“พวกตระกูลหวังมันตัวตลกชั้นดีโดยแท้ ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง สุดท้ายแทบต้องก้มกราบขอขมา!”
“หึ! ไม่รู้ธาตุแท้เลยว่านี่เสแสร้งหรือจริงใจ ขอโทษแบบนี้มีความเต็มใจบ้างหรือไม่?”
“พวกตระกูลหวังกลับหาดีไม่ได้สักคน คนน้องเป็นอย่างไร สันดานคนพี่กลับไม่ต่างกันเลย! คนน้องไร้ยางอายปราศจากมโนธรรม ส่วนผู้เป็นพี่คงไม่ดีกว่าเท่าไหร่!”
…………….
หวังซ่งในตอนนี้ถูกนินทาดูถูกต่างๆนาๆโดยฝูงชนรอบตัว การล้างแค้นแทนผู้น้องอันไร้มโนธรรม กลับเป็นเรื่องไร้สาระและไร้เหตุผลสิ้นดี
นี่คือความอัปยศอย่างไม่เคยมีมาก่อนในชีวิตของหวังซ่ง
ในสายตาของเขา เซียวเฟิ้งลำเอียงเข้าข้างเย่หยวนเกินไป ซึ่งนี่ทำให้เขาขุ่นเคืองใจเป็นอย่างยิ่ง
เว้นเสียว่าสถานะของเซียวเฟิ้งในเมืองหลวงหวูเมิ่งกลับสูงส่งเกินไป ลืมไปเลนสำหรับเขา แม้แต่ผู้อาวุโสระดับสูงในตระกูลหวังยังมิกล้ายั่วยุล้ำเส้น
“หื้ม?”
เห็นว่าหวังซ่งยังคงนิ่งไม่เคลื่อนไหว เซียวเฟิ้งเค้นเสียงเย็นกระตุ้น
ทั่วทั้งร่างหวังซ่งสั่นพลันสั่นเทา เขาเอ่ยกล่าวอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิด
“น้องเล็ก เพราะครั้งนี้ข้าวู่วามเกินไป โปรดน้องเล็กให้อภัย!”
ไม่ว่าคำขอโทษนี้จะจริงใจหรือไม่ เย่หยวนก็สามารถมองผ่านอ่านออกทันทีเพียงปราดตาเดียว
คนที่มีจิตใจเย่อหยิ่งและเปี่ยมความเกลียดชังจนเป็นนิสัยเช่นนี้ มีหรือจะมองว่าตัวเองนั้นผิด?
ทันใดนั้น เย่หยวนร่วนหัวเราะคิดคักและกล่าวเสียงเย็นชืดว่า
“หุหุ ท่านเป็นถึงรองเจ้าเมืองหมิงหยาง เย่คนนี้ไม่คู่ควรตีสนิทชิดเชื้อกับท่านปานนี้จริงหรือไม่? ในภายภาคหน้า หากยังต้องการล้างแค้นเย่คนนี้ ข้าเองก็รออยู่เสมอ!”
เซียวเฟิ้งที่อยู่เคียงข้างจุ๊ปากค่อนข้างประหลาดใจ เย่หยวนคนนี้ค่อนข้างบ้าบิ่นอย่างมาก
ขุมพลังอำนาจของตระกูลหวังในเมืองหมิงหยาง เขาเองก็ควรตระหนักชัดแจ้งดีโดยธรรมชาติ
คนธรรมดาทั่วไปกลับไม่ควรไปท้าทายตระกูลใหญ่เลยสักนิด
วาจานี้ของเย่หยวนเปรียบเสมือน ลั่นคำประกาศสงครามกับตระกูลหวังทั้งหมด
หรือเป็นไปได้ไหมว่า เย่หยวนผู้นี้กลับงำประกายคมคายลึกล้ำกว่าที่เขาคิดไว้มาก? กลับเป็นจิ้งจอกมากเล่ห์กล ถึงกับมั่นใจว่าจะทำให้อีกฝ่ายก้มหัวได้เชียว?
