บทที่ 790 ระเบียนแดนมรณะสำแดงเดช
บทที่ 790 ระเบียนแดนมรณะสำแดงเดช
โซ่วิญญาณอสูรเป็นดั่งแส้ที่ฉีกกระชากท้องฟ้าขณะที่มันฟาดลงมา เสียงโจมตีของมันดังกึกก้องสะท้านสั่น ประหนึ่งภูเขาที่ทอดตัวพาดผ่านท้องฟ้าด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว
ทุกคนต่างตกอยู่ในความหวาดกลัว การโจมตีในครั้งนี้น่าสะพรึงยิ่ง มันสามารถทำให้ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีบาดเจ็บจนถึงขั้นเนื้อแตกเป็นริ้ว ก่อนจะถูกสังหาร
ตู้ม!
แผ่นหลังของเฉินซีคล้ายมีดวงตาซ่อนไว้ จุดชีพจรทั่วทั้งร่างเปิดออกคล้ายเม่นกางหนาม ส่งปราณกระบี่ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง พุ่งตรงเข้าไปทำลายการโจมตีให้ดับสลาย ในขณะที่ปราณกระบี่จำนวนมากที่เหลืออยู่ก็โคจรเข้าใส่เป่ยหวง
ใบหน้าของเป่ยหวงในเวลานี้เขียวคล้ำ เขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับมันโดยตรง ดังนั้นจึงได้ล่าถอยด้วยความเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ สิ่งที่ไฮว่หมิงต้องเผชิญก่อนหน้านี้ยังคงแจ่มชัดอยู่ในใจ แล้วเขาจะไปเอาความกล้าที่ไหนมาต้านทานปราณกระบี่ที่น่าสะพรึงกลัวนี้กัน?
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตกใจเมื่อได้เห็นสิ่งนี้ เฉินซี… ชายหนุ่มผู้นี้ช่างมีชีวิตอยู่เพื่อเย้ยหยันโชคชะตาโดยแท้ ทั้ง ๆ ที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง แต่ก็ยังสามารถปัดป้องและเผยการโจมตีตอบโต้ที่รุนแรงได้ …ช่างแข็งแกร่งอะไรเช่นนี้!
“ฮึ่ม! เป็นการต่อสู้ที่ไร้ความหวังจริง ๆ! ขอข้าดูหน่อยเถอะว่าเจ้าจะสู้ได้สักแค่ไหน!” สายตาของหลวงจีนจื่ออวิ๋นเยือกเย็นขณะที่สั่งให้ธงเทพโลหิตผสานปกคลุมท้องฟ้าด้วยสีเลือด จากนั้นตัวคนจึงผลักธงเบญจธาตุไปยังเฉินซีที่อยู่ตรงกลางโดยพร้อมเพรียงกัน
ผืนฟ้าและแผ่นดินชโลมไปด้วยสีแดงฉานราวกับโลหิต สายลมเย็นยะเยือกพัดกระหน่ำ วิญญาณพยาบาทครวญคร่ำ โลหิตแดงฉานคาวคลุ้งเจิ่งนองตลอดทั้งบริเวณ แม้แต่รัศมีแห่งบาปก็กระจายแผ่ไปทั่ว ทำให้พื้นที่โดยรอบกลายเป็นนรกแห่งเลือด ราวกับว่าโลกใบนี้ได้ถูกพันธนาการไว้ แผ่แรงกดดันมหาศาลที่หลั่งไหลเข้ามาจนทำให้มันแทบจะระเบิด!
