บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 76

บทที่ 76 สถานการณ์เปลี่ยนไป
บทที่ 76 สถานการณ์เปลี่ยนไป

ภายในถ้ำที่ไม่สะดุดตาในส่วนลึกของเทือกเขาแดนเถื่อนตอนใต้

ชายชราผมสีเงินสวมชุดสีครามซึ่งมีริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้ากำลังนั่งสมาธิอยู่ ที่เบื้องหน้าเขามีเหรียญทองแดงที่แตกหัก กลิ่นอายอันคลุมเครือ ลึกลับ และเยือกเย็นได้แผ่กระจายออกมาจากมัน

“ฉุดลากผ่านนรกทั้งเก้าชั้นแปรเปลี่ยนกลายเป็นมังกร… อันที่จริงมันเป็นสัญลักษณ์ของมังกรที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในน้ำลึกเพื่อรอวันที่จะทะยานไปสู่ฟากฟ้า!”

ซี่! ซี่!

ขณะที่เขาจ้องมองไปยังเหรียญทองแดงที่แตกหักบนพื้น ประกายวาวโรจน์ที่มิอาจอธิบายได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่มีรอยย่นและผอมซูบของชายชรา เหนือศีรษะของเขา ทิวทัศน์ลึกลับต่าง ๆ ปรากฏขึ้นอย่างเลือนรางราวกับสายฟ้าฟาด รวมตัวกันเป็นนกกระเรียนมงกุฎแดง มังกร อาชาที่ควบทะยาน และสิ่งอื่น ๆ ที่เปี่ยมด้วยสติปัญญา โดยมีแสงศักดิ์สิทธิ์ลึกลับและลึกซึ้งโคจรรอบตัวมัน

“เฒ่าเต่า ข้าเพิ่งได้รับข่าวว่าราชาวานรทมิฬและราชาเหยี่ยวสายฟ้าถูกฆ่าตายแล้ว!” ในทันใดนั้น เสียงแผ่วเบาคล้ายเสียงของหญิงสาวก็ลอดเข้ามาในถ้ำ จากนั้นชายหนุ่มรูปงามผู้มีผมยาวเคลียไหล่และดวงตาคล้ายลูกท้อ ก็ปรากฏกายขึ้นในทันที

“ไม่แปลกใจ… ไม่น่าแปลกใจเลย!” ชายชราตกตะลึง ดวงตาของเขายังคงจ้องมองไปที่เหรียญทองแดงที่แตกหักอยู่บนพื้น การแสดงออกของเขาเผยให้เห็นปมของการรู้แจ้ง

“เจ้ารู้อยู่แล้วหรือ?” ชายคนนั้นถามด้วยความประหลาดใจ

“ชิงชิว โอกาสอันยิ่งใหญ่มาถึงแล้ว หากเชื่อข้าก็จงรีบตามข้าไปยังสถานที่หนึ่ง” ทันใดนั้นชายชราก็ยืนขึ้นและถือไม้เท้าสีดำสนิทในมือขณะที่เขารีบจากไปในทันที

“เราจะไปที่ใดหรือ?” ชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าชิงชิวหรี่ตาลงเล็กน้อย ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเต่าเฒ่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง จึงทำให้เกิดคลื่นแห่งความประหลาดใจที่ไม่อาจหยุดยั้งในใจของเขา

“เทือกเขาวงจันทรา” เสียงของชายชราลอยล่องไปกับสายลมในขณะที่เขาได้หายไปแล้ว

เทือกเขาวงจันทรา?

เป็นไปได้หรือไม่ที่เขาจะไปตามหาชายหนุ่มคนนั้น?

เมื่อเขาครุ่นคิดเสร็จ ร่างของชิงชิวก็กะพริบราวกับฟ้าผ่า ในขณะที่เขาหายตัวไปก็เกิดเสียงดังฟิ้วเช่นกัน

เทือกเขาวงจันทรา

เทือกเขาวงจันทราในตอนนี้คึกคักมาก แตกต่างจากที่เคยเงียบเหงาก่อนหน้านี้ สัตว์อสูรในรัศมีสองร้อยห้าสิบลี้ได้มารวมตัวกันที่นี่อย่างพร้อมเพรียง อีกทั้งยังนำสุราชั้นดี ผลไม้วิญญาณ สมบัติหายาก และอาหารเลิศรสติดตัวมา พวกเขาต่างนั่งลงบนพื้นที่ไหล่เขาของป่าสนคราม ขณะที่พวกเขาคุยกันอย่างผ่อนคลาย

“ข้าได้ยินมาว่าผู้อาวุโสเฉินซีฆ่าราชาวานรทมิฬของถ้ำวารีกระซิบและราชาเหยี่ยวสายฟ้าของเทือกเขาสัมฤทธิ์ภายในวันเดียว ความแข็งแกร่งระดับนี้ช่างน่าตกตะลึงอย่างแท้จริง”

“อันที่จริง ผู้อาวุโสเฉินซีนับเป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลที่น่าเกรงขามที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบเจอ ตัวเขาเพิ่งจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตตำหนักอินทนิลเพียงไม่ถึงครึ่งปี แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็สามารถไปถึงระดับดังกล่าวได้แล้ว เขาช่างเป็นอัจฉริยะที่ท้าทายสวรรค์!”

