ศึกสัประยุทธ์เริ่มขึ้นได้!
วูบบบ!
แท่งโลหะสีดำทมิฬทุบลงไปยังหัวของเย่หยวน พร้อมเสียงฉีกกระชากห้วงอากาศ
“เร็วมาก!”
“สุริยันดาราเร้นซ่อนความแข็งแกร่งที่แท้จริงเอาไว้!”
“ไม่! เดี๋ยวก่อน! พวกเขาทั้งสามล้วนปกปิดพลังที่แท้จริงเอาไว้!”
…
แท่งโลหะสีดำทมิฬเป็นตันหนาคล้ายบังคับเคลื่อนไหวอย่างง่ายดายราวกับใช้นิ้วมือได้อย่างคล่องแคล่ว
ในขณะที่มันเปิดฉากโจมตีทั่วบริเวณสะเทือนฟ้าสะท้านแผ่นดิน!
นี่เป็นแนวคิดที่แตกต่างจากก่อนหน้าที่สำแดงนำใช้ออกมาในรอบก่อนๆโดยสิ้นเชิง
ไม่ว่าจะเป็นด้านความเร็วหรือพละกำลัง ความลึกซึ้งต่อแนวคิดกลับอยู่ต่างระดับจากก่อนหน้าราวกับฟ้ากับเหว
ไม่ใช่แค่สุริยันดาราเท่านั้น กระทั่งสองพี่น้องหู่เหยียนและหู่หลัวพลังมือกลับปะทุเพิ่มทวีในพริบตา ขณะเดียวกันทั้งสองก็เข้าสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของลั่วฉีและเป่ยหลานได้โดยสมบูรณ์
อย่างก็ตามแต่ ความแกร่งกล้าของสุริยันดาราก็เหนือชั้นที่สุดในบรรดาทั้งสามอย่างไม่ต้องสงสัย!
หากผู้ใดเป็นคู่ต่อสู้ของสุริยันดาราในยามนี้ มันย่อมสามารถเปาหัวของฝ่ายตรงข้ามได้กระจุยในชั่วอึดใจเดียว
ฝ่ายตรงข้ามที่เคยเผชิญหน้ากับสุริยันดาราในยามนี้ ต่างเผยสีหน้าแสดงความหวาดกลัวขึ้นในทันใด
โชคยังดีนักที่เป้าหมายของสุริยันดาราในยามนี้คือเย่หยวน มิฉะนั้นกลับเป็นฝ่ายพวกมันที่แหลกเหลวกลายเป็นศพไม่เหลือชิ้นดีนานแล้ว
มุมปากเย่หยวนกระตุกขึ้นเล็กน้อย ยามนี้เผยรอยยิ้มอันเหยียดหยันประดับใบหน้า เขาหาได้ถอยหนีไม่ แต่ย่างก้าวขึ้นหน้าแทน ทันใดนั้นร่างของเย่หยวนพลันไสววูบพุ่งออกไปในทันใด
เกร๊งง!
เสียงดังกึกก้องส่งผ่านออกมาชัดแจ้ง ปลายคมดาบของเย่หยวนสวนกระแทกลงบนแท่งโลหะอย่างแม่นยำ ส่งแรงผลักกวาดแท่งโลหะกระเด็นออกไป
แรงสั่นสะเทือนที่ปะทะชนส่งผ่านมาถึงปลายด้ามกระชับจับแน่น สุริยันดารารู้สึกถึงความชาที่ลามมาถึงท่อนแขน สั่นสะท้านแทบคลายอ่อนออกจากด้ามจับ
ในยามนี้สุริยันดารารู้สึกตื่นตกใจอย่างมาก
กระบวนเมื่อครู่ดูเรียบง่ายไร้พิษสง ทว่าความเป็นจริงกลับยากยิ่งที่จะต่อกรนักหนา
เขาเคยเผชิญหน้ากับยอดนักดาบมานับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยเห็นกระบวนดาบใดที่สามารถตอบโต้เขาด้วยวิธีการนำใช้ชนิดนี้
หากเกิดความผิดพลาดแม้นเพียงเล็กน้อย แท่งโลหะจะเหวี่ยงอัดศีรษะแหลกเละ ศาสตร์แห่งเต๋าภายในตัวสูญสลายดับอนาถ
ทว่าชายหนุ่มคนนี้กลับผิดประหลาดยิ่งนัก!
