บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 735

บทที่ 735 เขาวิญญาณนิรันดร์

บทที่ 735 เขาวิญญาณนิรันดร์

เมื่อเฉินซีกลับมายังที่พัก มันก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว

ทว่าเหมิงเหวยกับโม่ย่าต่างพาพวกเด็ก ๆ ไปเที่ยวตามท้องถนน เพราะเฉินซีได้ให้สมบัติบางส่วนแก่พวกเขา และกำชับให้ทุกคนซื้อหาสิ่งของใดก็ได้ตามต้องการ

อาซิ่วเองก็ติดตามพวกเขาไปเช่นกัน เพราะหญิงสาวชุดเขียวที่ยิ้มตลอดเวลาคนนี้ ย่อมไม่พลาดโอกาสที่จะหาความสนุก

ที่พักแห่งนี้จึงตกอยู่ในความเงียบงัน มีเพียงเฉินซีเท่านั้นที่ยังคงอยู่ที่นี่

เขานั่งจับเจ่าอยู่คนเดียวในห้อง ขณะมองไปยังกล่องทองสัมฤทธิ์ตรงหน้าด้วยสีหน้าแปลกประหลาดอย่างสุดจะพรรณนา

กล่องทองสัมฤทธิ์นี้มีความยาวเพียงสิบสองชุ่น มันโบราณและเยียบเย็น พื้นผิวของมันถูกจารึกด้วยลวดลายที่ซับซ้อนและหนาแน่นของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว พืช แมลง ฉากการเซ่นสังเวยโบราณ หรือปราชญ์ที่กำลังถ่ายทอดเต๋า และอื่น ๆ อีกมากมาย

กล่องทองสัมฤทธิ์นี้ถูกผนึกด้วยกฎเกณฑ์บางอย่าง ทำให้ไม่สามารถเปิดได้ เว้นเสียแต่จะมีเซียนสวรรค์เป็นผู้เปิด

นี่คือวิญญาณศัสตราของกระทะเซียนเก้าลึกล้ำ และชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ได้มอบมันให้กับเฉินซีด้วยตัวเอง หลังจากกล่าวคุยกับชายหนุ่ม

เนื้อหาของการสนทนานั้นเรียบง่ายมาก ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่เรียกตนเองว่า ‘ตงเย่’ จากนั้นเขาก็เข้าประเด็นและมอบกล่องทองสัมฤทธิ์นี้ให้แก่ชายหนุ่ม

ในเวลานั้น ตงเย่กล่าวเพียงประโยคเดียวว่า “เจ้ามีกลิ่นอายของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เงาทมิฬและจักพรรดิมด ชะตาลิขิตให้เรามาพบกัน เจ้าจึงต้องนำกล่องทองสัมฤทธิ์ใบนี้ไป”

หลังจากนั้นเฉินซีก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจำต้องรับของขวัญอันกะทันหันนี้ไว้

เขายังถามอีกฝ่ายด้วยว่า มีสิ่งใดอยู่ในกล่องทองสัมฤทธิ์นี้ และเหตุใดตงเย่ถึงอยากให้มันกับตน

ซึ่งคำตอบที่ชายหนุ่มได้รับนั้นเรียบง่ายมาก ปรากฏว่ากล่องทองสัมฤทธิ์ใบนี้บรรจุวิญญาณศัสตราที่กลับชาติมาเกิด ซึ่งได้รับการหล่อเลี้ยงโดยกระทะเซียนเก้าลึกล้ำ และมันอยู่ในห้วงนิทรา ขณะที่รอผู้มีชะตาต้องกันมาปลุก

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ กล่องทองสัมฤทธิ์ใบนี้บรรจุกระทะเซียนเก้าลึกล้ำใบที่สองเอาไว้!

ส่วนเหตุผลที่ตงเย่มอบมันให้แก่เฉินซี ก็เพราะว่าเขามั่นใจว่า ในเมื่อต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เงาทมิฬและมรดกของจักรพรรดิมดยอมรับเฉินซี ชายหนุ่มย่อมมีความสามารถในการปกป้องกล่องทองสัมฤทธิ์นี้นั่นเอง!

ตัวเฉินซีในเวลานี้ก็ตกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากวิญญาณศัสตราของกระทะเซียนเก้าลึกล้ำได้กลับชาติมาเกิดและหลับลึกอยู่ในกล่องทองสัมฤทธิ์ แล้วเช่นนั้นใครคือตงเย่กันแน่?

