จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1469

จอมเทพโอสถ – ตอนที่ 1469
ตอนที่ 1469 ผงวิญญาณเนตรเขียว
โดย
Ink Stone_Fantasy
“ท่านแม่ทัพ เช่นนี้เราควรทำอย่างไรต่อไปดี?”

ผู้ใต้บัญชาตนหนึ่งเอ่ยปากถามขึ้นอย่างอดมิได้

สีหน้ายามนี้ของซิ่วเหล่ยบิดเบี้ยวน่ากลัวยิ่งนัก สายตาที่จับจ้องเผยให้เห็นถึงความหายนะ ขณะเอ่ยกล่าวน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า

“พวกเรารอไม่ไหวแล้ว ระดมพลทั้งหมดและบุกเข้าโจมตีเมืองเดี๋ยวนี้ทันที! หนทางเดียวที่รั้งเหลือคือการบุกเมือง!”

สีหน้าการแสดงออกของแม่ทัพกองคนอื่นๆดูจริงจังขึ้นถนัดตา เอ่ยกล่าววาจาแสนเฉียบขาดขึ้นว่า

“รับทราบแม่ทัพใหญ่!”

ซิ่วเหล่ยกล่าวเสียงขรึมว่า

“บอกพวกเราทั้งหมดว่า ทางออกของพวกเราถูกตัดขาดแล้ว หาทางเดียวที่เหลืออยู่คือเบื้องหน้า จงทำทุกวิถีทางเพื่อให้เราอยู่รอดต่อไป!”

แต่ไหนแต่ไหนเผ่าปีศาจมีลักษณะนิสัยโหดเหี้ยมไร้ปรานี ยามนี้ถูกตัดขาดทางเลือกทั้งหมดไป มันยิ่งไปกระตุ้นความบ้าระห่ำของพวกมันขึ้นเป็นทวีทบแทน

กองทัพของเผ่าปีศาจที่ข้ามผ่านเหวมาได้มีประมาณสามหมื่นกว่าตน

ในขณะที่ทักศึกของเผ่ามนุษย์ที่ป้องกันเมืองอยู่ทางเหนือมีประมาณไม่กี่พันคนเท่านั้นในปัจจุบัน

ศึกครานี้ใครแพ้ใครชนะมิอาจด่วนสรุป

บนกำแพงเมืองทางเหนือ จงเต๋าจับจ้องจ้าวปิงสีหน้าเย็นชายิ่ง

“เจ้าบอกเองมิใช่รึว่า เผ่าปีศาจมันแทรกซึมอยู่นอกเมืองทางตอนเหนือ! แล้วพวกมันอยู่ไหนกัน?! เมืองทางตอนใต้ยามนี้พัลวันศึกหามรุ่งหามค่ำมาสามวันสามคืนเต็มแล้ว จำนวนทหารที่ตายลงมีมหาศาล แล้วพวกเรามาทำอะไรที่นี่ บอกข้าเสียว่าพวกมันอยู่ที่ไหนกันหมด!?”

จงเต๋าเอ่ยปากคำรามใส่ทันทีด้วยท่าทางแสนเดือดดุ

จ้างปิงหน้าถอดสีแลดูน่าเกลียดยิ่ง เขาในยามนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้ว

หากกองทัพเผ่าปีศาจแอบแทรกซึมเข้ามาจริง ปานนี้พวกมันคงเปิดฉากรุกเข้ามานานแล้ว

สถานการณ์สู้รบในทางตอนใต้ของเมืองรุนแรงกว่าปกติ กองกำลังของฝ่ายมนุษย์ประสบความสูญเสียไม่เว้นวาย ทหารตายลงจำนวนมาก

แน่นอนว่าสถานการณ์ของเผ่าปีศาจเองกลับเลวร้ายยิ่งกว่า พวกมันสูญเสียกำลังไปกว่าเจ็ดหมื่นนายเห็นจะได้

ทางตอนใต้ของเมืองกลายมาเป็นทุ่งที่เกลื่อนกลาดไปด้วยศพ!

แต่ไฉนหัวหน้าของเขายังไม่กลับมาเลยจวบจนบัดนี้?

“เจ้าบอกเองมิใช่รึ เหลียงเฟิงออกไปสอดแนมฝั่งศัตรู หรือยามนี้สิ้นหวังจนตรอกหนีทัพออกไปแล้ว!”

จงเต๋าเอ่ยกล่าวน้ำเสียงสุดเย็นชา

สีหน้าการแสดงออกของจ้าวปิงพลันแปรเปลี่ยนทันที เขากล่าวว่า

“เป็นไปไม่ได้! ไม่มีทางที่หัวหน้าจะเป็นคนขี้ขลาดเช่นนั้น!”

