จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1282

มดปลวกตัวน้อยก็โค่นต้นไม้ใหญ่ได้

เยวี่ยจี้กล่าวตอบว่า

“จักรพรรดิเทพสวรรค์จิวชางเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์แห่งเผ่าปีศาจที่เพิ่งเลื่อนระดับได้เมื่อล้านปีก่อน หากย้อนกลับไป เขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงยิ่งในยุคเดียวกับจอมเทพนิรันดร์และอีกหลายคน พวกเขาทุกคนล้วนปรารถนาว่าสักวันจักต้องขึ้นสู่อาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ให้จงได้ ในหมู่พวกเขาเหล่านั้น จักรพรรดิเทพสวรรค์จิงชางและจอมเทพนิรันดร์ต่างเป็นคู่ปฎิปักษ์กันมาตั้งนานแล้ว หลังจากนั้นมา จักรพรรดิเทพสวรรค์จิวชางได้รับผลวิญญาณเต๋าจักรพรรดิมาจากดินแดนจักรพรรดิสวรรค์ และทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้โดยตรง!”

สีหน้าของเย่หยวนตกลงทันใด เขากล่าวถามไปว่า

“ดังนั้นจักรพรรดิเทพสวรรค์จิวชางจึงกลับไปฆ่าจอมเทพนิรันดร์? แล้วส่งพวกเจ้ามาขโมยสมบัติในดินแดนของเขา?”

เยวี่ยจี้เค้นเสียงหัวเราะอย่างขมขื่นและกล่าวว่า

“ในสายตาของจักรพรรดิเทพสวรรค์จิวชาง พวกเราเป็นได้แค่มดปลวก กระทั่งอาณาจักรราชันย์พระเจ้ายังไปไม่ถึง แล้วมีหรือที่บุคคลระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์จิวชางจะเรียกหาพวกเราโดยตรง? จอมเทพนิรันดร์มิได้ถูกจักรพรรดิเทพสวรรค์จิวชางฆ่าตาย พลังฝีมือของจอมเทพนิรันดร์หาใช่ชนชั้นกินเจ ต่อให้เป็นยอดเซียนอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ยังยากที่จะฆ่าเขาได้เช่นกัน! จักรพรรดิเทพสวรรค์จิวชางในตอนนั้นบาดเจ็บสาหัสกลับมา ส่วนที่ว่าใครเป็นคนฆ่าจอมเทพนิรันดร์ เรื่องนี้กลับไม่มีใครทราบ”

จากคำกล่าวของเยวี่ยจี้ เย่หยวนก็พอเข้าใจได้บ้างถึงเรื่องราวภายในมหาพิภพถงเทียน

ดูเหมือนว่ามหาพิภพถงเทียนแห่งนี้กลายเป็นนรกบนดินดีๆนี่เอง กอปรไปด้วยการฆ่าสังหารและฉกฉวยแย่งชิงโอกาสผลกำไรเต็มไปหมด ปรากฏว่า มหาพิภพถงเทียนแห่งนี้โหดร้ายเสียยิ่งกว่าดินแดนพฤกษานิรันดร์มาก

จุดหนึ่งที่เย่หยวนนึกเอะใจคือ หลังจากที่ศึกสัประยุทธ์ระหว่างจักรพรรดิเทพสวรรค์จิวชาง จอมเทพนิรันดร์ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส และในตอนนั้นเองเขาก็ถูกลอบสังหารโดยคนโลภบางคนที่ต้องการฉกชิงสมบัติในตัวเขา

อย่างไรก็ตามแต่ เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเย่หยวนเลย

เย่หยวนรู้จักจอมเทพนิรันดร์เพียงผิวเผินเท่านั้น และในเรื่องความสัมผัส มันยังห่างไกลเกินไปที่จะออกนามล้างแค้นให้แทนอะไรเทือกนั้น

ที่จอมเทพนิรันดร์สร้างดินแดนพฤกษานิรันดร์ขึ้นมา ทั้งหมดก็เพื่อเก็บรักษาสมบัติเวทย์สวรรค์และเต๋าของตัวเองเท่านั้น ส่วนเย่หยวนก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งที่ได้รับผลพลอยได้ไป

สุดท้ายนี้นี่เป็นเรื่องผลประโยชน์ที่พึงพาอาศัยซึ่งกันและกัน

เย่หยวนได้รับเต๋าของจอมเทพนิรันดร์ด้วยตนเองโดยที่อีกฝ่ายไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ

ลักษณะการสืบทอดชนิดนี้แตกต่างไปจากหลงเถิงที่ถ่ายทอดวรยุทธเผ่ามังกรให้เย่หยวนเองกับมือ นั้นคือความผูกผันเสมือนศิษย์-อาจารย์

ไม่ว่าจอมเทพนิรันดร์จะตายอย่างไร เย่หยวนก็ไม่มีเหตุอันใดที่ต้องไปช่วยล้างแค้นแทนเขา

แต่เรื่องราวความเดือดร้อนทั้งหมดที่ข่านนั่วและเยวี่ยจี้ก่อนขึ้น ไม่ว่าทั้งคู่จะได้รับคำสั่งมาทางตรงหรือทางอ้อม แต่เบื้องหลังผู้ชักใยตัวหมากทั้งหมดก็คือจักรพรรดิเทพสวรรค์จิวชาง

เย่หยวนมิได้สนใจเลยว่า จักรพรรดิเทพสวรรค์จิวชางจจะเป็นใคร ใหญ่มาจากไหน ต่อให้อีกฝ่ายเป็นถึงจอมเทพเต๋าบรรพกาล เย่หยวนเองก็ต้องฆ่าอีกฝ่ายให้ได้ในสักวัน!