เกร๊ง! เกร๊ง! เกร๊ง!
เสียงโลหะปะทะชนสาดสะท้อนกึกก้อง เพียงเสี้ยวพริบตาทั้งสองสัประยุทธ์แลกเปลี่ยนกระบวนนับหลายสิบ ทั้งต้านรับจู่โจมสลับไปมา
เหล่าผู้พิทักษ์จากตระกูลอื่นๆ โดยรอบลานประลองต่างอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“บรรพกาลราตรีเองก็ปกปิดพลังที่แท้จริงเอาไว้เช่นกัน!”
“แม่ทัพปีศาจสองดาวชั้นกลางสามารถสำแดงฤทธิ์เดชได้ปานนี้ ช่างน่าเกรงขามโดยแท้!”
“เจ้าหนุ่มคนนี้บ่มเพาะพลังมาอย่างไรกัน? แม้ระดับพลังมิได้สูงค่านัก ทว่าพลังการต่อสู้กับเหนือชั้นเป็นอย่างยิ่ง!”
…
แต่ในตอนนั้นเอง ลั่วฉีและเป่ยหลานก็มิอาจต้านรับได้ไหวอีกต่อไป
ภายใต้แรงกดดันของสองพี่น้องหู่เหยียนและหู่หลัว พวกเขาทำได้เพียงต้านรับขับสู้ และมิอาจหาจังหวะโต้ตอบกลับได้เลย
ในเวลานี้เอง พวกเขาทราบแล้วว่าทำไมสุริยันดาราถึงยื่นข้อเสนอให้ทั้งคู่ยอมแพ้ไปตั้งแต่แรก
เมื่อพวกเขาต้องการจะหนียามนี้ กลับไม่สามารถทำได้เลย!
“ข้ายอมแล้ว ข้ายอมแล้ว! ขอร้องเถิด ปล่อยข้าออกไป!”
ลั่วฉีกรีดร้องขึ้นลั่น
หู่เหยียนแสยะยิ้มน่าสยดสยองนักพลางกล่าวขึ้นว่า
“เหอะ เปล่าประโยชน์ ตายซะ!”
“พร๊วดดด!”
แท่งเหล็กหนาของหู่เหยียนทุบใส่ลั่วฉีแหลกเละกลายเป็นเนื้อบดในทันใด
ในขณะเดียวกันเป่ยหลานก็ถูกหู่หลัวฆ่าตายไปแล้วเช่นกัน
ณ ปัจจุบัน บนลานประลองกลายมาเป็นการสัประยุทธ์แบบสามต่อหนึ่งทันที!
สุริยันดารา หู่เหยียนและหู่หลัว ทั้งสามกระจายตีล้อมอีกฝ่ายประจำตำแหน่งเป็นทรงสามเหลี่ยม โดยมีเย่หยวนอยู่ ณ ใจกลางถูกตัดขาดจากทางหลบหนีทั้งหมด
“ฮ่าๆ คาดไม่ถึงใช่หรือไม่ว่า เจ้าโง่ทั้งสองตัวนั้นยังคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสหนีรอดไปได้? แท้ที่จริงแล้ว เป้าหมายของเราทั้งสามคือเจ้าตั้งแต่ทีแรกแล้ว! ข้าขอดูหน่อยว่า เจ้าจะหนีไปไหนได้หรือไม่?!”
สุริยันดาราเอ่ยกล่าวขึ้นพร้อมแผดเสียงดังลั่น
เย่หยวนส่งสายตาให้พวกนั้นราวกับกำลังมองคนโง่ และเอ่ยขึ้นอย่างเฉยเมยขึ้นว่า
“แล้วใครบอกว่าข้าจะหนี?”
“เหอะ เจ้าหนูตัวนี้ยังต้องการสำแดงความหาญกล้า? คิดหรือว่าจะปราบปรามพวกเราทั้งสามได้?”
หู่เหยียนหัวเราะเสียงเย็น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...