กำแพงเมืองเปรียบเสมือนปราการพิทักษ์ลงรักษาภัยจากกองทัพของเผ่าปีศาจมิให้ตีฝ่าเข้ามาได้เป็นระยะเวลาหลายล้านปี
เผ่าปีศาจเป็นดั่งพาหะนำสงคราม นับตั้งแต่ที่จักรพรรดิเทพสวรรค์จิวชางปรากฏตัวขึ้นมา เมืองกระแสพิรุณแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในด่านปราการสำคัญของเผ่ามนุษย์เพื่อต่อกรกับเผ่าปีศาจ
เมืองจักรพรรดิกล้วยไม้อริยะ เคยส่งยอดเซียนอาณาจักรราชันพระเจ้าออกไปหลายต่อหลายคนนัก พวกมันพยายามบุกยึดเมืองกระแสพิรุณแห่งนี้ให้จงได้
ฝ่ายของเมืองจักรพรรดิธารนิรันดร์เองก็หาได้นิ่งนอนใจไม่ พวกเขาหาได้แสดงความอ่อนแอใดๆออกมา พร้อมส่งยอดเซียนอาณาจักรราชันพระเจ้าออกไปต่อกรเช่นกัน
ศึกสัประยุทธ์เหล่านั้นพัลวันต่อกรจนฟ้าดินวิปลาส ทำเอาเมืองกระแสพิรุณแทบพินาศอยู่หลายต่อหลายครั้ง
ในท้ายที่สุด ทั้งสองฝ่ายต่างได้รับความเสียหายครั้งใหญ่หลวง
ยอดเซียนอาณาจักรพระเจ้ากว่าครึ่งถูกฆ่าตายไม่เหลือ
นับแต่นั่นเป็นต้นมา เมืองจักรพรรดิกล้วยไม้อริยะก็ไม่กล้าใช้กำลังคนตีโหมบุกยึกเมืองกระแสพิรุณอีกต่อไป แต่วางจุดสนใจไปยังแนวสงครามอื่น
ในช่วงหลายล้านปีมานี้ เมืองจักรพรรดิกล้วยไม้อริยะและเมืองจักรพรรดิธารนิรันดร์ ต่างก่อสงครามคว้าชัยชนะสลับแพ้อยู่ไปมา ทว่าต่างฝ่ายต่างทำอะไรกันไม่ได้มากนัก
เพราะเขตเมืองตามพรมแดนของเมืองจักรพรรดิอื่นๆตื้นลึกหนาบางอย่างไรกลับมิทราบ หากเผ่าปีศาจเคลื่อนทัพโดยไม่ระมัดระวัง อาจถูกเมืองจักรพรรดิอื่นๆตัล้อมหน้าหลังเอาได้
แม้ว่าบางครั้งพวกเขาจะสามารถเอาชนะพวกมนุษย์ได้ก็จริง แต่ก็อย่างลืมเสีย เผ่ามนุษย์มิได้มีกันแค่เมืองเดียว ในไม่ช้า พวกมันอาจชักนำมวลมนุษย์จากเมืองอื่นเข้าร่วมศึกสงครามได้หากไม่ระมัดระวัง
มีเพียงเมืองกระแสพิรุณแห่งนี้เท่านั้นที่กองทัพของเผ่าปีศาจไม่เคยตีฝ่าเข้าไปได้สำเร็จ อนึ่งเมืองนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ หากตีฝ่าเข้าไปได้มันจะเป็นเส้นทางที่นำไปสู่เมืองจักรพรรดิธารนิรันดร์ได้โดยตรง
ดังนั้นแม้จะผ่านไปนานกว่าหลายล้านปีแล้ว แต่เผ่าปีศาจไม่เคยยอมแพ้ละทิ้งแผนการโจมตีเมืองกระแสพิรุธเลย
แผนการขนส่งกองกำลังผ่านหุบเขาอัญเชิญปีศาจนับเป็นยอดความคิดสุดแยบยล มันสามารถข้ามเข้ามายังกำแพงเมืองทางตอนใต้ของเมืองกระแสพิรุณและเคลื่อนทัพลอบโจมตีทางทิศเหนือได้โดยตรง พร้อมบุกประชิดโจมตีได้แบบไม่มีตั้งตัว
ตรงกันข้ามกับกำแพงเมืองทางตอนใต้ที่ถูกเสริมแกร่งเป็นชั้นหนา กำแพงเมืองตอนเหนือกลับอ่อนแอกว่ามากโดยสิ้นเชิง
ทันทีที่กองทัพของเผ่าปีศาจพร้อมประจัญบาน เมืองกระแสพิรุณค่ายแตกถูกทำลายแน่นอน!
ระหว่างทางจ้าวปิงสลัดทิ้งห่างคนอื่นๆออกไปหลายช่วงตัว เขาเร่งเร้าโคจรพลังปราณเทวะจนถึงขีดสุดและรีบกลับไปยังเมืองกระแสพิรุณโดยไว
“เปิดประตูเมืองโดยด่วน! ข้านามว่าจ้าวปิงอยู่ภายใต้กองบัญชาของท่านแม่ทัพกองจงเต๋า! เปิดให้ข้าเข้าเมืองโดยเร็ว!”
