ผู้ใต้บัญชาตนหนึ่งเอ่ยปากถามขึ้นอย่างอดมิได้
สีหน้ายามนี้ของซิ่วเหล่ยบิดเบี้ยวน่ากลัวยิ่งนัก สายตาที่จับจ้องเผยให้เห็นถึงความหายนะ ขณะเอ่ยกล่าวน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า
“พวกเรารอไม่ไหวแล้ว ระดมพลทั้งหมดและบุกเข้าโจมตีเมืองเดี๋ยวนี้ทันที! หนทางเดียวที่รั้งเหลือคือการบุกเมือง!”
สีหน้าการแสดงออกของแม่ทัพกองคนอื่นๆดูจริงจังขึ้นถนัดตา เอ่ยกล่าววาจาแสนเฉียบขาดขึ้นว่า
“รับทราบแม่ทัพใหญ่!”
ซิ่วเหล่ยกล่าวเสียงขรึมว่า
“บอกพวกเราทั้งหมดว่า ทางออกของพวกเราถูกตัดขาดแล้ว หาทางเดียวที่เหลืออยู่คือเบื้องหน้า จงทำทุกวิถีทางเพื่อให้เราอยู่รอดต่อไป!”
แต่ไหนแต่ไหนเผ่าปีศาจมีลักษณะนิสัยโหดเหี้ยมไร้ปรานี ยามนี้ถูกตัดขาดทางเลือกทั้งหมดไป มันยิ่งไปกระตุ้นความบ้าระห่ำของพวกมันขึ้นเป็นทวีทบแทน
กองทัพของเผ่าปีศาจที่ข้ามผ่านเหวมาได้มีประมาณสามหมื่นกว่าตน
ในขณะที่ทักศึกของเผ่ามนุษย์ที่ป้องกันเมืองอยู่ทางเหนือมีประมาณไม่กี่พันคนเท่านั้นในปัจจุบัน
ศึกครานี้ใครแพ้ใครชนะมิอาจด่วนสรุป
…
บนกำแพงเมืองทางเหนือ จงเต๋าจับจ้องจ้าวปิงสีหน้าเย็นชายิ่ง
“เจ้าบอกเองมิใช่รึว่า เผ่าปีศาจมันแทรกซึมอยู่นอกเมืองทางตอนเหนือ! แล้วพวกมันอยู่ไหนกัน?! เมืองทางตอนใต้ยามนี้พัลวันศึกหามรุ่งหามค่ำมาสามวันสามคืนเต็มแล้ว จำนวนทหารที่ตายลงมีมหาศาล แล้วพวกเรามาทำอะไรที่นี่ บอกข้าเสียว่าพวกมันอยู่ที่ไหนกันหมด!?”
จงเต๋าเอ่ยปากคำรามใส่ทันทีด้วยท่าทางแสนเดือดดุ
จ้างปิงหน้าถอดสีแลดูน่าเกลียดยิ่ง เขาในยามนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้ว
หากกองทัพเผ่าปีศาจแอบแทรกซึมเข้ามาจริง ปานนี้พวกมันคงเปิดฉากรุกเข้ามานานแล้ว
สถานการณ์สู้รบในทางตอนใต้ของเมืองรุนแรงกว่าปกติ กองกำลังของฝ่ายมนุษย์ประสบความสูญเสียไม่เว้นวาย ทหารตายลงจำนวนมาก
แน่นอนว่าสถานการณ์ของเผ่าปีศาจเองกลับเลวร้ายยิ่งกว่า พวกมันสูญเสียกำลังไปกว่าเจ็ดหมื่นนายเห็นจะได้
ทางตอนใต้ของเมืองกลายมาเป็นทุ่งที่เกลื่อนกลาดไปด้วยศพ!
แต่ไฉนหัวหน้าของเขายังไม่กลับมาเลยจวบจนบัดนี้?
“เจ้าบอกเองมิใช่รึ เหลียงเฟิงออกไปสอดแนมฝั่งศัตรู หรือยามนี้สิ้นหวังจนตรอกหนีทัพออกไปแล้ว!”
จงเต๋าเอ่ยกล่าวน้ำเสียงสุดเย็นชา
สีหน้าการแสดงออกของจ้าวปิงพลันแปรเปลี่ยนทันที เขากล่าวว่า
“เป็นไปไม่ได้! ไม่มีทางที่หัวหน้าจะเป็นคนขี้ขลาดเช่นนั้น!”
