คู่ต่อสู้ของเขาคือเย่หยวนอย่างแม่นยำ
อย่างไรก็ตามแต่ซิวหนิงได้เห็นฝีไม้ลายมือของเย่หยวนไปแล้ว และเห็นได้ชัดว่ามันค่อนข้างเกรงขามต่ออีกฝ่ายอย่ามาก
“น้องบรรพกาลราตรี เจ้ามีทักษะฝีมือที่ยอดเยี่ยม ซิวหนิงของชื่นชม อย่างไรก็ตาม ลั่วฉีและเป่ยหลานกลับอ่อนแอเกินไป พวกเขาไม่สามารถเอาชนะสุริยันดาราได้แน่นอน ไฉนเจ้าถึงไม่ยอมแพ้ไปตั้งแต่ตอนนี้ สมบัติทั้งแปดที่ได้รับ พวกเราค่อยนำมาแบ่งกันอีกทีคนละสองชิ้น เจ้าคิดเห็นอย่างไรบ้าง?”
ซิ่วหนิงจับจ้องไปที่เย่หยวนพร้อมเอ่ยปากสนทนาด้วย
ลั่วฉีและเป่ยหลานที่ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าการแสดงออกพลันเปลี่ยนไปทันที พวกเขากล่าวเสียงขรึมว่า
“ซิ่วหนิง ที่เจ้าหมายความอย่างไรกัน?”
ซิ่วหนิงเอ่ยตอบเสียงเย็นว่า
“พวกเราย่อมรู้ตื้นลึกหนาบางของพวกเรากันเอง แม้ว่าพวกเจ้าจะพึ่งพาน้องบรรพกาลราตรีเพื่อเอาชนะเราได้ แต่กลับเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จะเอาชนะสุริยันดารา ดังนั้นพวกเจ้ายอมแพ้ไปก่อนดีกว่า”
ลั่วฉีที่ได้ยินเช่นนั้นพลันโกรธจัดแทบสำลัก มันคำรามเสียงเย็นชาขึ้นว่า
“ความหมายของเจ้าคือ พวกเราไม่สามารถเอาชนะพวกเจ้าได้หากไม่พึ่งพาไอ้เด็กนั้น?”
ซิ่วหนิงกล่าวตอบว่า
“กล่าวตามสัตย์จริง ก็ตามที่เจ้าพูด อย่างน้อยพวกเราก็มีโอกาสชนะในรอบต่อไปมากกว่าพวกเจ้า?”
ลั่วฉีกับเป่ยหลานจากที่มีสีหน้าสดใน ยามนี้กลับดูไม่เต็มใจขมขื่นอย่างยิ่ง
แต่ทั้งคู่ก็ทราบดีว่า สิ่งที่ซิ่วหนิงกล่าวไปล้วนถูกต้องแล้ว
จากศึกสองรอบก่อนหน้า ทำให้พวกเขาตระหนักดีว่าจุดแข็งของสุริยันดาราและอีกสองตน มันมิได้อยู่ในระดับชั้นเดียวกับพวกเขาเลย
“พวกเจ้าไม่มีทางเอาชนะข้าได้ เช่นนั้นให้ข้าไปเองดีกว่า”
เย่หยวนเอ่ยปากล่าวขึ้น
สีหน้าการแสดงออกของซิวหนิงพลันแปรเปลี่ยนไป แต่ลั่วฉีและเผ่ยหลาน สีหน้าทั้งคู่เผยถึงความสุขใจขึ้นมาทันควัน
“เริ่มได้!”
