แสงคมดาบนับหลายสิบสายฉีกฟ้าสะบั้นดินโฉบวาบสาดประกายน่าทึ่ง
ไป๋เฉินรู้สึกเพียงว่าทัศนียภาพเบื้องหน้าพลันพร่ามัวเบลอหนัก แต่ยังคงกระหน่ำทะลวงทวนยาวทะลุอกศัตรูโดยหามิอุปสรรคใดมาขวางกั้น ไป๋เฉินไม่เวลามามัวชื่นชมยินดี เขากระชากทวนยาวออกมาพร้อมธารเลือดทะลักล้นดุจน้ำพุจากร่างคนนั้น แต่เมื่อหันขวับเตรียมสัประยุทธ์ต่อ กลับพบว่าสมรภูมิเบื้องหน้ากลายมาเป็นแอ่งเลือดบ่อใหญ่พร้อมไอโลหิตกลิ่นคาวฟุ้งกระจายไปทั่วเสียแล้ว
พวกที่ยังเหลือรอดโพล่งตาโตเท่าไข่ห่านอย่างไม่อยากจะเชื่อภาพฉากตรงหน้า เหล่ามิตรสหายของเขาตายตั้งแต่ตอนไหน แล้วตายได้อย่างไร?
ไป๋เฉินเองก็มีสภาพไม่ต่าง คู่ดวงตาแทบทะลักถลนออกมาคาเบ้า เขาเองก็ไม่เข้าใจแม้สักนิด ตนเพิ่งฆ่าไปได้คนเดียว แต่ศัตรูที่เหลือตายเกือบเกลี้ยง เห็นได้ชัดว่ามันมิได้เกี่ยวข้องอันใดกับเพลงทวนเมื่อครู่เลย
กระทั่งเหล่าศิษย์สาวกที่ติดตามไป๋เฉิน พวกเขายังต้องอ้าปากค้างขากรรไกรแทบร่วงกร้าว
ชวิ้ง ชวิ้ง ชวิ้ง…
เหล่าเซียนของฝ่ายวังเทวะพิรุณร่วงโรยถูกสับเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในพริบตาเดียว เรียกได้ว่าตายยันชาติหน้า
“นี่…นี่เกิดอะไรขึ้น?”
“ขะ แข็งแกร่งยิ่ง!”
“แข็งแกร่งเกินไปแล้ว! นี่คือยอดฝีมือขนานแท้!”
เหล่าศิษย์สาวกที่ติดตามไป๋เฉินมาต่างสูดไอเย็นแช่มลึกด้วยความตกตะลึง ก่อนเบนสายตาจับจ้องไปที่เย่หยวนพร้อมแววตาสะท้านความกลัวสุดขีด ช่างเป็นการเคลื่อนไหวที่เฉียบคมและไร้เทียมทาน แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือความน่ากลัวเกินพรรณนา!
ในเสี้ยวพริบตา ก็สามารถสังหารขุมกำลังระดับชั้นอาณาจักรปฐมพระเจ้านับหลายสิบได้อย่างง่ายดาย ซึ่งในบรรดาพวกนั้นยังรวมไปถึงเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าครึ่งขั้นอีกหนึ่งราย ความแกร่งกล้าชนิดนี้ พวกเขาไม่กล้าจินตนาการแม้แต่น้อย! ต่อให้ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้ามากมาย ก็มิใช่ว่าจะถูกเย่หยวนฆ่าล้างจนหมดได้ในอึดใจเดียวเช่นกัน? สิ่งที่เขาฝากฝังไว้กับเหล่าเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าช่างน่าระทึกขวัญเกินไป เขาสามารถสับอีกฝ่ายเป็นชิ้นๆได้ประดุจหั่นเต้าหู้!
โม่หยุนหน้าถอดสีซีดขาวราวกับแผ่นกระดาษบาง ทั่วร่างสั่นเทาหนักไม่หยุดหย่อนด้วยความหวาดกลัว
ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งทำอะไรลงไป? ตบฝ่ามือใส่เย่หยวนมิใช่รึ? นี่เขากำลังเบื่อหน่ายกับชีวิตขนาดนั้นเขียว? ถึงมาหาเรื่องตายเล่น?
เซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าครึ่งขั้นที่กล่าวไปข้างต้นก็มิใช่ใครอื่นนอกจากชายวัยกลางคนผู้นั้นที่อยู่ข้างกายไป๋ชง ขุมพลังของอีกฝ่ายใกล้เคียงกับโม่หยุนมาก แต่เมื่อครู่กลับถูกเย่หยวนฆ่าทิ้งตอนไหนยังไม่ทราบ!
หากเย่หยวนมีเจตนาฆ่าเขาทิ้งไปด้วย กลับง่ายราวกับลูกไก่ในกำมือ!
