เมื่อหรงซูได้ยินแบบนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะชนิดไม่มีหยุดพัก
“จะรู้จักหรือไม่ อีกไม่นานคงได้ทราบ ถึงตอนนั้นอย่าหาวาจาแก้ตัวเสีย?”
เย่หยวนเอ่ยกล่าวน้ำเสียงเย็นสะท้าน
“เหอะ ในเมื่อเจ้ากำลังรนหาที่ตายด้วยตนเองแล้ว เราชายชราคนนี้จะไม่ทำให้ผิดหวัง เตรียมเอาหน้ามุดดินเสียโดยเร็ว”
หรงซูเอ่ยกล่าวประดับยิ้มแสยะเย็น
หากกล่าวถึงความเชี่ยวชาญในการหลอมกลั่นโอสถสุริยันจักรวาลของหรงซู กล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาหลอมกลั่นโอสถสุริยันจักรวาล ทะลวงถึงจุดสูงสุดแห่งขั้นสวรรค์ ขาดอีกเพียงก้าวเดียวก็จะบรรลุสู่ขั้นเทวะ
สำหรับโอสถสุริยันจักรวาล นี่นับเป็นเรื่องอัศจรรย์อย่างยิ่งยวด
มีคำกล่าวเล่าขานในหมู่จอมเทพโอสถว่า โอสถสุริยันจักรวาลคือโอสถที่หลอมกลั่นได้ยากที่สุดในบรรดาระดับสามทั้งหมด!
สำหรับจอมเทพโอสถสามดาวที่ต้องการทดลองหลอมกลั่นโอสถสุริยันจักรวาล นับเป็นเรื่องโง่เขลาที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
อาจกล่าวได้ว่าโอสถสุริยันจักรวาล เป็นสิ่งต้องห้ามไปโดยปริยายสำหรับจอมเทพโอสถสามดาว
แม้มันจะเป็นเพียงโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสามก็ตาม
เพียงได้กลืนมันลงไปก็สามารถขยายขอบเขตความเข้าใจต่อยอดเต๋า ประดุจเปิดโลกทัศน์ใบใหม่แก่เหล่าเซียน ตราบใดที่กินมันลงไปจะสามารถเพิ่มพูนความเข้าใจให้อยู่ในระดับลึกซึ้งได้ทันที
นี่จะเห็นได้ว่า ความยากลำบากในการหลอมกลั่นโอสถชนิดนี้มันสูงส่งปานใด
อย่างไรก็ตามแต่ เมื่อทุกคนได้ยินว่า ผู้อาวุโสใหญ่กำลังจะหลอมกลั่นโอสถสุริยันจักรวาล แต่ละคนล้วนตื่นเต้นจนเนื้อตัวสั่นเทาอย่างหาที่เปรียบไม่
“ช่างยอดเยี่ยมเกินไปจริงๆ! การได้มีโอกาสเห็นผู้อาวุโสใหญ่หลอมกลั่นโอสถสุริยันจักรวาลโดยตาตนเองเช่นนี้ นับเป็นครั้งเดียวในชั่วชีวิต!”
“แม้ว่าผู้อาวุโสเย่จะเชื่อถือมิได้ แต่ครั้งนี้เขาได้มอบประโยชน์แก่พวกเราเหล่านักหลอมโอสถระดับล่างอย่างแท้จริง!”
“เหอะ เหอะ ผู้อาวุโสเย่ก็แค่คนโง่เขลาที่ไม่รู้จักเกรงกลัวต่อฟ้าดิน ริอาจประชันกับผู้อาวุโสใหญ่ด้วยโอสถสุริยันจักรวาล? นี่มิใช่พาเด็กน้อยมาทรมานเล่นหรอกรึ?”
“บางทีเขาคงคิดว่า หากพ่ายแพ้ภายใต้การประลองหลอมกลั่นโอสถระดับยากปานนี้ คงจะทำให้ขายหน้าน้อยกว่ากระมัง? แต่ด้วยเหตุนี้จะทำให้เขามีปัญหาแน่นอนในอนาคต!”