“ฮ่า ๆ! ในวันนั้น ข้าได้เห็นการต่อสู้ของผู้อาวุโสเฉินซีกับราชาวานรทมิฬด้วยตาทั้งสองของข้าเอง เคล็ดวิชากระบี่ที่ลึกซึ้งและคาดเดาไม่ได้ อีกทั้งความเร็วที่มิอาจหาผู้ใดเทียบเคียง… ชิ ๆ ยากที่จะอธิบายถึงมันจริง ๆ”

มู่ขุยฟังการสนทนาที่กล่าวถึงเฉินซีของสัตว์อสูรโดยรอบ เขารับฟังคำชื่นชมและเยินยอโดยไม่ปิดบังของพวกมัน แต่ในใจของเขากลับสงบนิ่งอย่างยิ่ง

เขารู้ว่าอสูรเหล่านี้มาที่นี่เพื่อสิ่งใด เมื่อราชาวานรทมิฬตายจากไปแล้ว พื้นที่โดยรอบสองพันห้าร้อยลี้ก็ไร้เจ้าของ เห็นได้ชัดว่าอสูรเหล่านี้ยกผู้อาวุโสเฉินซี เป็น ‘ราชา’ ของดินแดนนี้ไปแล้วและนี่คือเหตุผลว่าเหตุใดพวกมันทั้งหมดจึงมาที่นี่อย่างเป็นมิตร

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ความคิดชั่วร้ายก็เกิดขึ้นในใจและเขาก็โพล่งออกมาว่า “พวกเจ้าทุกคนไม่อาจพบท่านผู้อาวุโสเฉินซีได้ในวันนี้ เนื่องจากเขามุ่งหน้าไปยังหุบเขาจันทราโหยหวนแล้ว และดูเหมือนว่าเขาต้องการจะต่อสู้กับราชาอีกาทมิฬ!”

“อ๊า!”

“ราชาอีกาทมิฬ?”

“สวรรค์! เขาคิดหาที่ตายหรือ?”

เสียงโห่ร้อง เสียงหัวเราะ คำเยินยอ… เสียงทั้งหมดต่างก็หยุดลงกะทันหันก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยเสียงอุทานมากมายที่แฝงไปด้วยความประหลาดใจและไม่อยากจะเชื่อ

บรรยากาศมืดหม่นในทันใด

“ราชาอีกาทมิฬเป็นหนึ่งในตัวตนที่แข็งแกร่งลำดับต้น ๆ ของราชาอสูรผู้ยิ่งใหญ่ทั้งเจ็ด… อืม ท่านพี่มู่ขุย ข้ามีเรื่องที่ต้องจัดการและต้องขอตัวลาก่อน…”

“เอ่อ ข้าเพิ่งจำได้ว่าลูกของข้ากำลังจะก้าวผ่านสู่ขอบเขตก่อกำเนิดในวันนี้ ข้าต้องไปคอยคุ้มกันเขา”

เหล่าสัตว์อสูรต่างอ้างเหตุผลต่าง ๆ ด้วยสีหน้าที่มืดมน ขณะที่พวกเขากล่าวคำอำลาอย่างเร่งรีบ

มู่ขุยไม่ได้รั้งให้พวกเขาอยู่ต่อและถือจอกสุราด้วยมือทั้งสองข้าง ขณะที่เขาดื่มสุราอย่างสบาย ๆ ด้วยท่าทางที่สงบนิ่ง เขาไม่อาจโกรธต่อพวกเหยียบเรือสองแคมเหล่านี้ที่กลับหน้ามือเป็นหลังมือยามต้องประสบกับภัยอันตราย

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ณ ขณะนั้น ลำแสงสองสายได้ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วท่ามกลางอากาศเหนือเทือกเขาวงจันทรา คนหนึ่งเป็นชายชราในชุดสีครามและมีผมสีเงินที่เป็นประกาย ส่วนอีกคนเป็นชายวัยกลางคนที่มีหล่อเหลา เขาไว้ผมยาวพาดบ่าและมีดวงตาคล้ายลูกท้อ

“ราชาเต่าเฒ่าผู้รอบรู้!”

“ราชาจิ้งจอกเก้าหางแห่งเทือกเขาดาราเยือกแข็ง!”

เหล่าอสูรที่เดินลงมายังตีนเขา ต่างแหงนหน้าขึ้นมองและหยุดกะทันหัน ใบหน้าของพวกมันต่างก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ในบรรดาราชาอสูรทั้งสอง ตัวหนึ่งลึกลับสุดขีดอีกทั้งความแข็งแกร่งก็ยากจะหยั่งถึง อีกตัวหนึ่งอาศัยอยู่อย่างสันโดษบนเทือกเขาดาราเยือกแข็ง และคาดว่าจะมีความแข็งแกร่งเทียบเท่าราชาอีกาทมิฬ เหตุใดพวกเขาถึงมาปรากฏตัวที่นี่?

เป็นไปได้ไหมที่พวกมันจะมาจับเฉินซีผู้นั้น?

“เจ้าคืออสูรหมาป่าตัวน้อยนั่นหรือ? ข้าขอถามเจ้าหน่อยเถอะ ชายหนุ่มผู้นั้นอยู่บนภูเขาหรือไม่?” สายตาของชายชราผมสีเงินที่สวมชุดสีครามกวาดสายตามองไปยังมู่ขุย ซึ่งยังคงรั้งอยู่บนไหล่เขา

‘เป็นไปตามคาด ชายหนุ่มชาวมนุษย์ผู้นั้นต้องตายแน่!’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]