สิ่งที่เย่หยวนได้สำแดงออกไปเมื่อครู่ได้สร้างความหวาดกลัวฝังลึกลงในใจของทุกคนเกินไป
โม่หยุนสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามระงับความกลัวสุดกำลัง ยามนี้เร่งก้มศีรษะให้เย่หยวนและกล่าวว่า
“โม่หยุนคนนี้ช่างโง่เขลา! มีตาหามีแววไม่! ท่านผู้สูงส่ง สิ่งที่เมื่อครู่ท่านได้ลงมือไปนั้น โม่หยุนคนนี้ซาบซึ้งในน้ำใจและรู้สึกขอบคุณอย่างไม่มีสิ้นสุด ท่านผู้สูงส่งโปรดอย่าได้ถือสาความกังขาใจของข้าเมื่อครู่ โปรด…โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วยเถอะ! แต่ถ้าหากท่านต้องการระบายความโกรธกับใครสักคน ก็โปรดลงกับข้าด้วยเถิด! ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง! อย่าง…อย่างน้อยก็เมตตาไว้ชีวิตนายน้อยไป๋เฉิน!”
ร่างของไป๋เฉินเองก็สั่นเทาไม่หยุด เขารีบคุกเข่าขอขมาต่อหน้าเย่หยวนและกล่าวว่า “ท่าน…ท่านผู้สูงส่ง เนื่องจากท่านอาจารย์โม่หยุนห่วงเรื่องความปลอดภัยของลูกศิษย์เป็นสำคัญ เช่นนั้นอย่าได้ถือโทษโกรธตำหนิ! ท่านผู้สูงส่งมากน้ำใจเมตตา โปรดไว้ชีวิตท่านอาจารย์ด้วยเถิด! ข้าไป๋เฉิน…ยินดีทำตามที่ท่านสั่งทุกประการ!”
โม่หยุนคนนี้เฝ้าดูแลเส้นทางการเติบโตของเขาตั้งแต่เยาว์วัยจวบจนตอนนี้ ถึงจะเป็นในฐานะอาจารย์แต่ความผูกพันดั่งพ่อคนหนึ่ง ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากล่าวได้ว่าเหนียวแน่นยิ่ง หากโม่หยุนปล่อยให้ไป๋เฉินรอดตายออกไปคนเดียว เจ้าตัวไม่มีทางยอมแน่นอน
สีหน้าของโมหยุนแปรเปลี่ยนทันทีและกล่าวว่า “นายน้อยไม่จำเป็นต้องช่วยเหลือชีวิตของโม่หยุนคนนี้ เราก็แค่คนแก่คนชราคนหนึ่งอนาคตกลับไม่ไกลนัก สร้างความขุ่นเคืองกับท่านผู้สูงส่งนับเป็นการกระทำผิดร้ายแรง! แค่ท่านออกโรงช่วยเราสังหารพวกนั้นไปก็นับว่าใจกว้างเปี่ยมเมตตายิ่งแล้ว! นายน้อยไม่ต้องอ้อนวอนแทนโม่หยุนคนนี้เลย!”
เย่หยวนเหลือบมองสองศิษย์อาจารย์คู่นี้พลางอดรู้สึกตลกมิได้ แต่ในอีกมุมก็รู้สึกกินใจไม่น้อยเช่นกัน ไป๋เฉินคนนี้มีจิตใจที่บริสุทธิ์และหาได้หยิ่งผยองถือดีดั่งพวกนายน้อยหรือลูกหลานตระกูลใหญ่คนอื่นๆ ซึ่งคนประเภทนี้เย่หยวนรู้สึกชื่นชอบและให้ความสนใจไม่น้อย มิฉะนั้นแล้ว เมื่อครู่เขาคงไม่ออกโรงช่วยเหลือแน่นอน
ทันใดนั้นเย่หยวนก็เอ่ยปากกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้มว่า “หากพวกเจ้ายังเถียงกันเช่นนี้ เกรงว่าสหายคนนั้นจะหนีไปแล้ว?”
โม่หยุนชะงักโดยพลัน ก่อนจะสังเกตพบว่าไป๋ชงยังไม่ตายและกำลังหนีตายออกไปโดยไวประดุจควันไฟ
เมื่อเห็นคู่ศิษย์อาจารย์กำลังถงเถียงชุลมุน และเย่หยวนดูไม่มีท่าทีหันมาสนใจแม้แต่น้อย ดังนั้นไป๋ชงจึงเร่งพลังปราณถึงขีดสุดพร้อมพุ่งหนีตายสุดชีวิตออกไปทันที โม่หยุนเค้นเสียงเย็นคำโต คู่เท้ากระตุกวูบร่างไสวโผทะยานออกไปดุจสายฟ้า ความแกร่งกล้าของเขาเหนือกว่าไป๋ชงมากก็จริง แต่ยามนี้ไป๋ชงก็ทิ้งห่างหลายช่วงตัวออกไปไกลแล้ว ไม่ว่าจะเร่งความเร็วอย่างไรโม่หยุนกลับไม่สามารถตามจับได้ทันเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...