เอี๊ยดด…
ทันทีที่ประตูเมืองเปิดออก จ้าวปิงรีดใช้พลังทั้งหมดเพื่อผลักร่างพุ่งเข้าไป
“จ้าวปิง ไฉนเจ้าถึงกลับมาคนเดียว? ที่เหลืออยู่ที่ใดกัน? เจ้าดูลุกลี้ลุกลนนัก นี่เกิดอะไรขึ้น?”
ร่างหนึ่งเร่งตรงเข้ามาทักทาย และเอ่ยถามขึ้นพร้อมสีหน้าไม่ค่อยมีความสุขนัก
จ้าวปิงแข็งค้างไปชั่วขณะก่อนกล่าวขึ้นว่า
“ท่านแม่ทัพกอง เกิดเรื่องแล้ว!”
คนๆนี้คือจงเต๋า เป็นแม่ทัพกองของเหลียงเฟิง
รองจากจงเต๋า เป็นเหลียงเฟิงที่แข็งแกร่งที่สุด และผลงานของเขาเองก็น่าประทับใจยิ่งเช่นกัน เขาสามารถทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าขั้นกลางได้ตลอดเวลา และหากเป็นเช่นนั้น นี่ก็ทำให้ตำแหน่งของจงเต๋าสั่นคลอนได้เช่นกัน
ดังนั้นเขาจึงเฝ้าจับตาดูเหลียงเฟิงอยู่ตลอด
จงเต๋าขมวดคิ้วมุ่น เขากล่าวขึ้นว่า
“เจ้ากล่าวเรื่องไร้สาระอันใด? เผ่าปีศาจจะเดินทัพมาจากฝั่งนั้นได้อย่างไร?”
จ้าวปิงเร่งกล่าวด้วยความกังวลว่า
“ท่านแม่ทัพกองนี่เป็นเรื่องจริง! เราวิ่งชนเข้ากับหัวหน้าเผ่าปีศาจถึงห้าตน และพวกมันพูดเองกับปาก!”
แต่จงเต๋าก็ยังไม่เชื่อและกล่าวตอบไปว่า
“เผ่าปีศาจมากเล่ห์เหลี่ยมนัก แล้วเจ้าเชื่อคำพูดของพวกมันได้อย่างไร? และในเมื่อกลุ่มของเจ้าชนเข้ากับระดับหัวหน้าถึงห้าตน แล้วเจ้าหนีออกมาได้อย่างไร?”
จ้าวปิงอดสำลักมิได้จึงกล่าวว่า
“มันเป็นเพราะ…เพราะมียอดฝีมือไร้นามช่วยเหลือเอาไว้! ท่านแม่ทัพกองโปรดเชื่อข้าเถอะ สิ่งที่กล่าวไปทั้งหมดล้วนเป็นความจริง!”
เมื่อเห็นว่าจงเต๋าไม่เชื่อตน จ้าวปิงยิ่งกังวลใจหนักดั่งมดในกระทะร้อน
นอกจากนี้เขายังทราบดีว่า จงเต๋าไม่ชอบขี้หน้ากลุ่มของพวกเขาอยู่แล้ว เพียงจ้าวปิงตกใจที่ว่า คนที่มาพบหน้าประตูเมืองกลับเป็นจงเต๋าคนนี้จริงๆ
จงเต๋าขมวดคิ้วแน่นและกล่าวว่า
“เข้าใจแล้ว เช่นนั้นเผ่าปีศาจมันผ่านธารน้ำมาได้อย่างไร? แล้วพวกมันมีกันกี่ตนและใครเป็นผู้นำทัพในคราวนี้?”
จ้าวปิงทรุดลงทันทีที่ได้ยิน เขาจะไปรู้ได้อย่างไร?
“เรียนท่านแม้ทัพกอง หัวหน้าของพวกเขากำลังไปตรวจสอบเก็บข้อมูล อีกไม่ช้าคงจะกลับมาแล้ว! เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะมารายงานข้อมูลแก่ท่านโดยละเอียด แต่สถานการณ์ยามนี้เร่งด่วนนัก ขอท่านแม่ทัพกองตัดสินใจโดยเร็ว!”
จ้าวปิงประสานมือกล่าว
แต่ซงเต๋ากลับปฏิเสธที่จะเชื่อและกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวว่า
“จ้างปิง นี่เจ้าพล่ามเสร็จหรือยัง? พวกเจ้าไปลาดตระเวนกลับไม่มีข่าวคราวใดๆ แต่ยังกล้าพล่ามเรื่องไร้สาระ! จะเกิดอะไรขึ้นหากเผ่าปีศาจจงใจปล่อยข่าวลือ เพื่อให้หลอกล่อให้เราตั้งขบวนป้องกันทางทิศเหนือ? แต่สุดท้ายพวกมันกลับบุกมาทางใต้? หากพวกเราติดกับดักของมันจริง เช่นนั้นใครบ้างจะรับผิดชอบความผิดพลาดนี้ไหว เรามีชีวิตของผู้คนเป็นเดิมพัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...