เธอมีเพียงความคิดเดียวเท่านั้นคือต้องช่วยเมเดลีน
เมเดลีนไม่คิดว่าเอโลอิสจะมีแรงเยอะเป็นอีกเท่าตัวเพื่อที่จะเข้าไปช่วย ‘เธอ’
ร่างบางเดินเซถอยหลังไปสองก้าวก่อนจะชนเข้ากับชั้นหนังสือข้างตัว
ชั้นหนังสือแกว่งไปแกว่งมาราวกับว่ามันกำลังจะล้มลง
การชนนั้นทำให้เธอรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่เมเดลีนไม่มีเวลามากังวลเกี่ยวกับตัวเองนัก เพราะขณะนี้เธอเห็นผู้เป็นแม่กำลังก้าวเข้าไปในกองไฟแล้ว
“แม่!” เธอร้องออกมาแล้ววิ่งไปกอดเอโลอิสไว้ด้วยน้ำตาที่ไหลอาบหน้า
“ดูหนูสิ แม่ หนูคือเอวลีนจริง ๆ!” เมเดลีนกอดเอโลอิสแล้วเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“เอวลีนของฉัน...” เอโลอิสตกตะลึงไปชั่วครู่ ขณะที่จ้องหน้าเมเดลีนอย่างว่างเปล่า ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและคำถามมากมาย “ไม่ คุณไม่ใช่เอวลีน เธอไม่เคยคุยกับฉันเลย เธอเกลียดฉัน คุณไม่ใช่... แค่ก แค่ก แค่ก คุณไม่ใช่...”
เมเดลีนโอบแขนรอบตัวเอโลอิส “เอวลีนเลิกเกลียดแม่ไปนานแล้วค่ะ หนูรู้ว่าคุณไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเอวลีน เธอจะไม่โทษคุณอีก”
“เอวลีนไม่โทษฉันแล้วเหรอ?” ราวกับว่าคำพูดของเมเดลีนจะทะลุไปถึงเอโลอิส เอโลอิสยกมือขึ้นแตะแก้มที่เปื้อนน้ำตาของลูกสาว พลางขมวดคิ้ว “เธอไม่โทษฉันแล้วจริง ๆ เหรอเอวลีน?”
เมเดลีนพยักหน้าและบีบมือของเอโลอิส “จริงสิคะ เอวลีนไม่โทษแม่ เอวลีนรักแม่มาก แค่ก แค่ก”
เอโลอิสดูเหมือนจะเข้าใจและยิ้มอย่างโล่งใจ “ถ้าอย่างนั้นคุณจะกลับบ้านกับฉันไหม เอวลีน?”
“ค่ะ! หนูจะกลับบ้านกับแม่นะ! ครอบครัวของเราจะไม่แยกจากกันอีก!”
“จ้ะ” รอยยิ้มแห่งความรักปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเอโลอิส เธอยกมือขึ้นลูบศีรษะของเมเดลีน แต่จู่ ๆ สายตาที่หวาดระแวงก็กลับมาบดบังความใจดีของเธออีกครั้ง
เมเดลีนเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอเห็นเอโลอิสวิ่งมาข้างหลังเธอ
ชั้นวางหนังสือที่แกว่งไปมาเสียสมดุลและล้มลงอย่างแรง มันทับร่างของเอโลอิสที่วิ่งเข้ามาปกป้องเมเดลีนจนล้มลงกับพื้น
จากนั้นเมเดลีนก็รู้ตัวว่าที่เอโลอิสวิ่งมาข้างหลังก็เพื่อที่จะได้ปกป้องเธอเอาไว้
“แม่!” เมเดลีนกรีดร้องแล้วโผเข้าหาเอโลอิสทันที
“แม่คะ แค่ก แค่ก...” เมเดลีนรู้สึกอึดอัดและเริ่มไออีกครั้ง กองขยะรอบห้องทำให้ควันหนาทึบกว่าเดิมแล้วลอยเข้ามาอุดจมูกของเธอ
“ลินนี่! ได้ยินผมไหม ลินนี่?” น้ำเสียงของเจเรมี่ที่ดูเป็นกังวลเริ่มดังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ
“เจเรมี่...” เมเดลีนพยายามตะโกนตอบ แต่ดูเหมือนมีบางอย่างติดอยู่ในลำคอของเธอ มันทำให้ความพยายามทั้งหมดของเธอสูญเปล่า
การมองเห็นเริ่มพร่ามัว แม้แต่การหายใจก็ลำบากมากขึ้นกว่าเดิม
“ลินนี่! ลินนี่!” เมเดลีนได้ยินเจเรมี่ตะโกน ก่อนที่ความรู้สึกจะถูกบดบังไปด้วยอุณหภูมิที่แผดเผารอบตัว
ท่ามกลางความสับสน เธอสัมผัสได้ถึงลมเย็น ๆ ที่พัดมาเหนือเธอ พร้อมกับกลิ่นและความรู้สึกปลอดภัยที่คุ้นเคย ทำให้ความวิตกกังวล และความกลัวภายในของเธอสงบลงอย่างช้า ๆ
“เจเรมี่...” เมเดลีนพึมพำ เธอเห็นเจเรมี่ปรากฎในสายตาที่พร่ามัว ก่อนทุกสิ่งตรงหน้าจะกลายเป็นสีดำ
เธอเริ่มฝันร้ายเกี่ยวกับเอโลอิสที่ยังคงถูกทับอยู่ใต้ชั้นหนังสือและเต็มไปด้วยเลือด
เธอเอาแต่กรีดร้องว่า ‘แม่ แม่’ แต่เอโลอิสก็ไม่ฟื้นเลย
“ลินนี่ ลินนี่ ฟื้นแล้วเหรอ?”
เสียงทุ้มนุ่มของเจเรมี่ลอยเข้ามาในหูของเธอ เมเดลีนเบิกตาโพลงแล้วลุกขึ้นนั่ง แววตาเต็มไปด้วยความสับสน “แม่! เจเรมี่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