บทที่ 914 การสร้างยันต์เทวะ
บทที่ 914 การสร้างยันต์เทวะ
ณ ยอดเขาจรัสตะวันตก นิกายกระบี่เก้าเรืองรอง
เมื่อกลุ่มของเฉินซีกลับมาถึง หั่วโม่เลยและคนอื่น ๆ ล้วนยินดีปรีดา
แต่เมื่อพบว่าเหมิงเหวย โม่ย่า และเหล่าหนุ่มสาวทั้งหมดจากเผ่านรกขุมที่เก้าเลือกที่รั้งจะอยู่ในจวนตระกูลไป๋ พวกเขาต่างรู้สึกเศร้าใจและรู้สึกสูญเสีย
ทว่าเมื่อเสวี่ยเหยียนรู้ว่าอาซิ่วจากไป นางก็ไม่แสดงสีหน้ายินดีออกมา หัวใจของนางกลับรู้สึกว่างเปล่าและอึดอัดแทน นางหงุดหงิดเล็กน้อยและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
เฉินซีก็ไม่รู้ว่าจะปลอบโยนนางอย่างไรดี บางทีคงต้องใช้เวลาเท่านั้น จึงจะสามารถเยียวยาความรู้สึกสูญเสียที่ทุกคนเผชิญได้
ต่อจากนั้น เฉินซีได้แนะนำและอธิบายเกี่ยวกับเรื่องบางอย่างให้แก่หลิงไป๋และคนอื่น ๆ ก่อนเขาจะเข้าสู่การปิดด่านบ่มเพาะ
ณ โลกแห่งดารา
เฉินซีนั่งขัดสมาธิอยู่ใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว และมองดูแม่น้ำดวงดาวอันกว้างใหญ่ที่ห่างไกลออกไป เขาไตร่ตรองถึงทุกสิ่งที่ตนประสบมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขณะที่เผยสีหน้างุนงงพลางขมวดคิ้วและยิ้มเป็นบางครั้ง…
ในที่สุดสีหน้าของเขาก็กลับคืนสู่ความสงบ
ความทรงจำทั้งหมดเป็นประสบการณ์รูปแบบหนึ่ง
ทุกการเดินทางคือส่วนหนึ่งของประสบการณ์
และทั้งหมดนี้เป็นการบ่มเพาะแบบหนึ่ง
ไม่ทราบว่าตั้งแต่เมื่อใด เฉินซีได้กลายเป็นเหมือนสายธนูที่ถูกดึงจนสุดแรง ซึ่งพุ่งตัวออกไปรอบ ๆ ขณะที่ทุ่มเทบ่มเพาะเพื่อก้าวไปข้างหน้า จากเมืองหมอกสนสู่เมืองทะเลสาบมังกร นครหลวงธารสายไหม และสมรภูมิบรรพกาล
ตั้งแต่นิกายกระบี่เก้าเรืองรองไปจนถึงเหวเงาทมิฬ นรกขุมที่เก้า เมืองหลีหั่ว ตำหนักเต๋านภา และพิภพยันต์อักขระ
ในช่วงเวลานี้ ชายหนุ่มได้บ่มเพาะตัวเองให้สมบูรณ์แบบตลอดเวลาและจดจ่ออยู่กับการบ่มเพาะ เขาเคยผ่านประสบการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ขัดเกลาให้แข็งแกร่งผ่านทะเลเลือดและเปลวเพลิง การพลิกผันที่ชายหนุ่มประสบนั้นไกลเกินกว่าที่คนจะสามารถเข้าใจได้
หลังจากผ่านการเดินทางอันยาวนานและประสบกับสิ่งต่าง ๆ มากมาย สิ่งเดียวที่ชายหนุ่มต้องทำในตอนนี้คือการหลอมรวมทุกสิ่ง
การหลอมรวมหมายถึงการเปลี่ยนประสบการณ์ทั้งหมดของเขาให้กลายเป็นสิ่งที่สามารถใช้งาน และทำให้เส้นทางวิถีเต๋าของเขาราบรื่นยิ่งขึ้น!
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นและยืนอยู่ใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ขณะที่เขาเหยียดร่างกาย จากนั้นจึงเริ่มบ่มเพาะทุกสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปทีละอย่าง
โครม!
