“หึ! ฉินคนนี้เองก็ไม่ค่อยชอบใจนักไฉนต้องฆ่าเจ้าเด็กนี่? นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าฉินหยวนหลงขอลี้ภัยออกจากเมืองหลวงหวูเมิ่งและตระกูลฉิน จากวันนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้าอีกต่อไป! ขอลา!” ทันทีที่กล่าวจบ ฉินหยวนหลงก็หมุนตัวกลับจากไป
ท่าทีการแสดงออกของอัสนีคำรนเปลี่ยนไปในทันใด ใครจะไปคิดว่าฉินหยวนหลงจะเปลี่ยนสีไวขนาดนี้
“หึ! คิดหนีกระมัง? แต่จะง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร! ในเมื่อเจ้าถอนตัวออกจากตระกูลฉิน ยามนี้เจ้าถือเป็นอาจารย์ของสถานศึกษาหวูเมิ่งเต็มตัว แต่เจ้ากลับซุ่มโจมตีศิษย์ของสถานศึกษาหมายเอาชีวิต! โทษทัณฑ์ประหารสถานเดียว!”
อัสนีคำรนระเบิดพลังเดือดแผดขยายแรงกดดันปกคลุมทั่วบริเวณ ร่างประกายโฉบแล่นแปรเปลี่ยนเป็นสายหนึ่ง ไล่ล่าฉินหยวนหลงประดุจดาวหาง
ฉินหยวนหลงฉายแววตะลึงหนัก คาดไม่ถึงเลยว่า อัสนีคำรนกลับตามตื้อไม่ลดละน่ารำคาญขนาดนี้ เร่งฝีเท้ากระตุกวูบ เงาร่างอันตรธานหายวับทะยานเตลิดหนีไปโดยเร็ว
ทั้งสองเปิดฉากไล่ล่าพัลวันตีฝีเท้าหายลับไปจากสายตาของทุกคน
ณ มุมลับตาผู้คน ฉินเทียนกัดฟันเคี้ยวดังกรอด เห็นภาพฉากเหล่านี้สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวน่ารังเกียจยิ่งล้มเหลวอีกแล้ว!
แผนลอบสังหารเย่หยวนล้มเหลวอีกแล้ว!!
ไอ้เด็กเหลือขอนั้นมันเป็นอมตะหรืออย่างไร? ไฉนตระกูลฉินที่ลงทุนลงแรงถึงขั้นส่งเซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าออกไป แต่สุดท้ายก็ยังฆ่ามันไม่ได้! เห็นได้ชัดแจ้ง อีกฝ่ายเป็นเพียงเด็กน้อยอาณาจักรปฐมพระเจ้าคนหนึ่ง แต่ไยถึงตายยากตาเย็นนักหนา? ไม่เพียงฆ่าไม่ตายเท่านั้น แต่ตระกูลฉินยังสูญเสียทายาทสายเลือดตรงอย่างฉินหยู และอาจารย์สถานศึกษาอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าที่คิดทรยศหนีไปอีก! ราคานำจ่ายในครั้งนี้หนักหนาสาหัสเกินไป!
“พี่ใหญ่ฉินเทียน พวกเรา…พวกเราควรทำอย่างไรต่อไปดี?” ฉินเจิ้งเอ่ยถามด้วยความกังวล
“ถอยไปตั้งหลักก่อน!” ฉินเทียนกัดฟันแน่น นัยน์ตาคู่นั้นเจือสุดอาฆาต
เขาตระหนักดีว่า ระหว่างงานชุมนุมร้อยเมืองต่อจากนี้ พวกเขาไม่มีโอกาสอีกแล้ว แผนการที่เตรียมการมาเป็นอย่างดีกลับไม่ได้อะไรกลับไปเลย!
เย่หยวนลดดาบในมือลงอย่างแช่มช้า แหงนศีรษะมองฟ้าพลางครืนหัวร่อคำโตและเอ่ยเสียงแผ่วเบาว่า
“หนีได้ก็หนีไป ใครหนีไม่ทันมันตาย!”
วูบบบ!
เย่หยวนไม่พูดไม่จาอันใดอีกต่อไป หมุนโคจรพลังปราณเทวะเร็วจี๋ เหวี่ยงดาบกระหน่ำซัดเต็มสูบ พื้นดินแตกระแหงฝูงชนแตกกระจาย
เย่หยวนปลิดชีพผู้คนไปนับหลายสิบภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว ส่วนที่เหลือต่างกระเจิงหนีเตลิดหายไป แลเห็นผู้คนแตกกลุ่มดั่งฝูงมดแยกย้ายคนละทิศละทาง เย่หยวนก็พลันหยุดมือและเริ่มตามเสาะแหวนเก็บของจำนวนมากที่ร่วงหล่นตามพื้นดินอย่างสบายอารมณ์
ศึกสัประยุทธ์คราวนี้ เขาได้รับผลกำไรเป็นจำนวนมหาศาล มีแหวนเก็บของกว่าห้าร้อยวงที่เย่หยวนตามเก็บได้และสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกโล่งใจที่สุดคือ ฉินหยวนหลงที่แปรพักตร์ถอนตัวออกจากตระกูลฉินไปดื้อๆ ซึ่งนี่ส่งผลให้กำลังรบของตระกูลฉินสูญเสียแม่ทัพไปอีกหนึ่งราย
ที่ผ่านมา ฉินหยวนหลงคนนี้คิดว่าตนเองซ่อนตัวปกปิดร่องรอยได้อย่างแนบเนียน แต่ในความเป็นจริง ทุกการเคลื่อนไหวของเขาล้วนอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังของหวูเฉินโดยตลอด เมื่ออีกฝ่ายเตรียมพร้อมซุ่มโจมตี เย่หยวนเองก็เตรียมขี่ดาบหนีแล้วเช่นกัน ความเร็วของดาบพิชิตมารฟ้าในปัจจุบันเหาะเหินอากาศคล่องแคล่วกว่าก่อนหน้าไม่รู้กี่เท่าทวี และไม่มีทางถูกฉินหยวนหลงลอบโจมตีโดนง่ายๆแน่นอน
ในขณะนั้นเอง จินอวี้เดินกะเผลกมาหาเย่หยวนโดยมีเฉวียนซุยเซิงคอยประคองอยู่
เขาถอดแหวนเก็บของตนเองออกมาและส่งให้เย่หยวน “ข้าแพ้แล้ว นี่เป็นของเจ้า”
เย่หยวนยิ้มและหยิบแหวนวงนั้นมาเก็บเข้าตัว สิ่งนี้เปรียบเสมือนถ้วยรางวัลของเขา ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่รับไว้
“ข้าไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่า เมืองหลวงหวูเมิ่งจะมียอดอัจฉริยะอย่างเจ้าอยู่ด้วย! ข้าพ่ายต่อเจ้าอย่างหมดท่าจริงๆ!” จินอวี้เอ่ยปากกล่าวไปตามตรงจากใจจริง
เย่หยวนยิ้มและกล่าวตอบว่า “ท่านเองก็แข็งแกร่งยิ่งเช่นกัน! แต่ถึงแม้ขอบเขตความเข้าใจของท่านพี่จินจะลึกล้ำ ทว่าระหว่างต่อสู้จริง กลับประยุกต์ใช้ได้ไม่ค่อยหลากหลายเท่าที่ควร เมื่อเวลาผ่านไป ประสบการณ์จักหล่อหลอมให้ท่านกล้าแกร่งขึ้นเอง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...