แค่ว่าหากพินิจมองจากตอนนี้ หนทางยังคงอีกยาวไกลนัก

เย่หยวนมิได้เอ่ยปากกล่าวอันใด เพื่อรอให้เยวี่ยจี้กล่าวต่อให้เสร็จ

“สิ่งที่จักรพรรดิเทพสวรรค์จิวชางต้องการที่สุดคือ ไข่มุกสยบวิญญาณ! ดังนั้นเขาจึงสั่งผู้ใต้บัญชาให้ส่งข้ากับข่านนั่วมาในดินแดนพฤกษานิรันดร์ และผลที่ได้คือพวกเราก็พบมันจนได้!”

เยวี่ยจี้กล่าว

คู่สายตาเย่หยวนพลันหรี่แคบคล้ายจับผิด เขากล่าวถามขึ้นว่า

“ในเมื่อจักรพรรดิเทพสวรรค์จิวชางเป็นถึงยอดเซียนอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ แต่ไฉนยังต้องการสมบัติเวทย์สวรรค์ของจอมเทพนิรันดร์อยู่อีก บุคคลระดับชั้นนั้นย่อมมีสมับติล้ำค่าไม่ต่าง?”

เยวี่ยจี้คลี่ยิ้มบางแสนขมขื่นใจและกล่าวว่า

“สมบัติจักรพรรดิสวรรค์ประเภทจิตวิญญาณมันไม่ได้หาได้ง่ายๆเลย ต่อให้เป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์จิวชางเองก็ไม่เคยเห็นบ่อยนัก! โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไข่มุกสยบวิญญาณ อาจกล่าวได้ว่า มันเป็นสมบัติประเภทจิตวิญญาณระดับแถวหน้าของมหาพิภพถงเทียน! เมื่อผนวกรวมกับสมบัติราชาสวรรค์ชิ้นอื่นๆของจอมเทพนิรันดร์ จึงทำให้เขาสามารถต่อกรกับจักรพรรดิเทพสวรรค์จิวชางได้เสมอมา เพียงว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์จิวชางค่อนข้างโชคดีกว่าอีกฝ่าย เพราะท้ายที่สุดนี้เขาได้เสาะพบผลวิญญาณเต๋าจักรพรรดิและทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้เป็นคนแรกในหมู่พวกเขาทั้งหมด”

เย่หยวนพยักหน้าตอบ ท้ายที่สุดนี้เขาก็พอจะเข้าใจถึงจุดเริ่มต้นและจุดจบของเรื่องราวทั้งหมดว่า เพราะเหตุใดเผ่าปีศาจถึงบุกมารุกรานดินแดนแห่งนี้

“จักรพรรดิเทพสวรรค์จิวชางใช่หรือไม่? สักวันหนึ่ง ข้าจะทำให้มันรู้เองว่า มดปลวกตัวน้อยๆคนนี้ก็สามารถโค่นต้นไม้ใหญ่ได้!”

แววตาสาดประกายง้ำลึก จิตสังหารพรั่งพรูออกมาจากกายาเย่หยวนไม่หยุดหย่อน

เมื่อเห็นภาพฉากนี้ เยวี่ยจี้ถึงกับอึ้งพลางจับจ้องเย่หยวนอย่างมึนงง

คนที่กล้าพูดจาใหญ่โตขนาดนี้ได้ คงมีเพียงชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านางขณะนี้เท่านั้น

ยอดเซียนอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ นับเป็นการดำรงอยู่สูงสุดแห่งมหาพิภพถงเทียนแล้ว แม้กระทั่งจักรพรรดิเทพสวรรค์จิวชางที่เพิ่งสำเร็จอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้เพียงล้านปี แต่ขุมพลังความแกร่งกล้ากลับทำให้ทุกสิ่งกลายเป็นมดปลวกได้ในทันที

………………………..

มหาศึกสัประยุทธ์ครั้งใหญ่ได้ยุติลงแล้ว แต่ผลกระทบที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้รับยังคงปรากฏให้เห็นต่อไปจนชินตา

ดินแดนทั้งหมดของอาณาเขตมนุษย์ถูกทำลายสิ้นไม่เหลือ

เคล็ดสมบัติวิชามากมาย รวมไปถึงสิ่งปลูกสร้างอันเก่าแก่ของดินแดนต่างๆ ล้วนวินาศสิ้น เหลือแค่เพียงความว่างเปล่า

ยอดฝีมือของเผ่ามนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วนถูกเปลี่ยนกลายเป็นทาสของเผ่าปีศาจ และพวกเขาทั้งหมดต่างถูกล้างบางจนเหี้ยนโดยฝีมือของเย่หยวน

มวลมนุษย์ที่ยังหลงเหลือได้เดินทางกลับสู่บ้านอีกครั้ง พร้อมกับประสบการณ์อันโหดร้ายที่ยังคงฝังลึกไปอีกนาน

อย่างไรก็ตามแต่ สิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้นเย่หยวนหาได้กังวลแม้แต่น้อย

จุดเด่นที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์คือการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาจะสามารถบูรณะภูมิปัญญาต่างๆที่สูญสิ้นกลับมาได้อีกครั้ง

เย่หยวนตรงกลับมายังเผ่ามังกรเพื่อมาพบฟางเทียนและทุกคน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