บ่วงเสน่หา คุณชาย อันตราย นิยาย บท 209

โจโจ้หยิบถ้วยชาขึ้นมาจากเก้าอี้ทรงสี่เหลี่ยมทันที เธอยื่นถ้วยพร้อมจานรองให้ผู้หญิงคนนั้น เมื่อผู้หญิงคนนั้นยืนขึ้นผมของเธอดูยาวอย่างน่าประหลาดเกือบที่จะถึงเอวของเธอ และมัดด้วยยางมัดผม เธอรับถ้วยจากโจโจ้แล้วเปิดฝาออกจิบชาก่อนจะใส่ฝากลับเข้าไปที่เดิม

“ไปเอาสัญญา และตามฉันมาโจโจ้” จากนั้นหญิงสาวก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน เธอก้าวอย่างเชื่องช้า

“ฉันมาแล้ว นายท่าน” โจโจ้วิ่งราวกับสายลมไปที่เคาน์เตอร์ และนำซองหนังออกมา ก่อนที่จะวิ่งกลับไปหาผู้หญิงคนนั้น หลังจากนั้นเธอก็เดินตามนายจ้างไปทีละก้าว ผู้หญิงคนนั้นเดินช้ามากโจโจ้ก็เลยเดินช้าด้วย โดยปกติคนปกติจะใช้เวลาสองหรือสามนาทีในการเดินจากระเบียงไปยังชั้นสอง แต่ทั้งสองคนใช้เวลาอย่างน้อยสองเท่า อย่างไรก็ตามโจโจ้ไม่ได้ขอให้ผู้หญิงคนนั้นเดินเร็วขึ้นเลย

เมื่อพวกเขามาถึงชั้นสอง พวกเขาก็สามารถได้ยินทั้งคู่โต้เถียงกันอย่างดุเดิอดจากทางเดิน

ผู้หญิงคนนั้นหยุดเดิน การมองที่ไร้กังวลเลือนหายไปจากใบหน้าของเธออย่างช้า ๆ และถูกแทนที่ด้วยสายตาที่เย็นชา โจโจ้ไม่รู้ว่าทำไม แต่ทุกครั้งที่แขกของพวกเขาทะเลาะกันที่โฮมสเตย์ เจ้านายที่แสนขี้เกียจของเธอแทบจะไม่มีอารมณ์ที่จะพูดอะไรเลยด้วยซ้ำ จู่ ๆ ก็จะดูอ่อนโยนทันที เธอค่อย ๆ ซึมซับนิสัยของเจ้านายตัวเองไปอย่างช้า ๆ

เพล๊ง ~

มีเสียงสิ่งของแตกภายในห้อง การแสดงออกของผู้หญิงเปลี่ยนไปและเธอก็ก้าวไปอีกสองสามก้าวโดยไม่พูดอะไร เมื่อหยุดอยู่นอกประตูห้องเธอก็เริ่มเคาะมัน

"เปิดประตู"

คนที่อยู่ในห้องต่างก็ยุ่งกับการต่อสู้ของพวกเขามากเกินไปที่จะได้ยินคำสั่งให้ "เปิด" ของเธอจากภายนอกห้อง

“โจโจ้” หญิงสาวเดินถอยหลังและหลีกทางให้โจโจ้เปิดประตูด้วยคีย์การ์ดสำรอง มีเสียงคลิกเบา ๆ ซึ่งสามารถปลุกคนทั้งสองที่อยู่ในห้องได้ พวกเขาหยุดทะเลาะกันไปชั่ววินาที แล้วหันไปมองประตูที่เปิดออกอย่างพร้อมเพรียงกัน

มีคนสองคนยืนอยู่ที่ประตู

คู่รักที่อยู่ในห้องนั้นรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาเป็นพนักงานของโฮมสเตย์ และความตึงเครียดของพวกเขาก็เพิ่มขึ้น เมื่อเห็นประตูเปิดออกโดยไม่มีการเตือนใด ๆ

หญิงสาวที่อยู่ข้างในหันไปบอกผู้บุกรุกด้วยความโกรธ “ใครอนุญาตให้พวกคุณเข้ามาที่นี่? พวกคุณไม่เคยได้ยินเรื่องความเป็นส่วนตัวหรือ? พวกคุณหยาบคายมาก และพวกคุณกำลังบุกรุกความเป็นส่วนตัวของฉันและแฟนของฉันอยู่!”