ท้องฟ้าสั่นสะเทือน เมื่อพลังทำลายถล่มลงมาราวกับเสียงฟ้าร้อง มันคือหมัดถล่มทลาย ซึ่งเป็นเคล็ดวิชาต่อสู้แรกที่เฉินซีได้ฝึกฝน
แต่ในขณะนี้ ทุก ๆ กระบวนท่าของมันก็แฝงด้วยความล้ำลึกของมหาเต๋า มันเคลื่อนไหวราวกับสายฟ้าฟาด ผ่าลงมาดุจฟ้าร้อง และอานุภาพก็รุนแรงเสียจนเมื่อก่อนเทียบไม่ติด
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ถือยันต์ศัสตราไว้ในมือและใช้เคล็ดคัมภีร์กระบี่หมื่นบรรจบออกไป กระบวนกระบี่ทั้งแปดท่านั้นมีการเปลี่ยนแปลงไม่มีที่สิ้นสุด มันเป็นเปลวไฟที่โหมกระหน่ำอย่างรวดเร็ว ช้าเหมือนการเจริญเติบโตของแมกไม้ รวดเร็วประหนึ่งสายฟ้า นิ่งสงบไร้การเคลื่อนไหวดุจขุนเขา…
เช่นเดียวกับสิ่งนี้ เคล็ดวิชาต่อสู้แล้วเคล็ดวิชาต่อสู้เล่า ศาสตร์เต๋าแล้วศาสตร์เต๋าเล่า พวกมันทั้งหมดถูกใช้ออกมาอย่างราบรื่นประหนึ่งสายน้ำที่ไหลรินด้วยการกวาดมือของเฉินซี
เพลงหมัดมหาทำลายล้าง ก่ออัสนีผสานดารา ฝ่ามือหมื่นคลื่นใต้พิภพ เคล็ดกระบี่ฝังวิญญาณบงการนภา ฝ่ามือมหาดารา สัจธรรมสวรรค์… ทุกเคล็ดวิชาบ่มเพาะ พลังอิทธิฤทธิ์หรือศาสตร์เต๋าล้วนเป็นเคล็ดวิชาชั้นเลิศของใต้หล้า
ตราบใดที่ผู้บ่มเพาะสามารถเรียนรู้ได้แม้เพียงเคล็ดวิชาเดียว มันก็เพียงพอสำหรับผู้บ่มเพาะผู้นั้นที่จะท่องไปในใต้หล้าได้อย่างอิสระและมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วฟ้าดิน ทว่าเฉินซีได้เข้าใจศาสตร์เต๋าและพลังอิทธิฤทธิ์ที่มากมายเหล่านี้ทั้งหมดอย่างถ่องแท้
อานุภาพของเคล็ดวิชาเหล่านี้ย่อมทรงพลังเป็นอย่างมาก แต่หลังจากที่เขาได้สัมผัสกับหมัดทั้งสามจากไป๋จิงเฉิน ในที่สุดเฉินซีก็ตระหนักได้ว่า การมีแค่เคล็ดวิชาเหล่านี้นั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาแข็งแกร่งได้
เนื่องจากพวกมันซับซ้อนเกินไปและสูญเสียการโจมตีที่เรียบง่าย ตรงไปตรงมาที่สุด และถึงตายได้มากที่สุดไป
อันที่จริง มันก็ชัดเจนเมื่อเขาคิดอย่างรอบคอบ เนตรเทวะแห่งความจริง ฝ่ามือมหาดารา ปราณกระบี่รังสรรค์กระบี่ ห้ากระบวนท่าแห่งนิรันดร์ สัจธรรมสวรรค์และอื่น ๆ พลังอิทธิฤทธิ์และศาสตร์เต๋าทั้งหมดนี้ทรงพลังอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน แต่เขาสามารถแสดงพลังของเคล็ดวิชาเหล่านี้ออกมาได้อย่างเต็มที่ในระหว่างการต่อสู้เท่านั้น
ทั้งหมดนี้ทำให้เฉินซีนึกถึงครั้งแรกที่เขาได้พบกับเต๋าบงกช
ในเวลานั้น เขาเข้าใจความลึกล้ำของมหาเต๋ากว่าสิบชนิด แต่เต๋าบงกชได้ชี้ให้เห็นว่า ไม่ว่าเขาจะครอบครองมหาเต๋ามากแค่ไหน มันก็จะเป็นการเสียเปล่า หากเฉินซีไม่สามารถดึงพลังออกมาได้
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาเริ่มใช้เต๋าแห่งยันต์อักขระเป็นเต๋าหลักที่คอยบัญชามหาเต๋าชนิดอื่น และจนถึงจุดนี้ การบ่มเพาะของเขาก็ประสบความสำเร็จในขั้นต้นแล้ว
ส่วนสิ่งที่เฉินซีต้องทำในตอนนี้ก็คือ เขาต้องหลอมรวมศาสตร์เต๋าและความพลังอิทธิฤทธิ์ทั้งหมด ขจัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกจากพวกมัน และเก็บแก่นไว้สำหรับตัวเอง
เดิมที พวกมันล้วนเป็นเหมือนเส้นทางที่กว้างใหญ่ไร้ขอบเขตและยากลำบากอย่างยิ่ง เพราะถึงอย่างไร ศาสตร์เต๋าและพลังอิทธิฤทธิ์ทุก ๆ เคล็ดก็ได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว และถ้าเขาต้องการจะหลอมรวมพวกมันเข้าด้วยกัน มันก็ไม่ง่ายเลย!
แต่หมัดทั้งสามของไป๋จิงเฉินได้เปิดโลกให้กับเฉินซี มันทำให้ชายหนุ่มได้สัมผัสกับเส้นทาง เส้นทางที่หลอมรวมสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเขา และละทิ้งส่วนที่ไร้ประโยชน์!
วิธีหลอมรวมทั้งหมดนี้คือยันต์เทวะ
ในขณะที่เขาอยู่ในพิภพยันต์อักขระ เฉินซีเคยเห็นหลียางผู้เป็นศิษย์พี่หญิงใช้ยันต์เทวะต่าง ๆ เพื่อบดขยี้กลุ่มผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับและสังหารพวกมันครั้งหนึ่ง พลังของยันต์เทวะดังกล่าวน่ากลัวยิ่ง และทำให้เขาตกใจอย่างมาก
ในความคิดของชายหนุ่ม เนื่องจากพลังของยันต์เทวะนั้นทรงพลังมาก แล้วเหตุใดเขาจึงไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งที่เขาเรียนรู้ทั้งหมดให้เป็นยันต์เทวะ ก่อนที่จะใช้พลังของเต๋าแห่งยันต์อักขระเพื่อแสดงอานุภาพของมันออกมาเล่า?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...