คู่คิ้วของหวังอี้เฟินพลันถักขมวดเข้าหากัน หรือเป็นไปได้ไหมว่า มันจะเป็นข่าวลือที่เผ่าปีศาจจงใจให้หลุดรั่วออกมา?

ในเวลานั้นเอง ผู้ใต้บัญชาคนหนึ่งเร่งรุดตรงเข้ามารายงานว่า

“แม่ทัพใหญ่หวัง กองทหารหน่วยห้าถูกสังหารแทบสิ้นแล้ว! ผู้บัญชาการถ่ายทอดคำสั่ง เร่งนำกำลังของแม่ทัพใหญ่หวังที่รักษาการณ์ทางเหนือเคลื่อนพลลงไปช่วยทางใต้โดยด่วน!”

นัยน์ตาดำของหวังอี้เฟินหดแคบตีบตันหนัก เขาหายใจแช่มลึกอย่างช้าๆก่อนเอ่ยตอบว่า

“เข้าใจแล้ว เร่งระดมกำลังเข้าพบพานสนับสนุน!”

เมื่อกล่าวจบ เขาตะโกนลั่นสั่งการทันทีว่า

“นายทหารทั้งหมดจงฟัง เร่งออกเดินทางไปช่วยทางใต้ของเมืองโดยไว!”

เมื่อได้ยินคำสั่งของหวังอี้เฟิน แววตาสาดสะท้อนประกายเย็นสะท้านของจงเต๋าสาดเข้าใส่จ้าวปิงทันที พร้อมกล่าวอย่างเย็นชาว่า

“ให้ข้อมูลเท็จทางการทหาร ขัดแย้งไม่ฟังคำสั่งของแม่ทัพจนเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ อยากเห็นเสียจริงว่า พวกเจ้าจะรอดจากโทษร้ายแรงเช่นนี้ได้หรือไม่!”

ขณะนี้เองกองกำลังทั้งหมดเตรียมพร้อมมุ่งหน้าสู่ทางตอนใต้ของเมือง เหล่าทหารจำนวนหนึ่งเริ่มไต่ลงมาจากกำแพงเมืองแล้ว

แต่ทันใดนั้นเอง เสียงโห่ร้องคำรามดั่งกลองรบนำชัยพลันดังกึกก้องทั่วฟ้ามัวดินจากนอกกำแพงทางตอนเหนือ!

ทุกคนที่ได้ยินต่างตื่นตะลึงสุดขีด พลันสูญสิ้นสติไปครู่หนึ่ง

จงเต๋าจับจ้องกองทัพเผ่าปีศาจที่เคลื่อนพลรุกคืบเข้ามาอย่างไม่เชื่อ แววตาสาดสะท้อนเปี่ยมล้นความตื่นตะลึงยิ่ง

คล้อยหลังจงเต๋าคนนี้แผ่นหลังเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น หากผู้บัญชาการกับแม่ทัพใหญ่ไม่เชื่อในคำรายงานของจ้าวปิง เกรงว่าเมืองกระแสพิรุณคงพักพินาศในชั่วอึดใจเดียว!

“ทัพปีศาจ! มันคือทัพเผ่าปีศาจ! เร็วเข้า จัดขบวนปกป้องเมือง!”

บรรดาฝูงชนสุดโกลาหลยามนี้ ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าใครต่อใครตะโกนลือลั่นออกมา แต่ละคนได้สติกลับสู่ความเป็นจริง

หวังอี้เฟินสูดหายใจเย็นเข้าแช่มลึก ปรากฏว่ามันเป็นเรื่องจริง!

เผ่าปีศาจสามารถข้ามฝ่าธารน้ำเหวสนามแม่เหล็กผ่านมาได้ และพวกมันก็แทรกซึมอยู่บริเวณทางเหนือ!

เกือบไปแล้ว!

อีกเพียงเสี้ยวอึดใจ พวกเขาทั้งหมดก็จะถอนกำลังออกจากกำแพงเมืองทางเหนือแล้ว!

เมื่อกองทัพของพวกเขาเร่งกลับขึ้นประจำการบนกำแพง พวกเผ่าปีศาจรุกเข้าใกล้จนแทบกระโจนขึ้นกำแพงเมืองได้แล้ว!

ในเวลานี้ทหารเพียงไม่กี่พันนายจะสามารถหยุดกำลังทัพทหารปีศาจคลั่งเหล่านี้ได้อย่างไร?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