ก่อนหน้า ความมุ่งมั่นของเซี่ยะจิ่งอวี๋ถูกลดทอนลงต่อเนื่องจนสับสนไปหมดภายใต้การกัดกร่อนของพลังสวรรค์ในกายา แล้วเขาจะนึกถึงซิ่วเอ๋อได้อย่างไร?
คำกล่าวของเย่หยวนคล้ายกลองยามเย็นและระฆังย้ำใจ ปลุกจิตวิญญาณที่หลับใหลอยู่ของเซี่ยะจิ่งอวี๋ขึ้นมา
แรงกัดกร่อนของพลังสวรรค์คล้ายกับการวิ่ง เมื่อผ่านพ้นช่วงเวลาที่รู้สึกถึงขีดจำกัดเกินจะทานทนไหว ท่านจะพบว่าสุดท้ายนี้ก็ยังสามารถวิ่งต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม ภายใต้พลังสวรรค์อันรุนแรงขนาดนี้ เซี่ยะจิ่งอวี๋ก็ไม่กล้าประมาทผลีผลามเช่นกัน
เขามุ่งสมาธิทั้งหมดไปที่สิ่งยึดเหนียวจิตใจและยังคงเชื่อมั่นใจสิ่งนั้นอยู่เสมอ ยามที่ตนรู้สึกถึงขีดจำกัดอีกครั้ง
เพียงว่าเขาแอบตกใจมิได้เลยเมื่อเย่หยวนยังสามารถสงบนิ่งอยู่ได้จวบจนตอนนี้!
เขาคิดว่า เย่หยวนถูกกำจัดออกไปนานแล้ว
ท้ายที่สุดนี้ ถึงคำพูดจพฟังดูดี แต่นั้นมิอาจแสดงให้เห็นถึงความแกร่งกล้าที่แท้จริง
ทว่าเมื่อครู่ฟังจากน้ำเสียง นี่เห็นได้ชัดว่า ไม่เพียงเย่หยวนจะเหลือเรี่ยวแรงมาพูด แต่เรียกได้ว่าสติสตังยังคงครบบรรจบดี
สิ่งนี้ชี้ให้เห็นได้ชัด พลังสวรรค์เพียงระดับนี้กลับไม่เป็นผลอันใดต่อเย่หยวนเลย!
ชายหนุ่มคนนี้เป็นเพียงเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นกลางจริงๆน่ะรึ?
แม้จะมีการจำกัดอาณาจักรพลังเอาไว้ ความแตกต่างในเรื่องนี้จึงไม่มีผลมากนัก ทว่าอย่าลืมไปเสียอาณาจักรพลังที่สูงกว่าสามารถบ่งบอกได้ถึงแนวคิดและความมุ่งมั่นที่สูงกว่าได้เช่นกัน
การทดสอบในครั้งอดีตที่ผ่านมา มิใช่ว่าไม่เคยมีเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นกลางเคยผ่านเข้ารอบแรก แต่จำนวนเหล่านั้นกลับน้อยราวกับขนของวิหกเพลิงอมตะ
ประมาณหนึ่งพันปีถึงจะพบเห็นได้สักคน
เซี่ยะจิ่งอวี๋มิกล้าคิดเรื่องของคนอื่นไปมากกว่านี้แล้ว ความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของเขาค่อยๆถูกกัดเซาะนานเข้าเรื่อยๆ หากไม่เร่งรวบรวมสมาธิให้ดีเกรงว่าอาจพลาดท่าไปโดยง่าย
บนเวทีเบื้องหน้าจัตุรัส สองชายชราผู้เป็นประธานในการทดสอบกำลังสนทนาพูดคุยกันในบางเรื่องอยู่
“ไม่รู้เลยว่าท่านเจ้าเมืองคิดอะไรอยู่ ถึงอนุญาตให้อาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นต้น กับชั้นกลางเข้าร่วมการทดสอบได้ มีปริมาณมากแต่ไร้คุณภาพก็เปล่าประโยชน์!”