คู่คิ้วของหวังอี้เฟินพลันถักขมวดเข้าหากัน หรือเป็นไปได้ไหมว่า มันจะเป็นข่าวลือที่เผ่าปีศาจจงใจให้หลุดรั่วออกมา?
ในเวลานั้นเอง ผู้ใต้บัญชาคนหนึ่งเร่งรุดตรงเข้ามารายงานว่า
“แม่ทัพใหญ่หวัง กองทหารหน่วยห้าถูกสังหารแทบสิ้นแล้ว! ผู้บัญชาการถ่ายทอดคำสั่ง เร่งนำกำลังของแม่ทัพใหญ่หวังที่รักษาการณ์ทางเหนือเคลื่อนพลลงไปช่วยทางใต้โดยด่วน!”
นัยน์ตาดำของหวังอี้เฟินหดแคบตีบตันหนัก เขาหายใจแช่มลึกอย่างช้าๆก่อนเอ่ยตอบว่า
“เข้าใจแล้ว เร่งระดมกำลังเข้าพบพานสนับสนุน!”
เมื่อกล่าวจบ เขาตะโกนลั่นสั่งการทันทีว่า
“นายทหารทั้งหมดจงฟัง เร่งออกเดินทางไปช่วยทางใต้ของเมืองโดยไว!”
เมื่อได้ยินคำสั่งของหวังอี้เฟิน แววตาสาดสะท้อนประกายเย็นสะท้านของจงเต๋าสาดเข้าใส่จ้าวปิงทันที พร้อมกล่าวอย่างเย็นชาว่า
“ให้ข้อมูลเท็จทางการทหาร ขัดแย้งไม่ฟังคำสั่งของแม่ทัพจนเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ อยากเห็นเสียจริงว่า พวกเจ้าจะรอดจากโทษร้ายแรงเช่นนี้ได้หรือไม่!”
ขณะนี้เองกองกำลังทั้งหมดเตรียมพร้อมมุ่งหน้าสู่ทางตอนใต้ของเมือง เหล่าทหารจำนวนหนึ่งเริ่มไต่ลงมาจากกำแพงเมืองแล้ว
แต่ทันใดนั้นเอง เสียงโห่ร้องคำรามดั่งกลองรบนำชัยพลันดังกึกก้องทั่วฟ้ามัวดินจากนอกกำแพงทางตอนเหนือ!
ทุกคนที่ได้ยินต่างตื่นตะลึงสุดขีด พลันสูญสิ้นสติไปครู่หนึ่ง
จงเต๋าจับจ้องกองทัพเผ่าปีศาจที่เคลื่อนพลรุกคืบเข้ามาอย่างไม่เชื่อ แววตาสาดสะท้อนเปี่ยมล้นความตื่นตะลึงยิ่ง
คล้อยหลังจงเต๋าคนนี้แผ่นหลังเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น หากผู้บัญชาการกับแม่ทัพใหญ่ไม่เชื่อในคำรายงานของจ้าวปิง เกรงว่าเมืองกระแสพิรุณคงพักพินาศในชั่วอึดใจเดียว!
“ทัพปีศาจ! มันคือทัพเผ่าปีศาจ! เร็วเข้า จัดขบวนปกป้องเมือง!”
บรรดาฝูงชนสุดโกลาหลยามนี้ ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าใครต่อใครตะโกนลือลั่นออกมา แต่ละคนได้สติกลับสู่ความเป็นจริง
หวังอี้เฟินสูดหายใจเย็นเข้าแช่มลึก ปรากฏว่ามันเป็นเรื่องจริง!
เผ่าปีศาจสามารถข้ามฝ่าธารน้ำเหวสนามแม่เหล็กผ่านมาได้ และพวกมันก็แทรกซึมอยู่บริเวณทางเหนือ!
เกือบไปแล้ว!
อีกเพียงเสี้ยวอึดใจ พวกเขาทั้งหมดก็จะถอนกำลังออกจากกำแพงเมืองทางเหนือแล้ว!
เมื่อกองทัพของพวกเขาเร่งกลับขึ้นประจำการบนกำแพง พวกเผ่าปีศาจรุกเข้าใกล้จนแทบกระโจนขึ้นกำแพงเมืองได้แล้ว!
ในเวลานี้ทหารเพียงไม่กี่พันนายจะสามารถหยุดกำลังทัพทหารปีศาจคลั่งเหล่านี้ได้อย่างไร?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...