คุณสมบัติของสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
“โอสถศักดิ์สิทธิ์ย่อมรับซื้อโดยธรรมชาติ แต่จะต้องขึ้นอยู่กับคุณภาพโอสถที่หลอมกลั่นได้ ทางเราหอมหาสมบัติมีเกณฑ์พิจารณาอยู่เช่นกัน หากเป็นโอสถปราณเทวะ คุณภาพห้ามต่ำกว่าขั้นกลาง มิฉะนั้นทางเราขอสงวดสิทธิ์งดรับทุกประการ”
หงหยิงยังคงตกใจอยู่ลึกๆไม่เสื่อมคลาย แต่ภายนอกก็ยังสงบนิ่งดุจผิวน้ำ
นอกจากนี้นางยังงุนงงฉงนใจเป็นที่สุด ดูเหมือนว่าชายพิการคนนี้กำลังประสบปัญหาเรื่องเงินทอง
แต่…ทั้งๆที่เขารู้จักวรยุทธค่ายกลเต๋ากลั่นโอสถ แต่ไฉนถึงเป็นคนจนที่แม้แต่ห้องบ่มเพาะระดับเหลืองก็ไม่มีปัญญาเช่า?
เย่หยวนเองก็หาได้ใส่ใจว่าหงหยิงจะคิดอย่างไร เขายังคงถามต่อว่า
“ข้าสงสัยว่าเกณฑ์การรับซื้ออยู่ที่ราคาเท่าใด?”
หงหยิงหาได้รนร้อนใจอันใด นางกล่าวอธิบายด้วยความใจเย็นว่า
“โอสถปราณเทวะขั้นกลางรับซื้ออยู่ที่ยี่สิบห้าผลึกปราณเทวะระดับต่ำ โอสถปราณเทวะขั้นสูงอยู่ที่แปดสิบผลึกปราณเทวะระดับต่ำ และโอสถปราณเทวะขั้นยอดเยี่ยมอยู่ที่สี่ร้อยผลึกปราณเทวะระดับต่ำ”
ซึ่งราคาขายของโอสถปราณเทวะขั้นกลางในหอมหาสมบัติจะอยู่ที่ยี่สิบห้าผลึกปราณเทวะระดับต่ำ, โอสถปราณเทวะขั้นสูงจะอยู่ที่หนึ่งร้อยก้อน ขณะที่โอสถปราณเทวะขั้นยอดเยี่ยมเท่ากับห้าร้อยก้อน
เนื่องจากหอมหาสมบัติเป็นฝ่ายรับซื้อโดยตรง ดังนั้นเขาจึงต้องเก็บส่วนต่างไว้ทำกำไรโดยธรรมชาติ
เย่หยวนเองก็เห็นว่า ราคาประมาณนี้ค่อนข้างยุติธรรมมากแล้ว
แต่ในความเป็นจริง สิ่งที่ขายได้มากที่สุดยังคงเป็นโอสถปราณเทวะขั้นต่ำ
นักสู้โดยส่วนใหญ่จะใช้แต่โอสถปราณเทวะขั้นต่ำกันเท่านั้น
เนื่องจากเวลาใช้โอสถปราณเทวะที พวกเขาใช้กันยกโหลเป็นกองพะเนิน หากเป็นโอสถปราณเทวะขั้นกลางยังพอทำเนา แต่หากเป็นขั้นสูง พวกเขาต้องใช้จ่ายทีเป็นหลักร้อยถึงพันกว่าก้อน ซึ่งจำนวนผลึกปราณเทวะขนาดนั้น พวกเขาโดยส่วนใหญ่ไม่มีปัญญาจ่ายไหว
สำหรับโอสถปราณเทวะขั้นยอดเยี่ยม นั้นเป็นราคาที่สูงลิบลิ่ว
แต่กระนั้นอย่างไร หอมหาสมบัติถือคติที่ว่า ไม่ขายสินค้าที่ไร้คุณภาพต่อผู้บริโภค ดังนั้นไม่ว่าโอสถปราณเทวะขั้นต่ำจะมีความต้องการสูงเพียงใด แต่พวกเขาก็เลือกที่จะไม่ขายในท้ายที่สุด
เย่หยวนพยักหน้าขณะผสานมือกล่าวกับหงหยิงว่า
“ขอบพระคุณมากแม่นาง”
กวาดสายตามมองแผ่นหลังของชายหนุ่มที่คล่อยไกลห่างออกไป คู่ดวงเนตรไสวน้ำงามพลันกรอกไปมาเล็กน้อย
แม้นางจะคิดว่า เย่หยวนไม่สามารถหลอมโอสถปราณเทวะได้จริงๆ แต่หงหยิงยังคงสนใจในตัวเย่หยวนมิใช่น้อย
หลังจากเข้าสู่ห้องบ่มเพาะ เย่หยวนก็ดึงจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จมดิ่งลงไปในโลกแห่งศิลาจารึกบัลลังก์พิภพและทำตามที่หวูเฉินชี้แนะ ทันทีทันใดทัศนีภาพโดยรอบพลันพล่ามัวหนัก ราวกับเขาหลุดไปยังห้วงอวกาศสีขาวน้ำนม
จากนั้นเย่หยวนได้ค้นพบว่า อัตราการไหลของเวลสในที่แห่งนี้เร็วกว่าโลกภายนอกอย่างมาก
“ท่านอาวุโส มาเริ่มกันเถอะ!”
