เย่หยวนเอ่ยถามน้ำเสียงเย็นสะท้าน
เมื่อได้ยินคำกล่าวเล่าของหลงซาน ความโกรธภายในใจของเย่หยวนก็ยิ่งทวีลุกโชนเข้าไปใหญ่
กลุ่มคนเหล่านั้นย่อมเสี่ยงตายเพื่อหนีออกไป แทนที่จะเต็มใจอยู่ต่อไปเพื่อปกป้องดินแดนพฤกษานิรันดร์ การกระทำเช่นนี้ช่างเป็นอะไรที่เห็นแก่ตัวอย่างยิ่งยวด
เมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่คืบคลานออกมาจากร่างเย่หยวน หลงซานก็รู้สึกสับสนรวนเรอย่างไม่น่าเชื่อ
“ในตอนนั้นพวกเราเหลือรอดกันมาทั้งหมดเจ็ดคน คล้อยหลังเดินทางเข้ามายังมหาพิภพถงเทียน พวกเราก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่สามารถระบุตำแหน่งได้ พวกเราไม่รู้ว่าเดินทางไปเนิ่นนานเท่าไหร่ แต่จู่ๆก็วิ่งไปชนเข้ากับกลุ่มพ่อค้าทาส! เนื่องจากอาการบาดเจ็บรุนแรง พวกเราจึงไม่มีเรี่ยวแรงไปต่อกรพวกมันได้ ในท้ายที่สุดคล้อยหลังพวกเขาถูกซื้อขายผ่านมือผ่านนายจากสถานที่ต่างๆนาๆ ท้ายที่สุดเราก็ถูกขายให้แก่เผ่าปีศาจ ระหว่างทางสหายสี่คนเสียชีวิตลง ณ ปัจจุบันเหลือกันแค่สามคนเท่านั้น”
เย่หยวนเอ่ยกล่าวเสียงเย็นขึ้นว่า
“พวกเจ้าทุกคนในฐานะที่เป็นกลุ่มคนที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งดินแดนพฤกษานิรันดร์ กลับไร้ซึ่งความรับผิดชอบใดๆ แทนที่จะเต็มใจยอมสละชีพเพื่อต่อต้านดผ่าปีศาจ แต่กลับหนีออกไปทั้งแบบนั้น! ชั่วชีวิตที่เหลือกลับต้องกลายเป็นทาสรับใช้ของพวกปีศาจ บางที…นี่อาจเป็นผลกรรมของเจ้าเอง!”
เหล่าเซียนอาณาจักรพระเจ้าทั้งหมดล้วนล้มหายตายจากกันเกือบหมด บางทีนี่อาจเป็นลิขิตของสวรรค์ล่วงหน้าแล้ว
หลงซานกล่าวขึ้นพร้อมน้ำเสียงสั่นกลัวว่า
“ถูกต้องแล้ว”
เย่หยวนกวาดสายตามองเขาอย่างเยือกเย็นและกล่าวต่อว่า
“นอกจากเจ้าแล้ว คนที่เหลืออยู่ที่ใด?”
หลงซานกล่าวตอบว่า
“ยังมีอีกคนอยู่ในเมืองคาโปน ส่วนอีกคนอยู่ในเมืองจักรพรรดิกล้วยไม้อริยะ ส่วนเป็นตายอย่างไรกลับมิทราบ!”
เย่หยวนพยักหน้าและกล่าวว่า
“สำหรับเรื่องการปลดตราประทับทาสของเจ้า เลิกหวังไปได้เลย ทั้งหมดขึ้นอยู่กับผลงานในอนาคตของตัวเจ้าเอง”
หลงซานดูผิดหวังเล็กน้อย แต่เขาต้องจำใจยอมรับอย่างหมดหนทางว่า
“รับทราบนายท่าน!”