ผู้หญิงที่ประตูไม่สนใจคำบ่นของทั้งคู่ในห้อง เธอมองไปรอบ ๆ ห้องและพูดว่า “กรุณาเก็บข้าวของของคุณและออกไป”

ทั้งสองคนในห้องไม่เคยคาดหวังว่าพนักงานที่นี่จะพูดอะไรแบบนั้น สีหน้าชายคนนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธทันที “ทำไมเราต้องออกไป?! ในเมื่อเราจ่ายล่วงหน้าแล้วห้าวัน! คุณจะเตะแขกของคุณออกไปแบบนั้นได้อย่างไร? โทรหาเจ้าของที่นี่ ฉันอยากรู้ว่าเขาจ้างพนักงานที่แย่ขนาดนี้ได้ยังไง?!”

“ฉันเป็นเจ้าของที่นี่”

“ถ้าคุณเป็นเจ้าของที่นี่ คุณจะปล่อยให้พนักงานของคุณ เอ่อ…คุณเป็นเจ้าของที่นี่และปฏิบัติกับลูกค้าแบบนี้ได้อย่างไร ???”

“ฉันเป็นเจ้าของที่นี่” ผู้หญิงที่ประตูมองไปที่ทั้งคู่อย่างไม่สบอารมณ์ “ตอนนี้โปรดเก็บข้าวของของคุณ และออกจากสถานที่นี้ไปได้แล้ว”

ใบหน้าของชายคนนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดงยิ่งขึ้นและเขาก็โกรธเกรี้ยว “ คุณมีสิทธิ์อะไร?! แน่นอนว่าสถานที่ใหญ่ ๆ ปฏิบัติต่อลูกค้าของพวกเขาเหมือนขยะ แต่นี่เป็นเพียงเพิงหมาแหงนเท่านั้นเอง! คุณกล้าปฏิบัติกับแขกของคุณแบบนี้ได้อย่างไร?!”

ผู้หญิงที่ประตูมองมาที่พวกเขาด้วยสายตาที่เย็นลงเรื่อย ๆ “โจโจ้แสดงสัญญาให้พวกเขาดูสิ”

ทั้งคู่รับซองหนังจากโจโจ้ ขณะที่ผู้หญิงที่ประตูพูดว่า "ตอนที่คุณเช็คอิน ฉันแน่ใจว่าพนักงานบอกคุณว่าคุณสามารถทำอะไรก็ได้ในที่นี้ ยกเว้นการทะเลาะวิวาท คุณตกลงก่อนเซ็นสัญญาเช็คอิน นั่นหมายความว่าคุณเข้าใจและเห็นด้วยกับข้อกำหนดเหล่านั้นแล้ว”

ทั้งคู่มองไปที่สัญญาที่พวกเขาได้ลงนามเมื่อเช็คอิน ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงและสีน้ำเงินเป็นคลื่น

“เราไม่ได้ทะเลาะกัน”

“ฉันไม่ได้ตาบอด” สายตาของผู้หญิงกวาดไปทั่วโซฟาและโต๊ะ ห้องนั้นยุ่งเหยิงและหลักฐานการต่อสู้ของพวกเขาไม่ใช่เพียงแต่ทางวาจา แต่ยังรวมถึงร่างกายด้วย

ชายคนนั้นรู้สึกอับอายขายหน้า แม้ว่าเขาจะเซ็นสัญญาแล้ว แต่เขาก็ยังไม่สามารถยอมรับได้ว่าพวกเขาถูกไล่ออกไปแบบนั้น

“แค่รอ! ฉันจะไปโพสทางอินเทอร์เน็ตว่าพวกคุณมันหลอกลวง!”

“ตามใจชอบเลย” ผู้หญิงคนนั้นพูดเบา ๆ ก่อนจะเดินจากไป “โจโจ้จ่ายเงินคืนพวกเขาสำหรับสามวันที่พวกเขายังไม่อยู่ แล้วให้ทอดด์จับตาดูพวกเขาไว้”

"พวกคุณคิดว่า พวกคุณเป็นใคร? คุณเป็นเพียงโฮมสเตย์เล็ก ๆ ที่มีมากมายรอบ ๆ เอ๋อไห่นี้! เราไม่ต้องการให้คุณมาไล่เราออกไปหรอก เราก็ไม่ต้องการจะอยู่ที่เพิงหมาแหงนนี้ต่อไปด้วยเหมือนกัน!