…
สมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้หลอมกลั่นโอสถสุริยันจักรวาลหายากอย่างมาก แต่ด้วยอิทธิพลของเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ การรวบรวมสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ระดับสามเพียงไม่กี่ชุด นับว่ามิใช่เรื่องยากไม่
เพียงว่าราคาโอสถชนิดนี้นับว่าสูงเกินประเมิน มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จ่ายเงินเพื่อเชิญผู้อาวุโสใหญ่มาหลอมกลั่นให้ได้
ไม่นานนัก ก็มีคนนำวัตถุดิบทั้งสองชุดส่งตรงมาที่หอโอสถ
“ผู้อาวุโสเย่ สมุนไพรวิญญาณเหล่านี้ได้มาจากเหล่าสาวกหอยุทธ์ที่เสี่ยงตายเพื่อชิงมันมา แต่การหลอมกลั่นของเจ้ากล่าวได้ว่าสิ้นเปลืองโดยแท้!”
หรงซูชี้ไปที่กองสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นพลางเอ่ยกล่าวขึ้นด้วยความเสียดาย
เย่หยวนหัวเราะเช่นนั้นทั้งๆกับตนเองเมื่อได้ยิน และกล่าวว่า
“คำกล่าวของผู้อาวุโสใหญ่ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว จะสิ้นเปลืองหรือไม่คงทราบหลังจากนี้เท่านั้น หากคุณภาพโอสถของท่านแย่กว่า กลับเป็นตัวท่านเองที่ใช้สิ้นเปลือง!”
หรงซูที่ได้ยินแบบนั้นพลันตะคอกเสียงเย็นใส่และกล่าวว่า
“ฝีปากคมดีหนิ! ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะสามารถหลอมกลั่นโอสถสุริยันจักรวาลได้จริงๆ!”
เย่หยวนยักไหล่กล่าวขึ้นว่า
“ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะมากล่าวตอนนี้ เริ่มกันเลยเถิด! หึหึ…ผู้อาวุโสใหญ่เริ่มก่อนเลย ข้าขอศึกษาจากท่านก่อน”
หรงซูระเบิดหัวเราะลั่นเมื่อได้ยิน
“เช่นนั้นก็จงดูให้ดี!”
ทันทีที่กล่าวจบ ฝ่ามือทั้งสองของผู้อาวุโสใหญ่ก็วาดลวดลายกลายมาเป็นตราผนึกทันที รัศมีกลิ่นอายแห่งยอดเต๋าพุ่งเฉียดฟ้าสูง สร้างความปั่นป่วนไปทั่วหอโอสถ
เมื่อบรรลุถึงขอบเขตจอมเทพโอสถสี่ดาวได้สำเร็จ ระหว่างการหลอมกลั่นโอสถในแต่ละครั้งจะสามารถกระตุ้นกลิ่นอายแห่งยอดเต๋าออกมาเด้ หากเป็นผู้แกร่งกล้าเฉกเช่นผู้อาวุโสใหญ่จะสามารถดึงพลังออกมาได้มากเป็นพิเศษ
สายตาคู่นั้นของหรงซูแปรเปลี่ยน ดูจริงจังขึ้นถนัดตา เขาเอ่ยพึมพำกับตนเองว่า
“ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของเขาจะพัฒนาขึ้นอีกแล้ว!”
ทั้งสองสู้รบปรบมือกันมานานหลายร้อยพันปี มักมีหลายครั้งที่ทะเลาะกันอย่างลับๆ
สำหรับพลังฝีมือของหรงซู ซวนอี้ย่อมตระหนักชัดแจ้งดีที่สุด
จากคลื่นพลังสุดน่าประทับใจนี้ เขาสามารถรับรู้ได้ทันทีความแข็งแกร่งของหรงซูพัฒนาเพิ่มขึ้นแล้วเล็กน้อย
พัฒนาการของผู้อาวุโสใหญ่ในครั้งนี้ เดิมที มันย่อมสามารถสลัดหลุดออกจากเขา และนำหน้าไปแล้วก้าวหนึ่ง
แต่ช่างน่าเศร้านัก…ซวนอี้ดันมาพบเจอกับเย่หยวนเสียก่อน!
ครั้งล่าสุดที่ซวนอี้เฝ้าศึกษาเย่หยวนหลอมกลั่นโอสถ นั้นทำให้เขาได้รับผลกำไรไปอย่างมหาศาล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...