เมื่อนึกถึงจุดนี้ เซียวเฟิ้งกลับสลัดความคิดนี้ออกจากหัวอย่างช่วยไม่ได้
พินิจจากอาณาจักรพลังความแกร่งกล้า เท่านี้กลับน้อยเกินไป
แต่หากเป็นเรื่องศาสตร์แห่งโอสถ ความสามารถของเด็กหนุ่มคนนี้ช่างน่าทึ่งอย่างยิ่ง หากสามารถทำให้เขายอมเข้าร่วมฝักฝ่ายกับหอมหาสมบัติได้ จะเป็นเรื่องดีอย่างยิ่ง อย่างน้อยที่สุดก็รับประกันได้ว่า เย่หยวนจะไม่มีอันตรายใดๆหลังจากนี้แน่นอน
หวังซ่งเผยท่าทีเก้อเขินขณะกล่าวขึ้นว่า
“ไม่เลย ไม่เลย ไฉนถึงคิดเช่นนั้น? ท่านอาจารย์ ในเมื่อไม่มีสิ่งใดค้างคา เช่นนั้นหวังซ่งขอลา”
“ไปเถอะ”
เซียวเฟิ้งเอ่ยตอบเสียงเย็นชืด
เห็นเซียวเฟิ้งกล่าวอนุญาตเช่นนั้น หวังซ่งคล้ายถูกปลดปล่อยและจากไปโดยไวประดุจบิน
สถานที่แห่งนี้ เขามิอาจหน้าด้านทนอยู่ได้นานไปกว่านี้แล้ว
ยามสิ้นสุดเรื่องตลกฉากใหญ่ หยางรุยก็เข้าต้อนรับเซียวเฟิ้งเข้าสู่หอมหาสมบัติอย่างเป็นทางการ
“หยางรุยคนนี้ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่า ผู้อาวุโสเซียวจะสละเวลาอันมีค่า ลงมาเยี่ยมเยือนเมืองเป็นการส่วนตัว ทว่าหยางรุยคนนี้กลับไม่สามารถต้อนรับท่านเป็นอย่างดีได้ แถมต้องยังเดือดร้อนท่านอีก โปรดอย่าได้ตำหนิข้าเลย!”
หยารุยกล่าวขึ้นอย่างสุภาพ
จนกระทั้งบัดนนี้ หยารุยก็ยังไม่เข้าใจว่า ไฉนบุคคลอย่างเซียวเฟิ้งถึงเดินทางมาที่เมืองกุยฉางเล็กๆแบบนี้ได้?
หากเป็นเพื่อศึกษาวิธีการหลอมกลั่นโอสถบ่มเพาะปราณโดยเฉพาะ นี่คล้ายจะทำการใหญ่เกินไปหน่อยรึไหม?
เซียวเฟิ้งยิ้มและกล่าวว่า
“ข้ามั่นใจว่าเจ้าเองก็คงรู้อยู่แก่ใจ ข้ามาที่นี่เพื่อมาหาน้องเล็กเย่ โอสถบ่มเพาะปราณชนิดนี้ลึกซึ้งเกินหยั่งถึง!”
เย่หยวนกล่าวว่า
“เย่คนนี้เองก็ตกตะลึงมิใช่น้อย ด้วยสถานะศักดิ์ของท่านปรมาจารย์ ถึงขั้นมาที่เมืองกุยฉางเล็กๆแห่งนี้ด้วยตัวเองจริงๆ ขอนับถือท่านปรมาจารย์จากใจ! เย่คนนี้เชื่อว่า สำหรับโอสถบ่มเพาะปราณชนิดนี้ ท่านที่เป็นจุดสูงสุดแห่งจอมเทพโอสถสามดาวน่าจะพอจับจุดอะไรได้บ้างแล้ว”
ต่อหน้าคำกล่าวที่หลุดออกจากปากเย่หยวนเช่นนี้ คล้ายว่าจอมเทพโอสถหนึ่งดาวกำลังสอนสั่งจอมเทพโอสถสามดาวอยู่ ไม่ว่าใครมาเห็นกลับดูจะไร้สาระเป็นอย่างมาก
เว้นเสียแต่ว่า ทั้งเซียวเฟิ้งและหยางรุยกลับรู้สึกว่าคำกล่าวเหล่านี้หาได้ผิดปกติอะไร
เซียวเฟิ้งเป็นจุดสูงสุดแห่งจอมเทพโอสถสามดาว ทว่าโอสถศักดิ์ระดับหนึ่งอย่างโอสถบ่มเพาะปราณกลับไม่สามารถหลอมกลั่นได้ นี่แสดงให้เห็นแล้วว่า โอสถชนิดนี้มันน่าทึ่งเพียงใด
เพราะอันที่จริงแล้ว เย่หยวนไม่เคยรู้เลยว่า จอมเทพโอสามดาวนั้นน่าประทับใจขนาดไหน ขอบเขตในระดับชั้นนี้หวูเฉินยังไม่เคยพรรณนาให้เขาฟัง
จนกระทั้งเย่หยวนได้เห็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสองที่เซียวเฟิ้งหลอกลั่นขึ้นมาเอง ยามนี้เขาก็ตระหนักได้แล้วว่า นี่มิใช่สิ่งที่สามารถดูถูกได้เลยแม้แต่น้อย
“พวกเขาทุกคนดูท่าจะฉงนใจมิใช่น้อย น้องเล็กเย่…พวกเรามาเริ่มกันเลยดีหรือไม่?”
เซียวเฟิ้งกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
เย่หยวนหาได้มีเจตนาสานเรื่องราวต่อความยืดอันใด พร้อมกล่าวตอบไปตามตรงว่า
“หากผิดพลาดประการใด ท่านปรมาจารย์เซียวโปรดชี้แนะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...