บทที่ 765 ทำความเข้าใจการรังสรรค์
บทที่ 765 ทำความเข้าใจการรังสรรค์
งานประชุมใหญ่ของนิกายเซียนกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว และศิษย์ที่มีฝีมือแกร่งกล้าที่สุดจากสิบนิกายเซียน ก็ต่างพากันเดินทางมานิกายจรดนภาเพื่อหาผู้คว้าชัย!
ข่าวเรื่องนี้ได้สร้างความสั่นสะท้านไปทั่วทั้งโลกแห่งการบ่มเพาะ นับเป็นช่วงเวลาหนึ่งทีเดียวที่ผู้เยี่ยมยุทธ์และศิษย์จากหลายนิกายใหญ่รีบรุดหน้ามายังนิกายจรดนภาอย่างพร้อมเพรียงกัน เพราะแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเข้าร่วมได้ แต่ก็ยังรับชมและเรียนรู้จากมันได้ ซึ่งเท่านั้นก็ประโยชน์มากพอแล้ว
ที่สำคัญที่สุดคือ ในสามปีที่ผ่านมานี้ ศิษย์ของแดนไร้นามและสรวงสวรรค์สงบเงียบต่างปรากฏกายขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง สร้างชื่อเสียงใหญ่โตให้แก่ตนเอง เป็นเหมือนตัวตนโดดเด่นราวกับดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน นับว่ามีชื่อเสียงดังกลบศิษย์จากสิบนิกายเซียนไปแล้ว
แต่นิกายเซียนกลับจัดงานประชุมใหญ่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เพื่อคัดเลือกศิษย์ยอดอัจฉริยะ …เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคิดจะประชันกับศิษย์จากแดนไร้นามและสรวงสวรรค์สงบเงียบเป็นแน่!
อีกทั้งศิษย์จากสองที่นั้นก็ยังจะมาเข้าร่วมงานประชุมใหญ่ในครั้งนี้ด้วย และอาจถึงขั้นได้ประลองฝีมือกับศิษย์จากสิบนิกายเซียน
ทำให้งานประชุมครั้งใหญ่นี้มีความหมายไม่ธรรมดา มันดึงดูดความสนใจจากผู้คนในโลกแห่งการบ่มเพาะมาได้มาก ทำให้หัวข้อการสนทนาในตอนนี้ล้วนเกี่ยวกับงานประชุมครั้งนี้
โดยจะมีศิษย์แปดคนจากนิกายกระบี่เก้าเรืองรองที่มาเข้าร่วมงานคือเสิ่นหลางหยา ลั่วเชี่ยนหรง ฉางเล่อ หนิงเจิน หลงเจิ้นเป่ย หวังจ้งฮ่วน อันเวย และอวิ๋นเยี่ย
อาจกล่าวได้ว่าคนทั้งแปดเป็นผู้มีฝีมือสูงส่งที่สุดในหมู่ศิษย์ชั้นยอดแห่งนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง แม้แต่คนที่อ่อนแอที่สุดยังมีกำลังต่อสู้ถึงหกเท่า! อีกทั้งส่วนใหญ่ยังมีพรสวรรค์ไม่ใช่น้อย มีพละกำลังมากกว่าคนทั่วไปยิ่งนัก
แต่ทั้งนิกายก็ต้องประหลาดใจ เพราะเฉินซีไม่ได้เข้าร่วมด้วย แต่กลับเลือกปิดด่านบ่มเพาะแทน
ทว่าเพียงไม่กี่คำจากประมุขนิกายเวินหัวถิงก็สามารถคลายสับสนของทุกคน ทำให้คนทั้งนิกายตกตะลึงไป “เฉินซีเดินไปไกลกว่าสหายร่วมรุ่นมากแล้ว สิ่งที่เขาใฝ่หาไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในขอบเขตการบ่มเพาะของตนเองอีก!”
ความหมายของคำพูดนี้คือ ในคนรุ่นเดียวกันไม่มีใครมีพลังเทียบเท่าเฉินซีได้อีก …และชายหนุ่มก็มีแต่ต้องแข่งกับตนเองเพื่อให้แกร่งขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น!
เมื่อข่าวเรื่องนี้หลุดออกไปถึงโลกภายนอก มันก็ทำให้ทั้งโลกแห่งการบ่มเพาะเกิดความโกลาหล ทั้งรู้สึกผิดหวังแต่ก็ตื่นตาไปพร้อมกัน
เพราะข่าวที่ว่า เฉินซีสังหารเยี่ยนสือซานและเอาชนะศิษย์จากเขาวิญญาณนิรันดร์ที่มีนามว่าลู่ผิงได้นั้นได้แพร่กระจายไปในโลกแห่งการบ่มเพาะมานานแล้ว จนไม่อาจใช้คำว่ายอดอัจฉริยะมาอธิบายความสำเร็จของชายหนุ่มได้อีก!
ผู้อาวุโสที่เร้นกายอยู่ภายในนิกายกระบี่เก้าเรืองรองมานานเคยประเมินให้เฉินซีอยากยุติธรรมอยู่ครั้งหนึ่ง เขากล่าวว่าเฉินซีสูงตระหง่านในใต้หล้า ยืนองอาจอยู่เหนือยอดอัจฉริย …ถือเป็นคลื่นลูกใหญ่แห่งยุค!
แต่การที่เฉินซีไม่ได้เข้าร่วมการประชุมใหญ่ครั้งนี้ มันก็ทำให้ใครหลายคนรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน ถึงกับมีบางคนกล่าวว่าชายหนุ่มคิดหลงตัวเอง ไม่ก็พูดว่าเฉินซีบางทีอาจไม่เก่งสมคำร่ำลือ…
แต่ยังมีอีกหลายคนที่คาดเดาว่าไม่ใช่ ส่วนสาเหตุที่เฉินซีไม่อยากเข้าร่วม ก็เป็นเพราะเขาไม่สนใจต่างหาก!
