“ลินนี่...”
“หยุดเรียกชื่อฉัน ฉันไม่อยากเจอคุณอีก” เมเดลีนขัดจังหวะเขาแล้วเช็ดน้ำตาตัวเอง
“ฉันไม่เคยตำหนิที่คุณลืมฉัน ฉันรู้ดีว่าที่คุณเจ็บตัวก็เพราะต้องการปกป้องฉัน และนั่นคือสิ่งที่ลาน่าใช้เป็นโอกาสในการจัดการกับคุณ แต่นี่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างของคุณที่จะขาดมนุษยธรรมจนต้องฆ่าพ่อกับแม่ของฉัน!”
“เจเรมี่ ฉันไม่รู้ว่าต้องมองหน้าคุณยังไง ตอนที่ฉันเห็นคุณ ฉันก็เอาแต่คิดถึงการตายของพ่อกับแม่ตลอด ฉันหยุดคิดไม่ได้ คุณเข้าใจบ้างไหมว่าฉันต้องรู้สึกยังไง?”
เมเดลีนสูดหายใจลึกแล้วอุ้มเด็กน้อยที่ไร้เดียงสาขึ้นจากโซฟา ก่อนจะมุ่งหน้าเดินออกไปจากเลานจ์
เจเรมี่คุกเข่าลงกับพื้น ในสมองมีเพียงคำพูดของเมเดลีนพูดซ้ำไปซ้ำมา ในตอนนั้นเขารู้สึกเหมือนมีมีดคม ๆ นับพันทิ่มตรงเข้าสู่หัวใจตัวเอง
ถ้าหากว่าเป็นไปได้เขาอยากจะแลกชีวิตของเขากับเอโลอิสและฌอน
เขายอมทำทุกอย่างเพื่อแลกกับการที่เมเดลีนจะรู้สึกดีขึ้นอีกครั้ง
‘แต่ลินนี่ คุณไม่ให้โอกาสผมได้ขอโทษและไถ่โทษกับสิ่งที่ทำอีกต่อไปแล้ว’
หลังจากที่เมเดลีนออกไปจากเลานจ์ เธอก็เดินตรงไปเรื่อย ๆ
เมื่อเดินผ่านตรงบันได เธอก็ได้ยินเสียงของไรอัน “เลิกทำให้ผมเสียเวลากับเรื่องพวกนี้ได้แล้ว ดูแลคนของคุณให้ดีแล้วอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก”
หลังจากที่เมเดลีนได้ยินแบบนั้นและอยากจะเดินจากไป ไรอันก็วางสายและเดินลงมาจากบันไดโดยบังเอิญ
เมื่อเห็นเมเดลีน เขาก็ตกใจ ทว่าก็ส่งยิ้มอบอุ่นกลับมาให้ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตาแดงก่ำและกำลังน้ำตาคลอ เขาก็เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “คุณโอเคไหมครับ คุณนายวิทแมน?”
เมเดลีนส่ายหัว “ตอนนี้ฉันทนได้ทุกสิ่งแล้วล่ะค่ะ จะไม่ยอมให้ตัวเองเป็นอะไรไปเพราะเห็นแก่ลูก”
ไรอันไม่ได้ถามอะไรต่อ และเพียงแค่ส่งยิ้มกลับมา “ผมได้ยินมาว่าหลังจากวันนั้นคุณได้รับบาดเจ็บที่ตา เมื่อกี้ผมรู้สึกโล่งใจที่คุณไม่ได้ยอมให้ผู้หญิงสองคนนั้นกระทำต่อคุณเพียงฝ่ายเดียว”
“เป็นความจริงค่ะที่ก่อนหน้านี้ฉันอาจจะมองเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก บางทีอาจจะเพราะอะไรสักอย่าง ทำให้ฉันกลับมามองเห็นได้ชัดเจนเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้” เมเดลีนอธิบาย เธอจำได้ว่าเธอรู้สึกเศร้าใจและสะเทือนใจเพียงใดในวันที่เจเรมี่มาเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาล
หลังจากที่โยนใบหย่าให้กับเขา เธอก็ออกไปจากห้อง
เมื่อหญิงสาวออกมาได้ไม่นาน เธอก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังจะมองเห็นได้อีกครั้ง
ไรอันพยักหน้าราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่อย่างลึกซึ้ง แล้วเอ่ยว่า “ผมไม่รู้จริง ๆ ว่า ฮานส์ ซิมเมอร์แมน ที่ลาน่าพูดถึงคือเจเรมี่ วิทแมนสามีของคุณ ผมรู้ว่าเจเรมี่เป็นที่รู้จักกันดีในเกลนเดล แต่ก็ไม่เคยเห็นเขามาก่อน”
เขาพูดแล้วรำพึงว่า “ฤดูร้อนปีนั้นหลังจากที่จบมัธยมปลาย ผมไปเรียนต่อที่ต่างประเทศและเพิ่งกลับมาได้ไม่นาน พ่อกับแม่ก็หวังว่าผมจะมีครอบครัวเป็นตัวเป็นตนสักที จะได้ช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัวอย่างเต็มตัว แต่ไม่รู้สิ ผมกลับชอบวาดภาพมากกว่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...