จริง ๆ ในใจของหลิงจี้คุนเขารู้ดีว่ามันช่างเป็นคำกล่าวอ้างที่ไร้สาระ
เย่หยวนนั้นอายุน้อยกว่ากู่ฮั่นมากมาย ทำให้คำแย้งนี้ไม่มีอะไรเป็นหลักให้แย้งเลย
หากจะให้บอกเหตุผลจริง ๆ มันก็คงเป็นเพราะว่ากู่ฮั่นไม่มีความสามารถเทียบเท่าเย่หยวนได้
การที่จอมเทพโอสถสามดาวสามารถเก่งกาจได้ขนาดนั้นมันช่างทำให้ผู้คนต้องสิ้นหวังจริง ๆ
ในเวลาหลายปีมานี้หลิงจี้คุนมักรู้สึกภูมิใจเสมอที่ได้กู่ฮั่นมาเป็นศิษย์ และนำพาศิษย์รักของเขาคนนี้ไปไหนมาไหนเพื่อท้าประลองกับคนไปทั่ว
ในเวลาหลายปีที่ผ่านมา กู่ฮั่นแทบจะไม่เคยแพ้ใครเลย
แต่วันนี้เขากลับต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ
เย่หยวนนั้นอาจจะดูเหมือนแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง แต่เด็กน้อยคนนี้กลับกลายเป็นผู้อาวุโสผู้ยิ่งใหญ่!
แต่ฝั่งหรงซูจะยอมง่าย ๆ ได้อย่างไร? ตอนนี้เขาได้แต่หัวเราะออกมา “พี่จี้คุน ผู้อาวุโสเย่นั้นคือผู้อาวุโสของหอโอสถ ชายแก่คนนี้ไม่มีปัญญาไปสั่งเขาหรอกว่าจะให้ไปสั่งสอนศิษย์ของท่าน ที่สำคัญแม้ผู้อาวุโสเย่จะเป็นผู้อาวุโสของหอโอสถ แต่เขาก็มีอายุน้อยกว่ากู่ฮั่นมาก หากให้พูดถึงคนหนุ่มยอดอัจฉริยะของเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์จริง ๆ มันก็ต้องเป็นเขาคนนี้นี่แหละ! ท่านเอาแต่พูดจาอะไรไร้สาระ”
หรงซูนั้นรู้สึกปลอดโปร่งอย่างมากมาย นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขารู้สึกชอบใจในการกระทำของเย่หยวนขึ้นมา
ในเวลาหนึ่งเดือนมานี้เขาต้องพบเจอกับความอับอายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
เขาไม่เคยที่จะเชิดหน้าสู้หลิงจี้คุนได้เลย
ตอนนี้ใบหน้าของหลิงจี้คุนนั้นดำสนิทราวกับก้นหม้อ “ไม่ว่าจะใช้เหตุผลใดมากล่าวอ้างยังไงเสียเขาคนนี้ก็เป็นถึงผู้อาวุโส! ให้คนระดับนี้มาประลองกับศิษย์ของชายแก่คนนี้ได้อย่างไรกัน?”
หรงซูหันไปมองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสเย่นั้นเกินกว่าที่จะมาพบกับศิษย์ของท่านจริง ๆ นั่นแหละ ท่านไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นเขาแค่สอนหนิงซืออวี๋นิด ๆ หน่อย ๆ แค่ไม่กี่วันนางก็สามารถจัดการชนะศิษย์ของข้าได้แล้ว หากให้ข้าเดา วันนี้เขาคงมาเพื่อกู้หน้าให้เด็กน้อยหนิงซืออวี๋นางนั้น”
ใบหน้าของหลิงจี้คุนกระตุกขึ้นมาก่อนจะกล่าวอย่างเยือกเย็น “เฮอะ! แล้วมันยังไง?! ศิษย์ข้านั้นเก่งกาจทั้งด้านวิชายุทธและวิชาโอสถ รอให้ถึงตอนที่เขาจัดการผู้อาวุโสเย่ของท่านลงเถอะ เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์จะได้เสียชื่ออย่างกู้ไม่กลับ!”
แต่เมื่อหรงซูได้ยินแบบนั้นเขากลับไม่คิดจะตอบอะไรกลับมา
รอยยิ้มแฝงนัยยะของหรงซูนั้นมันทำให้หัวใจของหลิงจี้คุนต้องสั่นระรัว
หรือว่าจริง ๆ แล้วผู้อาวุโสเย่คนนี้จะเก่งกาจในวิชายุทธด้วย?