ในขณะที่โลกภายนอกกำลังถกเถียงกันอย่างออกรส ตัวเฉินซีกลับกำลังทำสมาธิปิดด่านบ่มเพาะอยู่
โลกแห่งดารา
ฟิ้ว!
ปราณกระบี่พุ่งขึ้นฟ้า ทำให้ฟ้าดินราวกับถูกแยกออกจากกัน การรังสรรค์เผยกายขึ้นสูงท่วมปฐพี ทำให้ดวงดาวถูกผ่าออกจนแยกเป็นสอง ก่อนตกลงสู่พื้นด้วยเสียงหวีดหวิว
ที่นี่คือโลกแห่งดารา ดวงดาวมากมายที่นี่ไม่ต่างไปจากดวงดาวของจริงที่มีขนาดกว้างใหญ่หลายลี้ แต่ปราณกระบี่เพียงเส้นเดียวกลับผ่ามันออกเป็นสองส่วนได้!
ต้องเป็นปราณกระบี่ที่ทั้งเฉียบคมและกว้างใหญ่ขนาดไหนกัน?
มันทั้งส่องประกายและมีขนาดกว้างใหญ่ รวบรวมความงามอันศักดิ์สิทธิ์ของทุกสิ่งในโลกเข้าด้วยกัน ในขณะที่เปล่งพลังแห่งการรังสรรค์ออกมา!
เฉินซีตกตะลึงไปจนตั้งสติไม่ได้อยู่แล้ว
ปราณกระบี่สายนี้มาจากกระดูกที่จักรพรรดิมดทิ้งไว้ มันมีความหนาเท่าตะเกียบ ยาวราวชุ่นหนึ่ง เป็นสีใสส่องประกาย เต็มไปด้วยพลังแห่งการรังสรรค์ อีกทั้งยังมีอักขระยันต์โบราณปกคลุมอยู่ที่พื้นผิว ก่อตัวเป็นลวดลายของมดตัวหนึ่ง
ซึ่งไม่เหมือนกับการบ่มเพาะพลังขั้นสูงที่ขอบเขตสถิตกายาของเฉินซี มันเป็นสิ่งที่จักรพรรดิมดแห่งยุคบรรพกาลผู้มีพละกำลังสูงส่งทิ้งไว้ เป็นตัวตนที่มีพลังพอ ๆ กับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เงาทมิฬ!
จนถึงตอนนี้ เฉินซียังจำมดตัวจิ๋วผู้มีท่าทีสูงส่งทรงสง่า ซึ่งถือกระบี่เก่าที่ใช้ฟาดฟันจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ต่างพิภพเมื่อครั้งอยู่ในด่านแห่งความลึกล้ำได้อยู่เลย ตอนนั้นเหมือนดั่งจ้าวแห่งกระบี่จากโลกบรรพกาลลงมาจุติ เหมือนตัวตนผู้ถือครองโลกและพลังการรังสรรค์ไว้ภายในนั้น ทำให้ตัวชายหนุ่มรู้สึกเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง
“การรังสรรค์… ช่างเป็นความลึกล้ำแห่งมหาเต๋าที่น่ากลัวและมหัศจรรย์ยิ่ง” เฉินซีพึมพำออกมา จากนั้นก็ถอนหายใจยาวแล้วเริ่มทำสมาธิเพื่อทำความเข้าใจต่อ
แม้ว่ากระดูกหยกขาวนี้จะมีขนาดราวชุ่นหนึ่ง แต่ก็เต็มไปด้วยความลึกล้ำ เสมือนมีความลับมากมายซุกซ่อนอยู่ภายในนั้น
วิชากระบี่ที่อยู่ภายในนั้นมีชื่อว่า ‘กระบี่สรรค์สร้าง!’
เฉินซีตกใจเป็นอย่างยิ่ง เขาไม่สามารถเข้าใจความลึกล้ำในตัววิชานั้นได้เลย ไม่แม้กระทั่งสัมผัสถึงเต๋ารู้แจ้งแห่งการรังสรรค์ภายในวิชานั้นได้ด้วยซ้ำ ไม่ต้องกล่าวถึงการทำความเข้าใจมันเลย
เหมือนกับว่าตอนนี้เขาเข้าใจเพียงวิชากระบี่ แต่ไม่ลึกซึ้งถึงแก่น เหมือนได้มาแค่เปลือกที่ขาดความเป็นประกาย ขาดพลังที่สามารถเปลี่ยนจากความเรียบง่ายให้กลายเป็นความพิเศษได้
เฉินซีขมวดคิ้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบเจตจำนงกระบี่ที่ยากขนาดนี้นับตั้งแต่ทะลวงสู่ขอบเขตสถิตกายามา กระทั่งความสามารถในการทำความเข้าใจของเขาและการอาศัยชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากยังดูท่าจะพบอุปสรรคกีดขวาง
แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้ชายหนุ่มสัมผัสได้ว่า ‘กระบี่สรรค์สร้าง’ ไม่ธรรมดาเพียงไหน …หรือก็คือวิชาบ่มเพาะเช่นนี้ย่อมเป็นวิชาที่มีอำนาจสะท้านฟ้าสะเทือนปฐพีเป็นแน่ ดังนั้นแม้จะกำกวมแค่ไหน หากเขาสามารถศึกษาจนเชี่ยวชาญได้ มันก็อาจมีอำนาจเหนือจินตนาการเลยด้วยซ้ำ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...