่ว่า ‘ใจมนุษย์นั้นยากแท้หยั่งถึง’ เช่นนั้นแล้วการบ่มเพาะก็เหมือนการบ่มเพาะจิตใจ อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของชีวิตทำให้สรรพสัตว์เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในใจอยู่ตลอดเวลา

น่าเสียดาย …มีคนน้อยมากที่รู้วิธีจับพลังงานประเภทนี้

เพราะมันเป็นภาพลวงไม่มีตัวตน จนแม้แต่เฉินซีก็สัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของพลังงานลึกลับนี้อย่างแผ่วเบาเท่านั้น และแม้ดวงจิตแห่งเต๋าของเขาจะทะลวงผ่านแล้ว ทว่าชายหนุ่มก็ยังนับว่าห่างไกลจากการควบคุมมันมากนัก

“ทักษะระดับเทพ!” ในขณะที่เฉินซีกำลังรับรู้ถึงผลประโยชน์ของเขาในขณะที่ทำสมาธิ เสียงที่เต็มไปด้วยอารามตกใจก็ทำลายความเงียบและสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งห้องโถง ทำให้ทุกคนดูเหมือนกับตื่นจากความฝันและหายจากอาการตกใจอย่างพร้อมเพรียงกัน

ส่วนคนที่ถอนหายใจและกล่าวออกมานั้นคือเถาเจิ้นเทียน …ในขณะนี้ เจ้าตัวมีท่าทางแปลกประหลาด ในขณะที่สายตาก็ทอดมองไปยังอาหารที่ปรุงแล้วจานนั้นอย่างไม่คิดปิดบังความชื่นชมแม้แต่น้อย

ในขณะนี้ เถาเจิ้นเทียนหยุดคิดเกี่ยวกับความขุ่นเคืองใจ ผลประโยชน์ หรือความสูญเสียที่เกิดขึ้นระหว่างเผ่าเทาเที่ยกับเฉินซี เพราะหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชมต่ออาหารจานนี้!

…ในฐานะที่เป็นลูกหลานของสัตว์ร้ายในยุคบรรพกาล ‘เทาเที่ย’ ความรักที่ลึกซึ้งต่ออาหารอันโอชะได้ไหลเวียนอยู่ในกระดูกของเขาเช่นกัน!

“อาหารจานนี้ใช้ส่วนผสมเพียงสี่ชนิดเท่านั้น แต่กลับสามารถปรุงเป็นอาหารอันโอชะที่สมบูรณ์แบบ ระดับความสำเร็จในเต๋าแห่งการปรุงอาหารนี้กล่าวได้ว่ายอดเยี่ยมจริง ๆ!” ทุกคนถอนหายใจอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสายตาที่พวกเขาจ้องไปยังเฉินซีก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและเหลือเชื่อ ซึ่งมันซับซ้อนมาก ด้วยเหตุนี้ ผู้ใดจะไปคาดคิดว่า… ชายหนุ่มผู้นี้จะสามารถทำสิ่งนี้ให้สำเร็จได้?

ใบหน้าของผู้อาวุโสของเผ่าเทาเที่ยทั้งหมดพลันมืดมนลงเล็กน้อย แต่พวกเขาไม่มีทางเลือก นอกจากต้องยอมรับในใจว่า อาหารจานนี้ที่ชายหนุ่มปรุงนั้นงดงามและสมบูรณ์แบบจริง ๆ!

ในขณะนี้ ปรมาจารย์ชิวเฟิ่งรู้สึกกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับอันดับในการแข่งขันของเขา สีหน้าของเจ้าตัวพลันดูไม่แน่นอน ขณะที่มองไปยังจานอาหาร ‘จิตใจฟุ้งซ่าน’ ที่เฉินซีปรุงอย่างวิตกกังวล

เขากล่าวอย่างมั่นใจเกี่ยวกับการทำอาหารจนถึงจุดที่ ‘เปลวไฟสามารถทะยานขึ้นจากน้ำ แต่มันไม่ได้กระจายออกไป และหยินก็สอดประสานกับหยาง ในขณะที่หยางทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า นั่นคือวิธีการปรุงอาหารที่เขารู้สึกว่าสมบูรณ์แบบที่สุด และวิธีนี้ก็ได้รับการยอมรับจากพ่อครัววิญญาณคนอื่น ๆ ในห้องโถงเช่นกัน

แต่ในเวลานี้เอง เจ้าตัวพลันสังเกตเห็นว่าวิธีการปรุงอาหารที่เฉินซีใช้นั้นเหนือกว่าตนมาก และมันก่อตัวเป็นรูปแบบการผสานกันที่สมบูรณ์ระหว่างน้ำกับไฟ ในขณะที่หยินกับหยางไหลเวียน …ความสำเร็จในเต๋าแห่งการปรุงอาหารที่ไม่เหมือนใครของเฉินซีนี้ ทำให้เขารู้สึกอับอายในความด้อยกว่าของตนเอง!

สุดท้าย การแข่งขันรอบที่สองสิ้นก็สิ้นสุดลงเสียที และมันก็ถึงเวลาประกาศผลรอบต่อไปแล้ว!