จริงอยู่ที่คนอื่น ๆ อาจจะไม่ได้รับรู้ถึงมัน ทว่าแรงกดดันนี้ก็ทำให้เฉินซีรู้สึกเหมือนกับตนกำลังถูกภูเขาลูกมหึมากดทับ พลังของมันน่ากลัวเสียจนส่งผลให้โลหิต ผิวหนัง และกระดูกของเขาแทบจะระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ
หลวงจีนจื่ออวิ๋นเหยียดยิ้มทันที ประหนึ่งว่าชัยชนะกำลังอยู่ในมือของเขาแล้ว เจ้าตัวตวัดแส้ห้างม้าสีขาวไปมา ไม่นานก็บังเกิดสายฟ้าสีแดงโลหิตฟาดลงมาจากท้องฟ้า เข้าโจมตีไปยังร่างของเฉินซีด้วยพลังที่รุนแรงพอจะทำให้ชายหนุ่มได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก
“ลุงยง เจ้าสามารถฝ่าเข้าไปในธงเทพโลหิตผสานได้หรือไม่ ไม่เช่นนั้น เฉินซีได้ตกอยู่ในอันตรายแน่!” ไป๋หลี่เยียนกระซิบเสียงเบา ใบหน้าของนางดูวิตกอย่างมาก
“ทูลฯ องค์หญิง มันไม่ง่ายเลยพ่ะย่ะค่ะ เว้นแต่เราจะใช้สมบัติวิเศษอย่างระฆังราชันนิรันดร์ เพราะแม้ว่าธงเทพโลหิตผสานผืนนี้จะเป็นของลอกเลียนแบบ แต่พลังของมันก็ไม่ได้แตกต่างกับสมบัติวิเศษระดับวิญญาณทมิฬเลย ถึงอย่างนั้น ตอนที่พวกเราออกเดินทางมา พวกเราไม่ได้นำอาวุธเซียนชิ้นนั้นมาด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ข้ารับใช้ชราที่อยู่ใกล้ ๆ ส่ายหน้า
“น้องชาย เจ้ายังเด็กและไร้เดียงสา ทว่ากลับกล้าอวดดีคิดผดุงความยุติธรรมในนามแห่งสวรรค์ ข้าล่ะทนเห็นไม่ได้จริง ๆ ดังนั้นข้าจะทำลายการบ่มเพาะของเจ้าและมอบบทเรียนที่เจ้าไม่มีวันลืม!” หลวงจีนจื่ออวิ๋นยิ้มพรายด้วยสีหน้าอ่อนโยน ผิดกับการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว ทันใดนั้น สายฟ้าสีแดงพลันฟาดลงมายังร่างของเฉินซีอีกครั้ง
ร่างกายของชายหนุ่มสั่นสะท้าน “ตาเฒ่าเอ๊ย เจ้าคิดว่าเจ้าเก่งกล้าปานนั้นจริง ๆ หรือ?”
สิ้นคำพูด พลังอันสูงส่งพลันเปล่งประกายออกมาจากร่างกายของชายหนุ่มในฉับพลัน มันเป็นแสงที่ลึกล้ำ มั่นคง และยิ่งใหญ่ แตกต่างจากรัศมีโดยทั่วไปอย่างสิ้นเชิง!
ไม่นานนัก วังวนแห่งพลังมหาศาลได้โคจรหมุนวนและส่งเสียงกึกก้องอยู่รอบกายอันผ่าเผยของเฉินซี
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อเห็นว่าเลือด บาป หรือแม้แต่วิญญาณพยายามที่คืบคลานออกมาจากธงเทพโลหิตผสานล้วนแต่ถูกกลืนกินเข้าไปในวังวนนั้น ก่อนที่พวกมันจะเข้าผสานกับร่างของเฉินซี
อีกาจำนวนมากส่งเสียงหวีดหวิวอยู่ท่ามกลางกระแสวังวนนั้น พวกมันวิ่งชนสวรรค์ทั้งเก้าและท่องหายไปในจักรวาล ไม่เพียงเท่านั้น มันยังปรากฏหนังสือโบราณที่เรืองแสงริบหรี่ภายในวังวนเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ อีกด้วย
นี่เป็นเหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์ ซึ่งเกิดจากการผสานระเบียนแดนมรณะเข้ากับก่ออัสนีผสานดารา
ระเบียนแดนมรณะเป็นตำราลึกลับที่สืบทอดมาจากยมโลก มันถูกส่งต่อมาผ่านจักรพรรดิยมโลกองค์ที่สามนับแต่ยุคบรรพกาล นับเป็นคัมภีร์เซียนที่มีศักดิ์สูงที่สุดในยมโลก ทั้งยังเป็นสมบัติล้ำค่าที่อยู่เหนือพลังธรรมชาติทั้งปวง
เมื่อนานมาแล้วจี้อวี๋เคยกล่าวไว้ว่า จักรพรรดิยมโลกองค์ที่สามเป็นมหาบุรุษอย่างแท้จริง เขาท่องไปในสามภพอย่างอิสรเสรีมาตลอดหลายยุคหลายสมัย สร้างความตกตะลึงให้แก่ทุกภพทุกแดน อีกทั้งคนผู้นี้ยังสามารถควบคุมวิถีแห่งสังสารวัฏทั้งหกได้ และเขายังเคยประมือกับปรมาจารย์แห่งเคหาบ่มเพาะเป็นเวลาตลอดสิบปีโดยไม่เคยพ่ายแพ้!