เย่หยวนสูดหายใจเข้าลึกๆพร้อมกล่าวขึ้นประดับคู่สายตาสุดแสนแน่วแน่
เขามีเวลาเพียงสิบวันเท่านั้น หรือเท่ากับหนึ่งร้อยวันในโลกแห่งศิลาจารึกบัลลังก์พิภพ!
ภายในระยะเวลาหนึ่งร้อยวัน เย่หยวนจะต้องฝึกฝนจนกว่าจะหลอมกลั่นโอสถปราณเทวะได้ นี่เป็นบททดสอบที่ท้าทายอย่างหาที่เปรียบไม่ เขามิอาจปล่อยทิ้งเวลาให้เสียเปล่าได้แม้แต่เสี้ยวอึดใจ
นี่เป็นภารกิจที่แทบเป็นไปไม่ได้เลย!
หวูเฉินกล่าวว่า
“หากเปรียบเทียบกับโอสถชั้นสามัญทั่วไป กระบวนการหลอมกลั่นโอสถศักดิ์สิทธิ์ทั้งยากและซับซ้อนกว่ามาก! เจ้าเคยหลอมกลั่นโอสถท้าทายสวรรค์มาแล้วก็จริง แต่นั้นก็ยังอยู่ในขอบเขตของโอสถชั้นสามัญทั่วไป! สมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์แรงกว่าสมุนไพรวิญญาณทั่วไปถึงหนึ่งหมื่น หรือกว่าหนึ่งแสนเท่า! ต่อให้เป็นสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำสุดก็ตาม! ดังนั้นแล้ว ก่อนที่จะหลอมกลั่นโอสถ เจ้าจะต้องทำความคุ้นเคยกับสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เสียก่อน! จงจำเอาไว้ เจ้ามีโอกาสแค่สิบครั้ง!”
สมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่เย่หยวนซื้อมา นั้นเท่ากับโอสถปราณเทวะทั้งหมดสิบชุด!
เขาไม่เพียงต้องใช้ทั้งสิบชุดนี้เพื่อนำมาวิจัยศึกษาสร้างความคุ้นเคย แต่เขายังต้องใช้ที่เหลือเพื่อหลอมกลั่นโอสถปราณเทวะได้สำเร็จ
นอกจากนี้เย่หยวนยังต้องเป็นโอสถปราณเทวะขั้นกลางขึ้นไปเท่านั้น
เงื่อนไขสุดหฤโหดแบบนี้ มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยภายในหนึ่งร้อยวัน!
หวูเฉินถอนหายใจเล็กน้อยและกล่าวต่อว่า
“เจ้าหนู ต่อให้เป็นจอมเทพนิรันดร์ แต่ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะทำสิ่งที่เจ้าเชื่อมั่นสำเร็จ!”
เย่หยวนคลี่ยิ้มบางพลางกล่าวตอบว่า
“ท่านอาวุโสกังวลเกินไปแล้ว ตอนนี้ยังไม่สายเกินไป รอจนกว่าเย่คนนี้ล้มเหลวเสียก่อนค่อยซ้ำเติมเสียดีกว่า”
สายตาของหวูเฉินแปรเปลี่ยนดั่งเอาจริงเอาจังในทันควัน เขาพยักหน้าและกล่าวตอบว่า
“หวังว่าข้าจะไม่ได้ซ้ำคน เอาล่ะ ข้าจะเริ่มอธิบายคุณสมบัติและลักษณะเฉพาะของสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ชนิดต่างๆก่อน ส่วนที่ว่าเจ้าจะทำความเข้าใจได้เร็วแค่ไหน สิ่งนี้ต้องพึงพาความสามารถตัวเอง! อย่างแรก ไหมฟ้าพิรุณเทวะ…”
หวูเฉินกล่าวบรรยายให้เย่หยวนฟังอย่างไหลลื่น องค์ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำเหล่านี้ครบถ้วนมิขาดตก
อย่างไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าหวูเฉินจะคุ้นเคยกับสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์พวกนี้แค่ไหน แต่คนที่หลอมกลั่นก็มิใช่เขา
มีเพียงนักหลอมโอสถที่สรรสร้างผลงานออกมาได้ ซึ่งนี่ต้องขึ้นอยู่กับเย่หยวนแล้วว่ามีความเข้าใจมากน้อยแค่ไหนหลังจากนี้
การฟังกับการเรียนรู้เองเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...