“นักสู้ระดับต่ำที่สามารถทานทนต่อพลังสวรรค์ได้ นี่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้า สิ่งนี้เป็นตัวการันตีความสำเร็จในอนาคตของพวกเขา บางทีความสำเร็จของเด็กเหล่านี้อาจล้ำหน้าไปไกลกว่าคนรุ่นเราก็เป็นได้!”
“เรื่องนั้นก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่หากมองในภาพรวม เราต้องใช้กำลังคนและทรัพยากรปริมาณมหาศาลยิ่งในแต่ละครั้ง มีเพชรในหมู่โคลนตมก็จริง แต่สิ่งที่เราออกเงินลงทุนไปกลับคุ้มแล้วจริงรึ?”
“ในเมื่อท่านเจ้าเมืองคิดว่าคุ้มค่า แล้วจะคิดมากให้หนักเศียรเพื่ออันใด?”
สองชายชราเหล่านี้พบเจอเหล่าอัจฉริยะมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน นักสู้อาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นต้นและชั้นกลางทั่วไปกลับไม่มีคุณสมบัติให้ทั้งคู่เหลียวมองได้เลย
ต่อให้มีเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นต้นและชั้นกลางผ่านไปได้ แต่ถึงแม้พวกเขาจะมีศักยภาพซ่อนอยู่ภายในตัว ทว่าหากไม่สามารถนำออกมาใช้ได้เต็มที่ นั้นก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี
คนที่มีทั้งศักยภาพและตระหนักรู้ถึงศักยภาพนั้นดีกลับมีน้อยกว่าที่คิด
แต่ละวันที่เลยผ่าน ผู้คนในลานจัตรัสก็ลดจำนวนลงเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม ความเร็วในการกำจัดผู้คนทิ้งก็ช้าลงเช่นกัน
เมื่อผู้ทดสอบสามารถฝ่าฟันอาทิตย์แรกๆมาได้ ความมุ่งมั่นของพวกเขากลับเป็นอะไรที่แกร่งกล้ามากขึ้น การให้พวกเขายกธงยอมแพ้ในเวลานี้กลับเป็นเรื่องยากมาก!
“อ๊ากกก!!”
ทันใดนั้นเอง ใครบางคนเริ่มทนไม่ไหวอีกต่อไป เสียงกรีดร้องดังลั่นกังวานทั่วจัตุรัสสุดเวทนายิ่ง
ทว่าคนนี้ค่อนข้างแตกต่างจากครั้งก่อนๆ เขาอาเจียนเป็นเลือดอย่างบ้าคลั่ง เสียงกรีดร้องคร่ำครวญดูสยดสยองมากขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าซีดขาวหนักแต่ก็ยังอาเจียนต่อเนื่องไม่หยุดเสียที
ในท้ายที่สุดนี้ เขาก็หยุดหายใจลงไปทั้งแบบนั้น
เหตุพลิกผันเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาทุกคน ทำให้พวกเขาประหลาดใจอย่างมาก
ยามนี้ความตึงเครียดของทุกคนล้นปรี่เจียนสติแตก เห็นคนตายต่อหน้าต่อตาพลันเกิดอาหารหวาดกลัวฉับพลัน บางคนถึงขั้นบีบป้ายไม้แตกคามือในอึดใจต่อมา
จำนวนคนอีกกลุ่มใหญ่อันตรธานหายไปในพริบตา!
การทดสอบรอบพลังสวรรค์นี้มิได้แยกผู้ทดสอบออกจากสัมผัสทั้งห้า ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นในจัตุรัสล้วนมองเห็นและได้ยิน
ในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักได้ทันที สิ่งที่ชายชรากล่าวเตือนก่อนหน้ากลับหาได้เกินจริงไม่!
มีคนตายจากการทดสอบจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...