เมเดลีนเพิ่งจะได้สติ สิ่งล่าสุดที่เธอได้เห็นในทันทีที่เธอลืมตาขึ้นคือเจเรมี่และลาน่ากำลังคุยกันอยู่หน้าประตูห้องผู้ป่วย
และสิ่งสุดท้ายที่เธอคาดการณ์ว่าจะได้เห็น คือ การที่จู่ ๆ ลาน่าก็จูบเจเรมี่อย่างกะทันหันด้วยรอยยิ้มที่สดใส
ทันใดนั้น เมเดลีนก็กำหมัดและลุกขึ้นนั่ง เธอกำลังจะลงจากเตียงในตอนที่รู้สึกถึงความเจ็บปวดซึ่งกระเพื่อมเป็นระลอกในท้องของเธอ เธอกุมหน้าท้องโดยอัตโนมัติ
ลาน่ารู้ว่าความพยายามของเธอในครั้งนี้จะไม่ประสบความสำเร็จ และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เธอถูกเจเรมี่ผลักออกไปอย่างรุนแรงอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามตำแหน่งของพวกเขาและการกระทำเมื่อกี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เมเดลีนคิดว่าลาน่าจูบเจเรมี่
เจเรมี่ยังคงอยากที่จะถามลาน่าเรื่องยา แต่ในตอนที่เขาได้ยินเสียงในห้องพักผู้ป่วยและหันกลับไป เขาก็พบว่าเมเดลีนตื่นแล้ว
“ออกไปจากนี่ซะ อย่ามาขัดหูขัดตาต่อหน้าภรรยาของฉัน”
เขาไล่ลาน่าไปด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและผลักประตูเข้าไปในทันที เมื่อเห็นเมเดลีนกำลังขมวดคิ้วและกุมหน้าท้อง เขาก็ยิ่งรู้สึกกังวล
“ลินนี่ คุณหมดสติที่บ้านเมื่อกี้นี้ ตอนนี้คุณเป็นไงบ้าง? ท้องของคุณยังไม่หายดีใช่ไหม?” เจเรมี่เดินไปจับมือของเมเดลีน แต่เธอก็เลี่ยงมือของเขาอย่างเฉียบขาด
เจเรมี่รู้ว่าเมเดลีนอยู่ภายใต้ฤทธิ์ของยา มันจึงทำให้เธอเข้าใจเขาผิด เขาอยากที่จะอธิบายกับเธออย่างชัดเจน แต่เขาจะพูดอะไรได้?
ถ้าเขาพูดว่า อดัม บราวน์ กำลังปฏิบัติกับเมเดลีนเหมือนหนูทดลองและที่เธอเห็นทั้งหมดเป็นเพียงภาพหลอนของตัวเธอเอง อารมณ์ของเธอมีแต่จะแย่ไปกว่าเดิมเท่านั้น
“ฉันไม่อยากเห็นคุณตอนนี้ ออกไป” เมเดลีนไล่เขาออกไปและกลับไปนอนบนเตียง
เจเรมี่ไม่อยากให้เมเดลีนอารมณ์เสียในครั้งนี้ ดังนั้นเขาจึงเดินออกไปจากห้องผู้ป่วยเพื่อยืนเฝ้า
เขาโทรหาอดัม สายถูกต่อติด แต่ไม่มีใครรับสาย
เขาโทรอีกสายถึงแดเนียล ความสัมพันธ์ของแดเนียลและอดัมถือว่าดี แต่ในตอนที่เขาถามเรื่องอดัมอยู่ที่ไหน แดเนียลก็ไม่รู้อะไรเลยเช่นกัน
เจเรมี่วางสายโดยไม่บอกแดเนียลถึงสถานการณ์ของเมเดลีน
ระหว่างทาง เจเรมี่ก็ขอเด็ก ๆ ไม่ให้บอกปู่ย่าตายายของพวกเขาเรื่องอาการป่วยของแม่ สองพี่น้องก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
เจเรมี่ซื้อดอกไม้ช่อหนึ่ง เขาเข้าไปในโรงพยาบาลในขณะที่อุ้มลิเลียนและจูงมือข้างหนึ่งของแจ็คสัน
“คุณสุดหล่อ เรายังจะออกไปข้างนอกและเล่นกับคุณแม่ได้ไหมคะ?” ลิเลียนถามขณะที่กะพริบตากลมโตใส่ของเธอ
เจเรมี่ผิดหวังเล็กน้อย “ลิเลียน ฉันคือคุณพ่อของหนูนะ เรียกพ่อว่า ‘แดดดี้’ สิ”
ลิเลียนยิ้มอย่างไร้เดียงสา แต่หน้าของเธอจริงจัง “คุณคือคุณสุดหล่อ คุณพ่อของลิเลียนไม่ได้อยู่ที่นี่”
ความหมายนั้นชัดเจน ลิเลียนยังคงถือว่าเฟลิเป้เป็นพ่อทางสายเลือดของเธอ
เจเรมี่ก็ทำได้แค่ผิดหวังด้วยความเงียบงันขณะที่เขาไม่โทษเจ้าซาลาเปาน้อย
ขณะที่พวกเขามาถึงยังแผนกผู้ป่วยในพร้อมกับลูก ๆ ทั้งสองของเขา พยาบาลก็วิ่งเข้ามาและบอกกับเขาว่า “ภรรยาของคุณเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาล มีผู้ชายคนหนึ่งมารับเธอไปค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...