แน่นอนว่า ตงเย่ย่อมไม่ได้ปิดบังตัวตนของเขา และบอกเฉินซีโดยตรงว่าตัวเขาเป็นเพียงวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ ผู้ไม่เต็มใจที่จะขึ้นสู่ภพเซียน และไม่ต่างอันใดกับผู้ละทิ้งสวรรค์

ส่วนเหตุผลที่ไม่ยอมขึ้นไป อีกฝ่ายไม่ได้กล่าวออกมา และปิดปากแน่นเหมือนขวดโหล

ทว่าขณะที่กำลังส่งเฉินซีออกไป จู่ ๆ ตงเย่ก็กล่าวคำที่เข้าใจยากและคลุมเครือว่า “ในช่วงกลียุคของทั้งสามภพครั้งนี้ เหล่าทวยเทพนั้นไร้ค่า สรรพชีวิตทั้งหลายไม่ต่างจากมดปลวก มันเลวร้ายยิ่งกว่าทุกคราในอดีต และข้าหวังว่าเจ้าจะดูแลตัวเองได้”

ในเวลาไม่นาน เฉินซีพลันได้สติจากการครุ่นคิด และวางกล่องทองสัมฤทธิ์อย่างระมัดระวัง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ “ภัยพิบัติเช่นไรกันแน่ที่จะเกิดเป็นกลียุคของทั้งสามภพในครานี้?”

เดิมที การเดินทางมาเมืองเทาเที่ยของเขาเป็นเพียงการเดินทางธรรมดา ๆ เพื่อเข้าร่วมการจัดอันดับพ่อครัววิญญาณทองคำ แต่ชายหนุ่มกลับบังเอิญไปพบศิษย์พี่ใหญ่หั่วโม่เลยซึ่งตกเป็นทาส ทำให้เกิดการสนทนาที่แปลกประหลาดและเหลือเชื่อกับ ‘วิญญาณศัสตรา’ ของกระทะเซียนเก้าลึกล้ำ และได้รับกล่องทองสัมฤทธิ์มา…

เรื่องทั้งหมดนี้ช่างยากจะเชื่อและดูราวกับเหนือจริง!

สิ่งนี้ทำให้เฉินซียังคงรู้สึกราวกับว่า มือที่มองไม่เห็นกำลังควบคุมทุกสิ่ง ในขณะที่เขาเป็นเหมือนแมลงเม่าซึ่งถูกมือนั้นปัดเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ

เมื่อคิดอย่างใจเย็น มันก็แยกแยะได้ง่ายว่า เหตุผลที่ตงเย่สนทนากับเขาและมอบกล่องทองสัมฤทธิ์ให้เขานั้น …ที่แท้ไม่ใช่สิ่งใดอื่น ล้วนเป็นเพราะอีกฝ่ายสังเกตเห็นกลิ่นอายของจักรพรรดิมดที่สูงส่งและต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เงาทมิฬบนตัวเฉินซี!

ส่วนกล่องทองสัมฤทธิ์นั้น เว้นแต่ว่าวิญญาณศัสตราของกระทะเซียนเก้าลึกล้ำที่กลับชาติมาเกิดจะตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ มิฉะนั้น เขาก็ไม่มีทางที่จะเปิดมันออก

สรุปแล้ว ชายหนุ่มได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับผู้เฒ่าหม่าและปรมาจารย์ยงโดยการเดินทางมายังเมืองเทาเที่ยแห่งนี้ ดังนั้นจึงถึงเวลาที่เขาจะจากไปแล้ว

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการจัดอันดับพ่อครัววิญญาณทองคำ และพ่อครัวในสามอันดับแรกจะต้องแข่งขันตัดสินในรอบสุดท้ายนี้

โดยการแสดงทักษะการทำอาหารในครานี้จะถูกจัดขึ้น ณ จัตุรัสขนาดใหญ่หน้าพระราชวังเทาเที่ย และมันได้ดึงดูดผู้คนนับไม่ถ้วนให้มาเข้าชม กระทั่งคนทั้งเมืองต่างก็มารับชมเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากและเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย

อย่างไรก็ตามทุกคนกลับรู้สึกงุนงง เพราะพวกเขาไม่เห็นร่างของเฉินซีปรากฏตัว จนกระทั่งการแข่งขันได้เริ่มขึ้น

ท้ายที่สุดแล้ว ชื่อของเฉินซีได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองในช่วงสองวันที่ผ่านมา เนื่องจากข่าวที่ชายหนุ่มเข้าร่วมในการจัดอันดับพ่อครัววิญญาณทองคำ และได้อันดับที่หนึ่งในสิบอันดับแรก จนทำให้ทั้งเมืองตกตะลึง!

อาจกล่าวได้ว่า คนส่วนใหญ่ที่มาชมการแข่งขันในวันนี้ล้วนมีความคิดที่ต้องการเห็นว่า เฉินซีมีหน้าตาเป็นอย่างไร และเขาสามารถครอบครองความสำเร็จในพลังต่อสู้และเต๋าแห่งการปรุงอาหารที่น่าทึ่งเช่นนี้ได้อย่างไร

แต่จนถึงตอนนี้ ไม่ต้องกล่าวถึงได้เห็นหน้าค่าตา เพราะไม่มีแม้แต่เงาของเจ้าตัว แล้วมันเกิดสิ่งใดขึ้น?

ฝูงชนเริ่มกระสับกระส่าย พลันหันมองไปทางซ้ายทางขวา จิตใจของพวกเขาไม่ได้จดจ่ออยู่ที่การแข่งขันแม้แต่น้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]