เย่หยวนกล่าวขึ้น
สีหน้าของซิ่วหนิงเคร่งขรึมขึ้นทันที พร้อมกระซัดหมัดเหล็กเข้าซัดจู่โจมพร้อมเสียงดังก้อง
ในขณะที่เขาปลดปล่อยกระบวนโจมตีออกมา ราวกับสามารถพลิกสมุทรโค่นบรรพตได้อย่างใดอย่างนั้น
ความแข็งแกร่งของซิวหนิงหาใช่สิ่งที่ลั่วฉีหรือเป่ยหลานจะเปรียบเคียงได้ก็จริง แต่สำหรับหนานฉี ทั้งคู่อาจอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
หากให้เปรียบเทียบกันจริงๆคือ ฉินเทียนอ่อนแอกว่าอย่างไม่น่าเชื่อ
สิ่งนี้น่าตกใจอย่างมากเพราะในท้ายที่สุดนี้ซิวหนิงมีพลังเพียงสองดาวขั้นสุด ในขณะที่ฉินเทียนเป็นถึงเซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าครึ่งขั้น
ความเข้าใจต่อแนวคิดของซิวหนิงลึกซึ้งอย่างมาก รวมไปถึงประสบการณ์การต่อสู้ด้วยเช่นกัน เขาสวมหมัดเหล็กซึ่งเป็นถึงเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์เลิศล้ำคู่แกร่ง นี่นับเป็นคู่ต่อสู้ที่ดีของเย่หยวน
อย่างไรก็ตาม เย่หยวนในปัจจุบันหาใช่เย่หยวนในอดีตอีกต่อไป
หากเขาพบฉินเทียนตอนนี้ เขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่นเลยด้วยซ้ำ เพียงบิดาผู้นี้ก็เพียงพอแล้ว
ฉินเทียนทรงพลังก็จริง แต่นั่นก็ทรงพลังแค่ภายในสถานศึกษาหวูเมิ่ง
ในบรรดาเหล่ายอดฝีมือในระดับชั้นเดียวกันของเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ ผู้ที่เหนือชั้นกว่าเขามีมากมายมหาศาลเกินไป
เย่หยวนที่เข้าฝึกปรือภายในห้วงมิติบ่มเพาะแห่งความตายแทบตลอด มันช่วยขัดเกลาสัญชาตญาณการต่อสู้ของเขาให้เฉียบคมขึ้นทุกวัน
ระดับชั้นอย่างซิวหนิงไม่มีทางคุกคามเขาได้เลย
วูบบบ!
ดาบพิชิตมารฟ้าร่ายรำประดุจภูตผีเป็นประกายเงา พร้อมดิ่งตรงถึงหน้าซิ่วหนิงในชั่วพริบตา
อีกเพียงเสี้ยวนิ้วเดียว ชีวิตของซิ่วหนิงจะพลันดับสูญในทันที
“ทุกคนจงยอมแพ้เดี๋ยวนี้ พวกเราเป็นพวกเดียวกัน ข้าเองก็ไม่อยากให้ทุกคนประสบความสูญเสียเช่นกัน”
เย่หยวนเอ่ยลั่นวาจาดั่งคำขาด
อีกสองคนไม่คิดไม่ฝันว่าทุกอย่างจะลงเอยเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าซิ่วหนิงพ่ายลงแล้วอย่างรวดเร็ว
พวกเขายังคิดที่จะโค่นลั่วฉีและเป่ยหลานให้ไวที่สุด เพื่อล้อมปราบปรามรุมเย่หยวนในตอนท้าย
และทันทีทันใด อีกสองคนกลับต้องชะงักฝีเท้าทันที
เย่หยวนกล่าวเสริมขึ้นว่า
“ข้าจะให้โอกาสเพียงครั้งเดียว หากเจ้ายังผืนต่อไป ก็อย่าตำหนิว่าข้าไร้ซึ่งเมตตา!”
เมื่อสัมผัสได้ถึงคมดาบที่ลุถึงปลายจมูกของตน ร่างของซิ่วหนิงพลันชโลมชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็นจะเปียกแฉะ
“ข้า…ข้าขอยอมแพ้!”
ซิ่วหนิงกล่าวอย่างไม่เต็มใจนัก
สีหน้าการแสดงออกของทั้งสองดูรวนเรอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็จำใจกล่าวยอมแพ้ลงในท้ายที่สุด
ด้วยเหตุนี้ กลุ่มของเย่หยวนจึงสามารถคว้าชัยชนะไปได้โดยไม่ต้องคลั่งโลหิตออกมาเลยสักหยด
ลั่วฉีและเป่ยหลานสีหน้าท่าทางดูร่าเริงอย่างมาก พวกเขาในตอนนี้อยู่ห่างจากสมบัติทั้งแปดเพียงไม่กี่ก้าวแล้วเท่านั้น
เย่หยวนจะไม่ทราบได้อย่างไรว่า ทั้งสองตนนี้ดีใจขนาดนี้เพราะเหตุใด เขาเพียงหัวเราะเยาะเย้ยหยันทั้งคู่อยู่ภายในใจ
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดบนผืนพิภพหาใช่ศัตรูที่ทรงพลัง แต่เป็นการประเมินความสามารถตนเองที่สูงเกินไป
แม้สมบัติเหล่านั้นจะเป็นของดี แต่ก็ควรรับมันไปพร้อมกับชีวิตที่ยังมีอยู่ด้วย!
ไคซินจับจ้องภาพฉากตรงหน้า ยามนี้ใบหน้าของมันบิดเบี้ยวแลดูน่าเกลียดอย่างหาที่เปรียบไม่
เขาเอ่ยเรียกสุริยันดารามาข้างกายและกระซิบถามเบาๆว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...