บ้าน่า!
ผู้อาวุโสเย่คนนี้ยังเด็กมาก แต่กลับมีวิชาโอสถถึงจุดสูงสุดแบบนี้แล้วเขาจะยังมีวิชายุทธที่เหนือล้ำกว่ากู่ฮั่นอีกหรือ?
แต่หากไม่ใช่แบบนั้นแล้วรอยยิ้มของหรงซูมันหมายความว่ายังไง?
…
“ศิษย์พี่ใหญ่ ผู้อาวุโสเย่คนนี้มีความสามารถในด้านโอสถที่น่าเกรงขามมาก! แต่ในวิชายุทธ เขาไม่มีทางรับมือศิษย์น้องเล็กได้แน่ ๆ”
ชายหนุ่มถือดาบจึงพยักหน้ารับ “ศิษย์น้องเล็กนั้นเรียนรู้แนวคิดแห่งลมและแนวคิดแห่งไฟ ที่สำคัญเขายังเข้าใจมันได้อย่างถ่องแท้ด้วย นักยุทธระดับการบ่มเพาะเดียวกับเขาคงไม่มีใครสามารถรับมือเขาได้แน่ ๆ ที่สำคัญผู้อาวุโสเย่มีพลังบ่มเพาะไม่เท่าเขาเสียด้วยซ้ำ”
“ฮึฮึ ผู้อาวุโสเย่คิดว่าตัวเองเป็นยอดอัจฉริยะ เขาจะมั่นใจเกินไปแล้ว! ต่อให้เป็นข้า หากข้ามีพลังบ่มเพาะเท่าศิษย์น้องเล็กข้าเองก็คงสู้เขาไม่ได้เช่นกัน”
ชายหนุ่มถือดาบจึงเสริมขึ้น “เมื่อถืงตอนที่ศิษย์น้องเล็กจัดการผู้อาวุโสเย่คนนี้ลง เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์คงต้องเสียชื่ออย่างไม่มีทางกู้กลับแน่ ๆ”
กู่ฮั่นมองดูเย่หยวนและกล่าวขึ้นอย่างเหยียดหยาม “ท่านเข้ามา! ข้ามีพลังบ่มเพาะสูงกว่าท่าน ข้าจะต่อให้ท่านก่อนสามกระบวนท่า เดี๋ยวผู้คนจะหาว่าข้ารังแกคนอ่อนแอ!”
เมื่อเขาพูดจบผู้คนที่มุงดูโดยรอบก็เปลี่ยนสีหน้าไป
ผู้อาวุโสเย่นั้นคือผู้ที่เข้าใจแนวคิดแห่งห้วงมิติ แล้วเขาคนนี้กลับกล้าจะตั้งรับก่อนสามกระบวนท่า?
นี่… เจ้าเด็กคนนี้มันจะไม่กลัวตายหน่อยรึ?
และไม่นานก็เป็นเย่หยวนที่ตอบออกมา “ข้านั้นเป็นผู้อาวุโส มีหรือที่จะเอาเปรียบเจ้าก่อนได้? หากพูดถึงการต่อให้ ข้าต่างหากต้องเป็นฝ่ายต่อให้ เอาแบบนี้ไหม? เจ้าโจมตีเข้ามาได้เต็มที่ ข้าจะไม่ตอบโต้ ตราบเท่าที่เจ้าจับชายเสื้อข้าได้ข้าจะยอมรับว่าตัวเองแพ้!”
กู่ฮั่นนั้นรู้สึกเหมือนเพิ่งได้ยินมุกตลกที่สุดในชีวิต เขาได้แต่สงสัยว่าสมองของผู้อาวุโสเย่คนนี้ยังทำงานดีอยู่รึเปล่า?
หรือเย่หยวนนั้นจะไม่รู้ว่าตัวเขาได้กวาดล้างศิษย์ทั้งหลายของหอยุทธจนสิ้น?
หรือว่าเย่หยวนจะไม่รู้ว่าเขาเข้าใจแนวคิดแห่งลมและแนวคิดแห่งไฟ?
อืม เขาต้องไม่รู้อะไรเลยแน่ ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...