เมเดลีนไม่ได้ขัดขืนอีกต่อไปแล้ว เมื่อคิดว่านี่อาจจะเป็นความสนุกและความสุขที่เธอสามารถมอบให้เจเรมี่ได้ก่อนที่พวกเขาจะแยกจากกัน เธอก็ค่อย ๆ ยกแขนขึ้นเพื่อกอดเขาแน่นและเริ่มจูบปากของเขา…
วันต่อมา
เมเดลีนตื่นขึ้นจากความฝันที่ยาวนานและลึกซึ้ง เจเรมี่ไม่อยู่ที่เตียงและความอบอุ่นที่หลงเหลืออยู่ของเขาก็จางหายไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นกลิ่นของเขาก็ยังคงคลุ้งอยู่ในจมูกของเธอ
เธอยื่นมืออกไปลูบหมอนที่เขานอนอย่างอ่อนโยน
‘เจเรมี่ ฉันเชื่อว่าถ้าคุณเป็นฉัน คุณคงจะตัดสินใจแบบเดียวกัน”
‘ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความปลอดภัยและสุขภาพของลูก ๆ ของเรา’
หลังจากที่เมเดลีนทำความสะอาดร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอเห็นคาเลนกำลังเดินเขามาหาเธอทันทีที่เธอออกจากห้อง
คาเลนบ่นพึมพำอย่างโกรธเคืองทันทีที่เธอเห็นเมเดลีน “เจเรมี่ตื่นตั้งแต่สามชั่วโมงก่อนและทำอาหารเช้าให้กับแจ็ค เขาทำแม้กระทั่งส่งลูกไปโรงเรียนอนุบาลหลังจากที่กินเสร็จและต้องไปทำงานแล้วตอนนี้ เธอในฐานะภรรยายังหลับสบายได้ยังไงกัน?”
เมเดลีนจัดเสื้อโค้ทของเธออย่างเอื่อยเฉื่อย “ลูกชายเป็นของฉันคนเดียวเหรอคะ? มีกฎหมายข้อไหนที่กำหนดให้ภรรยาต้องตื่นแต่เช้าเพื่อทำอาหารและส่งลูกไปโรงเรียนในทุก ๆ วันเหรอคะ?”
“ไม่มีกฎหมายข้อไหนบอกแบบนั้นหรอก แต่ธรรมเนียมนี้ถูกส่งต่อมาหลายพันปีแล้ว” คาเลนกล่าวอย่างมั่นใจ
เมเดลีนหัวเราะคิกคัก “ศตวรรษที่ 17 ได้ผ่านมานานแล้วนะคะ คุณแม่สามีขา คุณยังอยู่ในอดีตอีกงั้นเหรอ?”
“เธอ…”
“มีตอนไหนบ้างล่ะคะ ที่ฉันไม่เคยทำอาหารเช้าและอาหารเย็นให้กับเจเรมี่ตอนที่ฉันแต่งงานกับเขาเมื่อหกปีก่อน? แต่เขาสนใจไหม? ถึงเวลาต้องผลัดกันแล้วล่ะค่ะ”
“เธอหมายความว่าไงที่ว่าผลัดกัน? เธออยากให้เจเรมี่รับใช้เธอไปตลอดชีวิตงั้นเหรอ?”
ในตอนแรกเมเดลีนไม่อยากทะเลาะกับคาเลนอีกต่อไป แต่เมื่อเธอคิดถึงคำขู่และคำสั่งของเฟลิเป้
“ในตอนนั้น เขาทำลายการแต่งงานเหนือจินตนาการและความสุขทั้งหมดของฉัน วันนี้ ฉันจะคืนมันให้เป็นสองเท่า”
“เอวลีน เธอ…”
“คุณหมายความว่าไงที่ว่า ‘เธอ’ ? คุณนี่เหมือนกับลูกชายของคุณจริง ๆ คิดเหรอว่าฉันยังคงมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับเขา คนขี้ขลาดที่โยนฉันลงนรกนั่นะเหรอ? หึ! ฉันแค่กำลังหลอกและเล่นตามน้ำไปกับเขา ฉันไม่รักเขาตั้งนานแล้ว แม้ว่าก่อนหน้านี้มีความชอบนิดหน่อย ตอนนี้ทั้งหมดก็หายไปแล้ว” เมเดลีนกล่าวอย่างใจเย็นและเฉียบขาดก่อนที่จะหันหลังไปอย่างสง่างาม
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เท้าของเธอเหยียบลงบนบันไดขั้นแรก ภาพของเจเรมี่ที่กำลังยืนอยู่ด้านล่างของบันไดก็สะท้อนเข้าในรูม่านตาของเธอ
ชายคนนั้นกำลังถือช่อดอกยิปโซสีฟ้าพาสเทล รูปร่างที่สูงและผอมเพรียวของเขาทั้งสูงส่งและสง่างาม แต่ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขากลับเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อนและกระวนกระวาย
เมเดลีนมั่นใจว่าเจเรมี่ได้ยินสิ่งที่เธอกล่าวกับคาเลนเมื่อกี้
เขาได้ยินทุกถ้อยคำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...