“ฉันจะแฉพวกคุณแน่นอน! อย่างแน่นอน! พวกคนหลอกลวง! ฉ้อโกง!”

หลังจากผู้หญิงคนนั้นออกไปจากประตูแล้วตามด้วยโจโจ้ ชายคนนั้นก็บอกกับแฟนสาวของเขาด้วยความโกรธว่า “ฉันจะทำให้สถานที่นี้เป็นไวรัลพวกหลอกลวงอย่างแน่นอนอีวอนน์ เพียงแค่คุณรอ เมื่อฉันกลับไปสิ่งแรกที่ฉันจะทำคือโพสต์ลงบน Travago …”

ในเวลาเดียวกัน

ณ เมืองเอส

เอลิออร์ผลักประตูให้เปิดออก และเข้าไปเมื่อเข้าก้าวเท้าเข้ามา เขาก็ได้กลิ่นเหล้าตลบอบอวล!

เขามองไปที่ผู้ชายที่นั่งอยู่บนพื้น “ไม่มีใครบอกว่าเขาหรือไง? ดื่มให้ตายความเศร้าโศกก็ไม่หนีไปไหนหรอก”

ผู้ชายที่อยู่บนพื้นไม่สนใจเลย เขาคลำหาขวดแล้วเทเหล้าลงคอ มีขวดที่มีรูปร่างและขนาดแตกต่างกันจำนวนมากกลิ้งอยู่บนพื้นรอบ ๆ ตัวเขา

“เฮ้! พูดอะไรสักอย่างสิ!" เอลิออร์มองไปที่ชายคนนั้นที่เมาจนหมดสติ และรู้สึกถึงความเศร้าโศกที่อธิบายไม่ได้ในอกของเขา ตามมาด้วยความโกรธที่ไม่อาจจะพรรณนาได้ เขาอาจจะโกรธผู้ชายคนนั้นที่น่าสมเพชมาก ดังนั้นในที่สุดเขาก็ไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป เขารีบวิ่งไปข้างหน้าและหยิบคอเสื้อคนที่อยู่ที่พื้นที่มีสภาพเหมือนคนจรจัดขึ้นมาจากพื้น เขาคำรามใส่หน้าคน ๆ นั้น “นายตื่นได้แล้ว! นายบอกกับฉันไม่ใช่หรอ ว่านายจะตามหาเธอ ถ้ามันต้องใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดของชีวิตนาย? แล้วดูสภาพของนายตอนนี้สิ!”

เมื่อพ่อบ้านโอ้คส์โทรเรียกเอลิออร์มาที่นี่เขาแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ตลอดสามปีที่ผ่านมา แม้ว่าฌอนจะรู้สึกเสียใจและหดหู่ใจที่สุด แต่เขาก็ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองเป็นแบบนี้ เขาไม่เคยหาสิ่งปลอบใจอย่างเช่นพวกเหล้าต่าง ๆ ที่เขากระดกมันลงคออย่างเช่นทุกวันนี้

ฌอนบอกว่าเขาต้องการพบเธอ ไม่ว่าเธอจะเป็นหรือตาย มีเพียงคน ๆ และเขาควรจะใช้เวลาทุกนาทีในการค้นหาตัวเธอ และไม่ควรจะเสียเวลาไปกับบางสิ่งที่ไร้จุดหมายอย่างโรคพิษสุราเรื้อรังเช่นนี้

"ตื่น! ตื่นได้แล้ว! นายไม่ได้บอกฉันว่านายจะไม่เสียเวลาไปกับการดื่ม? นายไม่ได้บอกว่านายจะหาเธอพบอย่างแน่นอนหรือ? แล้วมันคืออะไร ในตอนนี้?

“นายลืมสิ่งที่นายพูดไปหรือเปล่า?

“หรือจริง ๆ แล้วนายกก็น่าสงสารพอ ๆ กับ ไฮด์ โซรอส?