เถาเจิ้นเทียนนำผู้อาวุโสทั้งหมดเริ่มชิมอาหารนับร้อยไปทีละจานก่อนที่จะตัดสิน

แน่นอนว่าคำตัดสินจะทราบได้ก็ต่อเมื่อผ่านการชิมอาหารทั้งหมด ก่อนที่พ่อครัววิญญาณ ‘บางส่วน’ จะได้รับการคัดเลือกเข้าสู่รอบสุดท้าย

ในช่วงเวลานี้ พ่อครัววิญญาณทุกคนที่อยู่ในห้องโถงแทบทนไม่ได้ เพราะแม้ว่าเถาเจิ้นเทียนและคนอื่น ๆ จะชิมอาหารกันไปแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่ได้เผยคำตัดสินออกมา จึงทำให้ทุกคนไม่อาจสงบใจได้

ไม่ทันไรก็ถึงตาของเฉินซี

เมื่อพวกเขาตั้งใจจะลองชิมอาหารของเฉินซี เถาเจิ้นเทียนก็พลันกล่าวขึ้นทันที “อย่าให้สภาพจิตใจของเจ้าส่งผลต่อการรับรสของลิ้น”

ผู้อาวุโสคนอื่นตกตะลึง บางคนพยักหน้าอย่างจริงจัง ในขณะที่บางคนยังคงเฉยเมย

ในขณะเดียวกัน สายตาของพ่อครัววิญญาณคนอื่น ๆ ในห้องโถงก็ประสานกันเป็นหนึ่งเดียว เพราะพวกเขาต้องการฟังคำตัดสินของอาหารจานนี้!

หลังจากนั้นภาพที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงก็พลันปรากฏขึ้น

ในบรรดาผู้อาวุโสที่ได้ชิมอาหารจานนี้ บางคนแสดงสีหน้ามึนเมา ขณะที่พวกเขาชื่นชมมันอย่างล้นหลามและปรบมือราวกับว่าพวกเขาได้รับตับมังกรหรือไขกระดูกวิหคอมตะ

ในทางกลับกัน ผู้อาวุโสอีกส่วนหนึ่งต่างแสดงท่าทีรังเกียจและถ่มน้ำลายราวกับกำลังกินแมลงวัน ราวกับว่ามันรสชาติแย่มากสำหรับพวกเขา และสีหน้าของพวกเขาก็ดูจะไม่ได้เสแสร้ง

เรื่องนี้ทำให้ทุกคนยิ่งอยากรู้มากขึ้น มันเป็นเพียงอาหารง่าย ๆ แต่ปฏิกิริยาของทั้งสองกลุ่มกลับแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวได้อย่างไร?

ทุกคนประหลาดใจและงุนงง

มีเพียงใบหน้าของเฉินซีเท่านั้นที่ยังคงสงบนิ่งและไม่มีแรงกระเพื่อมแม้แต่น้อย ซึ่งดูเหมือนเขาจะคาดการณ์ได้ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น

เถาเจิ้นเทียนขมวดคิ้วและรู้สึกโกรธมากในใจ เขาเพิ่งชิมอาหารเมื่อครู่นี้ และรสชาติของมันก็ยอดเยี่ยมมาก จนเหนือล้ำยิ่งจานอื่นอย่างแน่นอน ถึงขนาดที่เขาอดไม่ได้ที่จะชิมอีกคำหนึ่ง

และแม้จะเกลียดชังเฉินซีเช่นกัน แต่เถาเจิ้นเทียนต้องยอมรับว่าทักษะการทำอาหารของอีกฝ่ายได้ปราบต่อมรับรสของเขาในการแข่งขันครั้งนี้เสียอยู่หมัด!

แต่หลังจากเตือนพวกผู้อาวุโสอย่างชัดเจนว่าอย่าถูกอารมณ์ส่วนตัวชักนำ ผู้อาวุโสเหล่านี้กลับไม่ฟังและจงใจต่อต้าน …ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังวิจารณ์อาหารจานนี้ว่าเป็นขยะ แล้วเขาจะไม่โกรธเคืองได้อย่างไร?

“พวกเจ้าพอได้แล้ว!” เถาเจิ้นเทียนโกรธจัดและตวาดด้วยเสียงทุ้มต่ำ

“ท่านผู้นำ เราไม่วิจารณ์โดยไม่มีมูลความจริงอย่างแน่นอน รสชาติที่เราได้ชิมนั้นแย่มาก และมีรสชาติเหมือนขี้เลื่อยอย่างไรอย่างนั้น” ผู้อาวุโสสี่ไม่ยอมแพ้และกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

“เจ้ากล้าแก้ตัว!?” เถาเจิ้นเทียนโกรธจนริมฝีปากสั่นระริก เหตุใดคนโง่เขลาเหล่านี้ถึงไม่รู้จักละอายใจ? มีพ่อครัววิญญาณมากมายที่เฝ้าดูอยู่ที่นี่!

“ท่านผู้นำ เราสาบานได้!” ในขณะนี้ ไม่ใช่แค่ผู้อาวุโสสี่ แม้แต่ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]