เย่หยวนมิได้ปลดผนึกตราทาสของหลงซานออกมา ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการกระทำของเขาเอง
เมื่อเขาทอดทิ้งดินแดนพฤกษานิรันดร์ไป หลงซานก็ถูกกดขี่รังแกเป็นเวลากว่าหนึ่งแสนปี สันดานความเป็นทาสมันฝังรากลึกลงไปถึงไขกระดูกแล้ว
หลงซานในปัจจุบันหาใช่ผู้นำเผ่ามังกรอย่างในอดีตอีกต่อไปแล้ว
สำหรับเขาที่ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้จวบจนวันนี้ เป็นเพราะความหัวหมอและไหลลื่นตามสถานการณ์เข้าประจบเป็นยอดดี
เขาในตอนนี้กลายเป็นขี้ข้าโดยสมบูรณ์แล้ว!
บุคคลเช่นนี้ เมื่อถูกปลดผนึกตราประทับทาสออก เย่หยวนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะถูกขายหรือทรยศเมื่อใด
“โอ้ใช่แล้ว เจ้าอยู่ในเมืองหลวงคาโปนมาเนินนาน ข้าขอถามอะไรเสียหน่อย ใครคือเจ้าเมืองหลวงคาโปนแห่งนี้เมื่อหนึ่งล้านปีก่อน? แล้วตอนนี้เขายังอยู่ในเมืองคาโปนหรือไม่?”
หลงซานที่ได้ฟังดังนั้นพลันตกตะลึงเล็กน้อย ก่อนส่ายหัวกล่าวว่า
“เจ้าเมืองเมื่อหนึ่งล้านปีก่อน คงมิใช่ว่าตายไปแล้ว?”
โดยปกติเผ่าปีศาจมีอายุขัยยืนยาวและตายได้ยากมาก
ยิ่งเป็นปีศาจอาณาจักรพระเจ้า ชีวิตของพวกมันยิ่งยืนยาวถึงหลายล้านปีและไม่มีทางตายลงโดยง่ายแน่นอน
อาณาเขตดินแดนของเผ่าปีศาจมิได้สงบสุขดั่งของเผ่ามนุษย์ แม้แต่ระหว่างสองเมืองหลวงยังก่อศึกสงครามใส่กันและกันเป็นครั้งคราว
การที่เจ้าเมืองตายในสรมภูมิรบนับเป็นเรื่องธรรมดาเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น หากเมืองหลวงคาโปนถูกกลุ่มอำนาจใดบุกยึด พวกมันย่อมสามารถเข้าท้าทายเจ้าเมืองได้โดยตรง
ตราบเท่าที่อีกฝ่ายสามารถสังหารเจ้าเมืองคนเก่าได้ มันก็สามารถขึ้นแทนที่ได้เลยเช่นกัน
ดังนั้นการสับเปลี่ยนตำแหน่งเจ้าเมืองในดินแดนปีศาจจึงเป็นอะไรที่ถี่มาก
ในหนึ่งศตวรรษ บางเมืองหลวงอาจสับเปลี่ยนเจ้าเมืองไปนับสิบครั้ง!
ดังนั้นแล้ว เจ้าเมืองเมื่อยุคล้านปีก่อนเป็นใคร นับเป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบนัก
แต่ก็เป็นที่แน่นอนเช่นกัน เพราะเซียนของเผ่าปีศาจมีจำนวนมากมายราวกับก้อนเมฆ ดังนั้นความแกร่งกล้าของพวกมันจึงเหนือชั้นกว่ามนุษย์ หากเปรียบเทียบในระดับชั้นเดียวกัน
เหล่าเซียนของเมืองกระแสพิรุณสามารถต้านรับกองกำลังปีศาจได้ นับเป็นร้อยพันศึกสมรภูมิ
มนุษย์ธรรมดาทั่วไปจำนวนสามถึงสี่คนยังไม่สามารถรับมือกับปีศาจในระดับชั้นเดียวกันได้
ทั้งหมดนี้เย่หยวนย่อมตระหนักทราบดีโดยธรรมชาติ ที่เอยถามเรื่องนี้เป็นเพียงเพราะยืนยันความคิดของคนว่าเข้าใจถูกต้องแล้ว
“แล้วเจ้าทราบหรือไม่ว่า ที่แห่งใดในเมืองหลวงคาโปนที่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้มากที่สุด?”
เย่หยวนเอ่ยถามอีกครั้ง
หลงซ่านโพล่งตอบขึ้นทันทีว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...