“สามปีเพียงพอหรือไม่ที่จะทำให้นายยอมแพ้? สามปีเพียงพอที่จะทำลายนายหรือไม่?”

เอลิออร์เขย่าฌอนที่ปกเสื้อ คอปกเสื้อเขานั้นมันสกปรกมากจนไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเสื้อตัวนี้มีมูลค่าหลายพัน อย่างไรก็ตามเอลิออร์ไม่ได้รังเกียจสิ่งสกปรก ตอนนี้เขาแค่ต้องการดึงเปลือกนอกที่ยุ่งเหยิงและหดหู่ของชายคนหนึ่งออกจากนรกที่ต้องคำสาปของเขา!

ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ที่ไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง มันฟังดูแปลก ๆ

เอลิออร์กระพริบตาชั่ววินาที "นายหัวเราะอะไร?" เขาดึงฌอนที่คอเสื้อแรงขึ้น แต่เสียงหัวเราะก็ยังไม่หยุด ในความเป็นจริงมันดังขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยซ้ำ

"นายหัวเราะอะไร? เป็นเรื่องตลกสำหรับนายมากหรือไง?” เอลิออร์ตำหนิเขาด้วยความโกรธ

"...มันตลกมาก” ชายที่เขาดึงคอปกเสื้ออยู่นั้น ผมหน้าม้าของเขายาวพอที่จะปิดตาของเขาได้แล้ว เอลิออร์มองไม่เห็นการแสดงออกของชายคนนี้อย่างชัดเจน แต่เขาสามารถเห็นริมฝีปากของเขาที่ขยับได้ “ตลกมาก! ฉันต้องเป็นคนงี่เง่าคนเดียวในโลก ที่หลับใหลทุกคืนโดยมีความจริงอยู่เคียงข้างเท่านั้น ความจริงที่จะทำผิดไปเรื่อย ๆ จนถึงที่สุด”

"เฮ้ นาบตื่นได้แล้ว นายกำลังพูดอะไรบนโลกนี้!” เอลิออร์คิดว่าเครื่องดื่มกำลังเข้าสู่สมองของฌอน และเหล้าได้ทำให้เขาพูดจาไม่รู้เรื่อง

“ฉันตื่นอยู่เต็มตา ปล่อยฉัน!” คนขี้เมาปัดมือของเอลิออร์ออกจากคอเสื้อของเขา เขาลดศีรษะลงขณะที่เขาพูดว่า “ฉันตื่นมากพอแล้ว ฉันไม่เคยตื่นมากไปกว่าตอนนี้ ทุกคืนนอนหลับโดยมีความจริงอยู่เคียงข้างฉัน…”

“เฮ้ นายกำลังพูดถึงอะไรในโลกใบนี้หรอ?”

“แต่ฉันพลาดโอกาสเกือบทั้งชีวิต…” ชายคนนั้นไม่สนใจเอลิออร์ ศีรษะของเขาลดลงขณะที่เขาพึมพำกับตัวเอง กำปั้นของเขากำแน่นตลอดเวลา แต่ตอนนี้เขาค่อย ๆ คลายนิ้วออกต่อหน้าเอลิออร์เผยให้เห็น…“ความคิดที่แท้จริงของเธอ ความเสน่หาความรักของเธอ เธอเขียนมันทั้งหมดไว้ที่นี่ และมันอยู่ติดกับที่ที่ฉันนอนทุกคืนข้าง ๆ หมอนของฉัน…เอลิออร์ฉันไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ ฉันไม่มีความกล้าที่จะฝืนใจต่อไปหลังจากเห็นสิ่งเหล่านี้”

เอลิออร์มองตามทิศทางที่นิ้วชี้ไป เขาจ้องมองไปที่ลิ้นชักข้างเตียง จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าลิ้นชักเลื่อนออกอยู่ และมุมหนึ่งของพื้นด้านล่างที่พวกมันเคยอยู่ถูกยกขึ้น

เขามองย้อนกลับไปที่มือที่ผายออกของฌอน ...

“ฉันไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่…” ชายคนนั้นพูดพร้อมกับก้มหัวลง ...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงเสน่หา คุณชาย อันตราย