คนคนนี้มีปณิธานสูงส่งที่จะโค่นล้มสวรรค์ ล้างเผ่าพันธุ์อสูร และสร้างการปกครอง รวมถึงกฎในสามภพขึ้นมาใหม่ ด้วยหวังว่าจะสามารถมอบยุคแห่งสันติสุขและความเฟื่องฟูให้กับทุกสรรพสิ่งบนโลก
ทว่าความตั้งใจนี้กลับสร้างความเกลียดชังให้แก่เซียนสวรรค์และเผ่าอสูรในสามภพอย่างมาก จึงลงเอยด้วยการที่อีกฝ่ายถูกกำจัดทิ้งในที่สุด จักรพรรดิยมโลกองค์ที่สาม… ต้องจบชีวิตลงพร้อมกับความเคียดแค้นในใจ!
ระเบียนแดนมรณะก็เหมือนกับพู่กันพิพากษามาร พวกมันเป็นสมบัติวิเศษที่จักรพรรดิยมโลกใช้เมื่อครั้งเดินทางไปทั่วทั้งสามภพ ทั้งยังเป็นศัสตราวุธที่มีไว้เพื่อสังหารเผ่ามารและอสูร ซึ่งตัวระเบียนแดนมรณะเองนั้นสามารถสร้างโลกอีกใบขึ้นภายในตัวมันได้ และยังสร้างเส้นทางที่เรียงรายไปด้วยดอกปารมิตา โดยใช้ทะเลทุกข์เป็นสะพานเชื่อมไปยังอีกเส้นทางหนึ่ง ซึ่งเป็นวิถีแห่งสังสารวัฏทั้งหกของยมโลก
นอกจากนี้ ทั้งระเบียบแดนมรณะและพู่กันพิพากษามารต่างก็มีหน้าที่ค้ำจุนกันและกัน พู่กันพิพากษามารนั้นคอยควบคุมดูแลการเกิดดับ ในขณะที่ระเบียนแดนมรณะมีหน้าที่นำพาวิญญาณไปสู่อีกฟากฝั่งหนึ่ง
วิญญาณใดก็ตามที่ถูกสังหารด้วยพู่กันพิพากษามาร ต้องชำระบาปของตนให้บริสุทธิ์ด้วยระเบียนแดนมรณะ ก่อนที่จะถูกพิพากษาตัดสิน และนำตัวไปยังวงล้อแห่งสังสารวัฏหกวิถี
ตอนที่เฉินซีกำลังรับมือกับพลังของธงเทพโลหิตผสานด้วยความยากลำบากก่อนหน้านี้ ระเบียนแดนมรณะพลันเกิดความผันผวนขึ้น ทำให้เขาตระหนักได้ว่าสิ่งนี้นั่นเองที่สามารถช่วยให้ชายหนุ่มต้านทานสมบัติล้ำค่าแห่งความชั่วร้ายชิ้นนี้ได้
ดังนั้นเขาจึงใช้โอกาสนี้สร้างกระบวนท่าก่ออัสนีผสานดาราเพื่อกลืนกินพลังงานที่อยู่ภายในธงเทพโลหิตผสาน ส่งผลให้แรงกดทับบนร่างกายเบาบางลงไปมาก
ยิ่งกว่านั้น ชายหนุ่มยังสังเกตเห็นว่าแสงทองแห่งคุณธรรมได้แผ่ขยายจนประจักษ์ชัดภายในแดนฮุ่นตุ้น ให้ความรู้สึกราวกับว่ามีดอกไม้สีทองโปรยปรายลงมาจากผืนฟ้า ทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่การบ่มเพาะของดวงจิตแห่งเต๋าก็ทวีขึ้นไปตาม ๆ กัน!
จนชายหนุ่มสามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ของพลังลึกลับที่อยู่ภายในดวงจิตแห่งเต๋าได้อย่างชัดเจน!
นี่เป็นผลพลอยได้ที่เฉินซีเองก็คาดไม่ถึง เนื่องจากธงเทพโลหิตผสานนั้นได้รับการขัดเกลาโดยหลวงจีนจื่ออวิ๋นเป็นเวลากว่าสามพันปี ดังนั้นบาป เลือด และวิญญาณพยาบาทที่สถิตอยู่ภายในนั้นจึงน่ากลัวและมากมายดั่งมหาสมุทร หลังจากที่มันถูกระเบียนแดนมรณะกลืนกิน พลังแห่งบาปก็สูญสลายไป ส่วนวิญญาณพยาบาทนั้นจะถูกนำพากลับสู่สังสารวัฏ ทำให้แสงสีทองแห่งคุณธรรมถูกส่งต่อให้เฉินซีไปโดยปริยาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...