ไรอันตกใจมากที่เมเดลีนเข้ามาเยี่ยมเขากะทันหัน “มีอะไรหรือเปล่าเอวลีน? ให้ผมช่วยอะไรไหม?”
เมเดลีนวางเอกสารการหย่าที่เธอรวบรวมไว้และใบหย่าที่เซ็นแล้วลงตรงหน้าไรอัน
“ฉันรวบรวมเอกสารเรียบร้อยแล้ว ไรย์ คุณเพียงแค่ต้องเซ็นมันเท่านั้น” เมเดลีนยื่นปากกาให้ “ฉันรู้สึกขอบคุณไอบีซีไอที่ดูแลครอบครัวของพนักงานเป็นอย่างดี แต่ไม่ว่ายังไงครอบครัวของฉันก็ควรจะเป็นเจเรมี่”
ความสงบเยือกเย็นของไรอันชะงักนิ่งไปชั่วครู่
“เจเรมี่บอกฉันแล้วว่าเงื่อนไขในการเข้าร่วมไอบีซีไอของเขาคือต้องการให้คุณช่วยปกป้องฉันและลูก ๆ ไว้”
เมเดลีนเฝ้ามองใบหน้าของไรอันว่าเขามีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
“การแต่งงานกับฉันคงต้องเป็นคำสั่งจากหัวหน้าของคุณ และตอนนี้ภารกิจก็สิ้นสุดลงแล้ว ฉันคิดว่าเราควรยุติความสัมพันธ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นนี่เสียที ฉันขอบคุณที่คุณคอยปกป้องพวกเรามาตลอดค่ะไรย์”
ไรอันฟังอย่างใจเย็นและรับเอกสารการหย่ามาไว้ในมือ
“ตราบใดที่มีความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง ภารกิจก็ไม่มีทางสำเร็จหรอกนะ” ไรอันชำเลืองมองเอกสารแล้วเงยหน้าขึ้น “ผมอยากจะขออะไรสักอย่างได้ไหม เอวลีน?”
เมเดลีนครุ่นคิดแวบหนึ่งก่อนจะตอบ “ตราบใดที่อยู่ในความสามารถของฉัน ฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุด”
“ผมแน่ใจว่าคุณทำได้” ไรอันยิ้มในขณะที่ดวงตาของเขามีความหวัง “อีกสองวันจะถึงวันเกิดครบรอบอายุ 30 ปีของผม ผมอยากใช้เวลาในช่วงสำคัญแบบนั้นกับคุณ และคิดเสียว่านี่เป็นหนทางอันสวยงามเพื่อยุติการแต่งงานในนามระหว่างเรานะครับ”
นี่แทบจะเป็นคำขอที่แปลกประหลาดสุด ๆ และเมเดลีนเองก็คิดหาเหตุผลที่จะปฏิเสธไม่ได้ “ค่ะ วันนั้นฉันจะเอาใบหย่ามาให้อีกครั้งก็แล้วกัน”
“โอเคครับ” ไรอันตกลงและไม่พยายามรั้งเธอไว้อีก
เมเดลีนไม่ได้อยู่ต่อเธอออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลโจนส์ในทันที
ขณะนั่งอยู่ตรงหน้าต่างบานใหญ่ในห้องอ่านหนังสือ มุมปากของไรอันขยับเล็กน้อยพลางจ้องมองร่างบางที่กำลังห่างออกไปของเมเดลีน
…
เมื่อกลับถึงบ้าน เมเดลีนก็บอกทุกอย่างกับเจเรมี่ ทั้งข้อประนีประนอมของไรอันรวมถึงวันเกิดครบรอบ 30 ปีของอีกฝ่าย
เอวารู้สึกเสียใจมากเมื่อรู้ว่าเจเรมี่ต้องทนทุกข์กับอะไรมาบ้าง “ฉันเคยคิดว่าเจเรมี่ไม่สนใจเธอเลยแมดดี้ แต่ตอนนี้ฉันเริ่มอิจฉาเธอแล้วล่ะ”
“มีอะไรให้อิจฉา? เขาเคยทรมานฉันจนฉันอยากตายเลยน่ะนะ?” เมเดลีนกล่าวติดตลก
แม้จะรู้ว่าเมเดลีนล้อเล่น แต่เอวาก็ย้ำด้วยสีหน้าจริงจัง “ตอนนี้ฉันเชื่อแล้วล่ะ ว่าคนที่จะทำให้เธอเป็นทุกข์และเจ็บปวดที่สุด คือคนที่เธอรักมากที่สุด หมายถึงคงไม่มีอะไรส่งผลกระทบต่อเธอมากเท่าเขาแล้วล่ะ หรือว่าไม่จริง?”
เมเดลีนคิดว่าตรรกะนั้นก็สมเหตุสมผล “ว่าแต่เธอบอกว่าวันนี้จะต้องทำอะไรบางอย่างที่นี่ไม่ใช่เหรอ? จะทำอะไรล่ะ?”
เอวาถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง “เมื่อวันก่อนผู้หญิงคนนั้นซื้อชุดเครื่องประดับจากร้านหรูที่นี่น่ะสิ ฉันบอกแล้วว่าไม่อยากได้ แต่เพราะซื้อมาแล้ว เจ้าหน้าที่บอกว่าฉันต้องมาทำเรื่องคืนด้วยตัวเองน่ะ”
“ที่ว่า ‘ผู้หญิงคนนั้น’ เธอหมายถึงแม่ของเธอเหรอ?”
“ฉันไม่มีแม่แบบนั้น” การแสดงออกของเอวาดูบึ้งตึงขึ้นมา “เธอรู้ไหมว่าตอนนั้นพวกเขาทำอะไรกับฉันบ้าง แมดดี้?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...